หลังจากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ยุติการให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนมกราคม 2562 ที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงและเตรียมพื้นที่สร้างโรงแรมแห่งใหม่ที่จะเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของกรุงเทพฯ ภายใต้โครงการมิกซ์ยูส “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค”  มูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาท กลุ่มดุสิตธานีได้เดินหน้าขยายการลงทุน รวมถึงบริการในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งโครงการ “บ้านดุสิตธานี” เป็นหนึ่งในนั้น

ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจาก “บ้านดุสิตธานี” ได้ทยอยเปิดให้บริการในเฟสแรก เริ่มจากดุสิต กูร์เมต์ ซึ่งให้บริการในรูปแบบคาเฟ่ ที่มีทั้งอาหารจานหลัก เครื่องดื่มและเบเกอรี่ ต่อเนื่องมาจนถึงห้องอาหารเบญจรงค์ ซึ่งให้บริการอาหารไทย ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับจากลูกค้า ทั้งลูกค้าเดิมของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ และลูกค้าใหม่อย่างคึกคัก ทำให้มั่นใจว่า หลังจากเปิดให้บริการห้องอาหารเวียดนาม “เธียนดอง” ในวันที่ 18 กันยายน ซึ่งเป็นการเปิดตัว “บ้านดุสิตธานี” เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการจะได้รับการตอบรับอย่างดีมากอีกเช่นกัน

สำหรับ “บ้านดุสิตธานี” เป็นร้านอาหารแบบ Stand Alone แห่งแรกของกลุ่มดุสิตธานี ที่ตัดสินใจลงทุนด้วยการทำสัญญาเช่าบ้านสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สองที่มีความสวยงาม ทรงคุณค่าด้านงานสถาปัตยกรรม รายล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวของพันธุ์ไม้ต่างๆ โดยมีขนาดพื้นที่กว้างขวางถึง 4.5 ไร่ ตั้งอยู่ในซอยศาลาแดง ใจกลางกรุงเทพมหานคร

ภายใน “บ้านดุสิตธานี” ประกอบด้วยบ้านหลังใหญ่ ที่พัฒนาเป็นห้องอาหารเบญจรงค์ และบ้านหลังรอง ที่ปรับปรุงเป็นดุสิต กูร์เมต์ ส่วนโกดังหรืออาคารเก็บของด้านหลัง พัฒนาเป็นร้านอาหารเธียนดอง และยังมีศาลาเต้นรำหรือ Dancing Hall ที่เหมาะสำหรับการจัดเลี้ยง รวมถึงสวนสวยและสระว่ายน้ำ ที่ปรับปรุงบริเวณรอบๆ ให้เป็นบาร์เครื่องดื่มริมสระที่เรียกว่า Garden Bar สำหรับการพบปะสังสรรค์ในยามค่ำ

ศุภจี ยังระบุอีกว่า วัตถุประสงค์ในการตัดสินใจลงทุนโครงการ “บ้านดุสิตธานี” นอกจากจะเป็นโอกาสอันดีในการดูแลพนักงานของเราในช่วงที่รอโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่กลับมาแล้ว เรายังต้องการรักษาแบรนด์ “ดุสิตธานี” รวมถึงเป็นการรักษาฐานลูกค้าเก่าของเราไว้ และขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะยังไม่เคยใช้บริการร้านอาหารในโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งเดิมเลย เนื่องจากต้องยอมรับว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป หลายครั้งที่เราพบว่า แม้ลูกค้าจะเข้าพักที่โรงแรม แต่นิยมไปรับประทานอาหารข้างนอกเพื่อสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่น

นอกจากการเปิดโครงการ “บ้านดุสิตธานี” จะเป็นโชว์เคสที่ทำให้ลูกค้าได้ลองสัมผัสกับดุสิตธานีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งรูปแบบการให้บริการ และการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมของการตกแต่งแบบเดิมและแบบใหม่แล้ว ยังจะทำให้เราสามารถศึกษารูปแบบและไลฟ์สไตล์การใช้บริการของผู้บริโภค เพื่อใช้เป็นโมเดลสำหรับการหาความลงตัวเรื่องรูปแบบและรสชาติของอาหารและบริการที่สามารถตอบโจทย์ทั้งลูกค้าที่รอคอยการกลับมาและลูกค้าในอนาคต

-ปี 2562 ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เริ่มดำเนินการสร้างโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูส ประกอบไปด้วยอาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าขาย และโรงแรม

-โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่มีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี 2566

 



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online