KBank Private Banking เปิดงาน Economic Outlook 2020 ชี้ทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกไปต่อได้ แต่เน้นกระจายความเสี่ยง ไม่ลงแค่ SET
จิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group Head ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า นับจากเหตุการณ์ Hamburger Crisis ในปี 2008 จนปัจจุบันผ่านมา 11 ปี ภาพรวมเศรษฐกิจโลกค่อยๆ ฟื้นตัวเป็นลักษณะ V Share กล่าวคือเมื่อเศรษฐกิจผ่านช่วงขาลงต่ำสุดแล้วจะดีดกลับมาสูงขึ้น จากนั้นกลับมาลดลงสู่ภาวะปกติ
แต่การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาก็ค่อยๆ อ่อนกำลังลงจนเกิดเป็นปรากฏการณ์ Late Cycle หรือภาวะเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงสุดท้าย
โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานี้ ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความผันผวนสูงมากขึ้นจากปัจจัยต่างๆ เช่น สงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ หรือตลาดเกิดใหม่ที่มีอัตราการเติบโตไม่สูงนัก
อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัดหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นของแต่ละประเทศ โดยธนาคารกสิกรไทย กลุ่มไพรแวทแบงก์ พบว่า ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนต่ำสุดเมื่อเทียบกับตลาดใกล้เคียง
“สำหรับตลาดหุ้นไทย ขึ้นก็น้อย แต่ตอนลง ลงเยอะ” จิรวัฒน์กล่าว
จากข้อมูล พบว่า SET (ไทย) ให้ผลตอบแทนในปี 2019 ที่ 4% และปี 2020 คาดการณ์ว่าจะให้ผลตอบแทนติดลบ 3%
ขณะที่ตลาดอื่นๆ เช่น CSI300 (จีน) ปี 2019 ให้ผลตอบแทน 39% และปี 2020 คาดติดลบ 2%, S&P500 (สหรัฐอเมริกา) ปี 2019 ให้ผลตอบแทน 31% และปี 2020 ให้ผลตอบแทน 2%, STOXX600 (ยุโรป) ปี 2019 ให้ผลตอบแทน 28% และปี 2020 ให้ผลตอบแทน 1%, NIKKEI225 (ญี่ปุ่น) ปี 2019 ให้ผลตอบแทน 21% และปี 2020 คาดติดลบ 1%
จิรวัฒน์กล่าวถึงรูปแบบการลงทุนว่าควรเน้นการกระจายความเสี่ยงไปที่ตลาดต่างประเทศ รวมถึงตลาดเกิดใหม่เนื่องจากมีโอกาสที่ให้ผลตอบแทนสูง เพื่อให้นักลงทุนไม่ ‘ตกรถ’ เวลาที่หุ้นกำลังปรับตัวสูงขึ้น
อ่าน “กสิกรไทย ไพรเวทแบงก์” ชี้ปี 2019-2020 ตลาดลงทุนผันผวนสูง ปรับ 5 กลยุทธ์ รับมือความเสี่ยง
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ