ท่ามกลางพลวัตของโลกดิจิทัล ภาพของอุตสาหกรรมโรงงานไทยจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขับเคลื่อนให้เท่าทันเทรนด์ของโลก ทั้งการเสริมประสิทธิภาพกระบวนการผลิตที่จะต้องลดต้นทุนแต่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด ตลอดจนการประหยัดพลังงาน สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
โลกอุตสาหกรรมปัจจุบันมีการพูดเรื่อง Industry 4.0 มากขึ้น ซึ่งนี่เป็นพอยต์สำคัญที่โรงงานไทยต้องประยุกต์นำมาใช้ สร้างโซลูชั่นที่มุ่งเน้นการเชื่อมต่อของข้อมูลในทุกระดับ สามารถใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อการพัฒนาประสิทธิภาพตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึง supply chain
ตลอดจนเป็นการช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการ และช่วยยกระดับมาตรฐานการศึกษาและความรู้ของบุคลากรด้านเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติ ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนสู่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก
บริษัทมิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (MELFT) เป็นบริษัทหนึ่งในกลุ่ม Mitsubishi Electric ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2013 (2556) จากการผนึกกำลังกันของ Mitsubishi Electric และ บริษัท FA Tech จำกัด
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์ Factory Automation หรือระบบโรงงานอัตโนมัติ ให้แก่ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทย พร้อมบริการและฝึกอบรมความรู้ทางเทคนิคและการใช้งาน Factory Automation ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยทีมงานที่ผ่านการฝึกฝนมาแล้วอย่างดีจากประเทศญี่ปุ่น
ด้วยเป้าหมายสนับสนุนและยกระดับโรงงานอุตสาหกรรมการผลิตของไทย ให้มีความทันสมัยเป็นอัตโนมัติ ลดการใช้พลังงานและลดต้นทุนการผลิตทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมของไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก
e-Factory–Connect Everything
ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด จึงจัดงานสัมมนา Mitsubishi Electric-Factory Automation Forum 2019 ภายใต้หัวข้อ e-Factory–Connect Everything เพื่อนำเสนอโซลูชั่น “e-F@ctory” และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ณ ห้องฉัตราบอลรูม ชั้น 2 โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ
เริ่มตั้งแต่เล่าเรื่องราวและบทบาทที่สำคัญของ Mitsubishi Electric และพันธมิตรทางธุรกิจที่มีต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทย จากอดีตจนถึงปัจจุบัน และแนวโน้มของเทคโนโลยีที่จะถูกนำมาใช้กับภาคอุตสาหกรรมของไทยในอนาคต รวมถึงความร่วมมือกับภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการความร่วมมือในการสร้างศูนย์การเรียนรู้และฝึกอบรม เพื่อพัฒนาขีดความสามารถบุคลากรและกำลังคนเพื่ออุตสาหกรรม “Smart Factory หรือ โรงงานอัจฉริยะ
ต่อด้วยการจัดแสดงและสาธิตการทำงานร่วมกัน ระหว่าง e-Factory Solution กับเทคโนโลยี AI ซึ่งในการจัดแสดงมีพันธมิตรทางธุรกิจถึง 16 บริษัท ได้นำเทคโนโลยีด้าน Smart Factory ของแต่ละบริษัทมาร่วมจัดแสดงพร้อมกันในงานนี้
สำหรับ Smart Factory หรือ โรงงานอัจฉริยะ ของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ประกอบด้วยระบบการทำงาน 3 ส่วน ที่เชื่อมต่อกันและทำงานร่วมกันแบบ Real Time ควบคุมการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ระบบ IT จะทำหน้าเก็บรวบรวมข้อมูลในทุกมิติของกระบวนการผลิต การปฏิบัติจัดการ การบริหารการผลิต วิเคราะห์และประมวลผล การป้อนคำสั่งการทำงาน ระบบ Edge Computing จะทำหน้าที่ส่งผ่านข้อมูลคำสั่งไปยังหน้างาน และเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ จากหน้างานนำกลับมาสู่การประมวลผลใหม่ ระบบหน้างาน (Shop Floor) เมื่อได้รับคำสั่งจะเกิดกระบวนการทำงานบนหน้างาน
มีระบบการควบคุมที่สามารถปรับตั้งได้ ซึ่งทั้ง 3 ระบบจะทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบโดยอัตโนมัติ เทคโนโลยี AI และ Robot เสริมให้การทำงานมีความถูกต้องไม่มีความผิดพลาด ซึ่งผลที่ได้จะช่วยในการเพิ่มผลผลิต เพิ่มคุณภาพ สร้างความยั่งยืน มั่นคงและปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และส่งผลให้ลดต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ยังมีตัว Sensor ที่สามารถตรวจจับความผิดปกติของกระบวนการผลิตและแจ้งเตือนตลอดเวลาแก้ปัญหาทั้งปวงที่เคยมี
ลงนาม MOU กับ มหาวิทยาลัยบูรพา สร้างคนพัฒนาอุตสาหกรรมไทยใน EEC
อีกหนึ่งความสำคัญของงานนี้ คือการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (Sign MOU) ภายใต้กรอบความร่วมมือในการพัฒนากำลังคนด้านเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ระหว่าง บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กับมหาวิทยาลัยบูรพา
โดยทางมิตซูฯ จะให้การสนับสนุนทั้งอุปกรณ์แบบจำลองระบบโรงงานอัตโนมัติและหุ่นยนต์ (Robot) ที่ใช้ในอุตสาหกรรม (Smart Factory–Model Line) ติดตั้งในศูนย์การเรียนรู้และอบรมที่จะจัดสร้างขึ้นในบริเวณพื้นที่ของมหาวิทยาลัยบูรพา

อีกทั้งยังจะช่วยทำหน้าที่ในการถ่ายทอดความรู้ทางเทคโนโลยีให้แก่นักศึกษา ทีมงานและบุคลากรทางการศึกษาของมหาวิทยาลัยบูรพา ให้เกิดความรู้ด้าน Factory Automation อย่างกว้างขวาง
ทั้งนี้ คาดว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์ประมาณกลางปี 2563 ซึ่งจะช่วยผลิตบุคลากรที่มีขีดความสามารถด้านระบบโรงงานอัจฉริยะ พร้อมป้อนเข้าสู่ภาคธุรกิจที่จะเข้ามาลงทุนด้านอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษของ EEC ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ
เจ้าแรก! ศูนย์ ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่ งชาติ ด้ วยระบบโปรแกรมเมเบิลลอจิ กคอนโทรลเลอร์
และเพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานสำหรั
โดยมี คุณวรรณี โกมลกวิน ผู้อำนวยการสำนักพั
นี่จึงเป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของ Mitsubishi Electric Factory Automation สามารถให้ความมั่นใจต่อผู้ประกอบการ ว่าบริษัทฯ มีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคอย่างเพียงพอ ผ่านประสบการณ์การทำงานระบบโรงงานอัตโนมัติมาแล้วในหลายประเทศทั่วโลก ที่พร้อมให้ปรึกษาและฝึกอบรมบุคลากรของผู้ประกอบการให้สามารถทำงานระบบ Factory Automation ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมถึงการให้บริการด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างครอบคลุม นอกจากนี้ บริษัทยังมีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาหลายแห่งทั่วประเทศมาแล้วกว่า 3 ปี ที่จะผลิตบุคลากรด้าน Factory Automation เข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างต่อเนื่อง ที่ผู้ประกอบการสามารถวางใจได้ว่า บุคลากรด้าน Factory Automation ในประเทศไทยจะไม่ขาดแคลนอย่างแน่นอน สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทมิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด 02-682-6522-31 www.mitsubishifa.co.th
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ