ยังคงมีความเคลื่อนไหวที่ส่งสัญญาณว่าปีนี้การแข่งขันในตลาด Streaming Media จะเป็นไปอย่างดุเดือด โดย Apple ทุ่มเงินในการผลิตเนื้อหารายการ (Content) สำหรับ Apple TV+ ซึ่งเป็น Streaming Platform ของตัวเองมากถึง 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 186,000 ล้านบาท)
นอกจากนี้ งบประมาณในการถ่ายทำต่อตอนสำหรับบาง Content ที่มีนักแสดงดังอย่าง The Morning Show ซึ่งได้ Jennifer Aniston กับ Reese Witherspoon รับบทนำ ยังสูงถึง 15 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 465 ล้านบาท) มากกว่า Game of Thrones ฤดูกาลสุดท้ายอีกด้วย

ที่ Apple กล้าทุ่มเงินก้อนโตขนาดนี้ก็เพื่อรับประกันว่า Content ใน Platform จะมีความน่าสนใจไม่แพ้ของ Disney+ Streaming Platform คู่แข่งที่มีกำหนดเปิดให้บริการในปีนี้เช่นกัน ซึ่งมีจุดแข็งอยู่ที่คลัง Content ขนาดใหญ่ทั้งหนังและ Series ที่คนทั่วโลกต่างรู้จักกันดีอยู่แล้วอย่าง Star Wars และ The Avengers รวมไปถึง Content อีกมากมายที่ได้มาจากการซื้อกิจการค่ายหนัง Fox อีกด้วย
ขณะเดียวกัน Apple ยังต้องเตรียมพร้อมในการขับเคี่ยวกับรายใหญ่ที่ครองตลาด Streaming TV อย่าง Netflix และคู่แข่งอีกมาก เช่น Amazon, Warner และ CBS Viacom
การมุ่งชิงความได้เปรียบจาก Disney ของ Apple ยังแสดงให้เห็นจากกำหนดการเปิดให้บริการ Apple TV+ ราวตุลาคมนี้ ซึ่งเร็วกว่า Disney+ ที่จะประเดิม Stream วันแรก 12 พฤศจิกายนนี้ โดยเริ่มที่สหรัฐฯ แคนาดา และเนเธอร์แลนด์ก่อน
อย่างไรก็ตาม Disney+ ก็มีแต้มต่ออยู่ที่ค่าบริการรายเดือนเริ่มต้นที่ 6.99 เหรียญสหรัฐ (ราว 216 บาท) ถูกกว่า ของ Apple TV+ ซึ่งเริ่มต้นที่ 9.99 เหรียญสหรัฐ (ราว 310 บาท)

ด้าน Disney ซึ่งจะเป็นคู่แข่งรายใหญ่ของทุกค่ายทันทีเมื่อลงตลาด Streaming TV ก็ให้ความสำคัญกับการรุก Streaming TV
เพราะไตรมาสล่าสุดกลุ่มธุรกิจด้าน Content ที่มีการส่งตรงถึงผู้บริโภค (Direct-to-Consumer) ช่วยให้ Disney มีผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดสูงถึง 20,200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 626,200 บาท) เพิ่มจากปีก่อน 33% จึงตั้งเป้าว่าเมื่อถึงปี 2025 จำนวนสมาชิกของ Disney+ ทั่วโลกน่าจะอยู่ที่ 60-90 ล้านคน/cnbc, cnn
–
