ในเมื่อ เรื่องพลังงานทดแทน ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเราทุกคนอีกต่อไป อีกทั้งยังถือเป็นทางรอดของโลกใบนี้เมื่อพลังงานดั้งเดิมที่เรามีอาจไม่เพียงพอรองรับการใช้งานอีกต่อไปในอนาคต
หากมองไปยังพลังงานสะอาดที่ทุกคนน่าจะเข้าถึงได้คงหนีไม่พ้นพลังงานจากแสงอาทิตย์ หรือแผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งแม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการพลังงาน เพียงแต่ต้องยอมรับว่าหลายคนอาจยังมีข้อกังวล รวมถึงยังมองภาพไม่ชัดว่าพลังงานสะอาดที่ว่านี้สามารถช่วยให้ชีวิตดีขึ้นได้อย่างไร

‘พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้’
ต้องเริ่มจากสามารถสร้าง Big Impact
ทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. มองว่าการที่จะผลักดันให้เรื่องพลังงานสะอาดเข้าถึงทุกคนได้ ต้องเริ่มจากการสร้างความเข้าใจ ให้ความรู้ และจุดประกายให้เห็นถึงความสำคัญในการใช้งานอย่างยั่งยืน
ในปีนี้ กกพ. จึงเดินหน้าร่วมมือกับภาคีเครือข่ายสร้างสรรค์หลากหลายองค์กร เช่น จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, ทีวีบูรพา, เทลสกอร์, สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) และหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC)
เปิดตัวแคมเปญ ‘พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้’ เพื่อสื่อสารไปยังประชาชนทุกกลุ่มให้ตระหนักถึงความสำคัญเกี่ยวกับพลังงานสะอาดจากโซลาร์เซลล์ รวมถึงพลังงานทดแทนซึ่งจะกลายเป็นพลังงานที่สำคัญในการขับเคลื่อนชีวิตและโลกใบนี้ต่อไป
โดยจุดมุ่งหมายของงานนี้ต้องการสร้างการรับรู้ในวงกว้างและเข้าถึงทุกคนได้มากที่สุด กลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบ 360 องศาจึงถูกนำมาใช้ ทั้งออนไลน์ ออนแอร์ ออนกราวด์ และออนพีเพิล ใช้ความชำนาญของแต่ละพันธมิตรในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ในการสื่อสาร เพื่อให้เกิด Big Impact ทางการรับรู้ให้กับประชาชนและสังคม
สำหรับแคมเปญ ‘พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้’ เริ่มมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจนปัจจุบันครบ 120 วัน

Marketeer Online จึงอยากพาผู้อ่านไปติดตามความสำเร็จของแต่ละโครงการ รวมถึงการนำเสนอวัตถุประสงค์ 3 ด้าน เพื่อให้สร้างแรงบันดาลใจ การให้ความรู้ และสร้างให้เกิดการปฏิบัติเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ ได้อย่างไร
รวมความสำเร็จจากระยะเวลา 120 วัน ที่ได้แบ่งปันพลังงานสะอาดให้กับทุกคน
เริ่มต้นการสื่อสารจากการ ใช้ KOL: KEY OPINION LEADER เพื่อปลุกกระแสเปิดตัวแคมเปญ “ไฟ จาก ฟ้า” โดยจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ซึ่งได้ KOL คนสำคัญอย่าง เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ นำเสนอเรื่องราวของไฟที่มาจากฟ้า ทั้งในรูปแบบวิดีโอคอนเทนต์บอกเล่าเรื่องราวพร้อมกับให้ความรู้ สามารถสร้างยอดวิวมากถึง 21 ล้านวิว
รวมถึงการทำ Music communication เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มทุกวัย รวมถึงคนรุ่นใหม่ได้ง่ายขึ้น ซึ่งเพลง “แสงของดวงตะวัน” ในทุกเวอร์ชั่นที่ถูกปล่อยออกมา รวมเเล้วมียอดผู้เข้าชมมากกว่า 18 ล้านวิว เลยทีเดียว
ช่องวัน31 ร่วมสื่อสารโครงการฯ ผ่านรายการพิเศษ เช่น รายการซีรีส์บันเทิง “ไฟ จาก ฟ้า”, รายการข่าวเย็น (จั๊ด ซัดทุกความจริง) เเละ เนื้อหาเพลง “แสงของดวงตะวัน” ใน Facebook Page ต่างๆ รวมยอดผู้ชมทั้งหมดกว่า 32 ล้านคน
ขั้นตอนที่สอง ขยายผลด้วยการผลิตสื่อเพื่อสื่อสารองค์ความรู้ในรูปเเบบของรายการให้ความรู้ เช่น“คนบันดาลไฟ”, “ภารกิจพิชิตตะวัน”, “มหา’ลัย ไฟ จาก ฟ้า” โดย ทีวีบูรพา พร้อมกับการลงพื้นที่จริงเพื่อเข้าถึงกลุ่มชุมชนและเครือข่าย (COMMUNITY & NETWORKING) สร้างการมีส่วนร่วมผ่านการฝึกอบรม ปฏิบัติจริงกว่า 15 พื้นที่ ทั่วประเทศ

นอกจากนั้นยังมีโครงการ “SOLAR VENGERS” โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ CEA จัดทำ WORK SHOP DESIGN THINKING และการแข่งขันเพื่อพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์สิ่งประดิษฐ์ต้นแบบที่เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ในอนาคต ซึ่งอาจกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้จริงในอนาคต รวมถึงปลุกความคิดสร้างสรรค์ให้ผู้คนหันมาสนใจได้ โดยมีผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 12 ชิ้นงาน พร้อมเตรียมนำโชว์เคสไปแสดงในงาน BANGKOK DESIGN WEEK อีกด้วย
ขั้นตอนที่สาม เลือกสื่อสารผ่าน INFLUENCER และ MICRO INFLUENCER ในทุกช่องทางโซเชียลมีเดีย รวมผู้ติดตามกว่า 27 ล้านคน และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายไม่น้อยกว่า 25 ล้านคน สร้างการมีส่วนร่วมสูงถึง 57.84% ผ่านโครงการ “POWER OF ME, POWER OF WE” โดยเทลสกอร์ เพื่อให้เหล่า INFLUENCER ทั้งหลายเป็นคนเล่าเรื่องพลังงานสะอาดผ่านมุมมองของตนเองซึ่งสามารถขยายไปในวงกว้าง รวมถึงผู้ที่ติดตามเเละเป็นเเฟนคลับ
ขั้นตอนที่สี่ ขยายผลผ่านสื่อศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยจากโครงการ “จรัส แสงสร้างสรรค์” โดยหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ระดมศิลปินหลากหลายสาขาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะแขนงต่างๆ กับภารกิจสร้างแรงบันดาลใจผ่าน ART PLATFORM เช่น จรัส LAB, จรัส KIDS, จรัส THEATER, จรัส FORUM
โดยมี จรัส LIGHT FEST: Solar Arts exhibition ครั้งเเรกของไทยที่ใช้การออกแบบงานศิลปะที่สร้างแรงบันดาลใจผ่านการใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยมีกำหนดจัดงานตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ลานด้านหน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ ซึ่งช่วยสร้างทั้งเเรงบันดาลใจให้กับคนที่เเวะเวียนผ่านไปเเละกลายเป็นสถานที่เช็กอินเเห่งใหม่ในช่วงส่งท้ายปลายปีได้อีกเเห่ง
“สำหรับแคมเปญ ‘พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้’ ถือเป็นการเลือกใช้ช่องทางในการสื่อสารได้ครบ 360 องศา เพื่อให้เรื่องของพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาดเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อนอนาคตและโลกใบนี้ไปข้างหน้า ซึ่งจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับพลังงานทดแทนที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อยๆ”
–

