ผลกระทบจากไวรัสโคโรนา และการปรับตัวของแบรนด์เพื่อไปต่อในวันฟ้าเปิด (วิเคราะห์การตลาด)
จากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา ที่เกิดขึ้นในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ได้กลายเป็นเหตุการณ์ที่มีผลกระทบกับคนทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไวรัสโคโรนาระบาดมากที่สุด และทำให้หลายๆ ประเทศได้เร่งออกนโยบายต่างๆ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ตามความเหมาะสม
การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา นอกจากจะสร้างความวิตกกังวลให้กับประชาชนในแต่ละประเทศแล้ว ยังมาพร้อมกับรายได้ที่ลดลงของผู้ประกอบการณ์ด้านต่างๆ โดยปัทมวรรณ สถาพร กรรมการผู้จัดการ มายด์แชร์ ประเทศไทย และทีมงาน ได้วิเคราะห์ ผลกระทบจากไวรัสโคโรนา ดังนี้
1. จำนวนนักท่องเที่ยวที่น้อยลง จนสายการบินบางสายการบินต้องประกาศให้พนักงานหยุดพักโดยไม่ได้รับเงินเดือน ซึ่งส่วนหนึ่งจากจากนโยบายบางประเทศที่ไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน
ส่วนประเทศไทยแม้ไม่มีนโยบายห้ามนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเดินทางเข้าประเทศ แต่นักท่องเที่ยวชาวจีนได้เลื่อนเที่ยวบินในทุกวัตถุประสงค์ ทั้งเพื่อธุรกิจและท่องเที่ยว
การที่นักท่องเที่ยวจีนลดลงในประเทศไทยได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับร้านค้า สื่อโฆษณาในสนามบิน ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจการท่องเที่ยว อย่างเห็นได้ชัด
2. งานอีเวนต์ที่วางแผนจัดในช่วงเดือนมกราคมจนถึงมีนาคม โดยส่วนมากถูกเลื่อนไปจัดในช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป
3. สินค้าเพื่อสุขภาพต่างๆ เริ่มมีแนวโน้มขาดตลาดอย่างเห็นได้ชัด และเป็นสัญญาณให้เห็นว่าคนไทยเริ่มตื่นตัวให้ความสำคัญกับปัญหาสุขภาพมากกว่าช่วงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่เกิดขึ้นในปีนี้ ที่สถานการณ์เกิดก่อนไวรัสโคโรนาเพียงไม่นาน
4. สินค้าจากการซื้อผ่านอีคอมเมิร์ซจากประเทศจีนเริ่มค้างจัดส่ง และเกิดความล่าช้าการเดินทางถึงมือผู้รับประมาณ 1 เดือนเป็นอย่างน้อย
แต่ในผลกระทบที่เกิดขึ้นแบรนด์สามารถปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนาได้เช่นกัน
1. แบรนด์สุขภาพแสดงความห่วงใย
ปัทมวรรณได้แนะนำว่า ในช่วงระบาดของไวรัสโคโรนาถือเป็นโอกาสสำคัญของแบรนด์สุขภาพในการทำตลาดด้วยความจริงใจ และแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์
สถานการณ์นี้ทำให้โรงพยาบาล สินค้าเภสัชกรรม บริการประกันสุขภาพ รวมไปถึงสินค้าเกี่ยวกับการดูแลสุขอนามัย ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่สามารถแนะนำให้ผู้บริโภคมีสุขอนามัยที่ดีและปลอดภัยต่อโรคได้
ตัวอย่างเช่น แบรนด์ Lifebuoy จากอินเดีย ที่ให้ความสำคัญในการสื่อสารแนวทางปฏิบัติเพื่อสุขอนามัย เพื่อให้ปลอดภัยจากไวรัสโคโรนา

2. โอกาสของสื่อทีวีและออนไลน์
จากพฤติกรรมที่ผู้คนเริ่มนิยมใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้น และเกิดการบริโภคสื่อประเภททีวี และสื่อดิจิทัล เพิ่มขึ้น เพื่ออัปเดตสถานการณ์ไวรัสโคโรนา
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ยอดผู้ชมบนสื่อทีวี เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรายการข่าวที่เพิ่มขึ้นถึง 11% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2562

มีการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้นบนสื่อดิจิทัล และการเกิดขึ้นของข่าวปลอมที่มีส่วนสร้างความสับสนและตื่นตระหนกในช่วงนี้ด้วยเช่นกัน

3. งานอีเวนต์ผ่านไลฟ์สด
สำหรับงานอีเวนต์และกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ถ้าไม่เลื่อนจัดงาน ฝ่ายจัดงานอาจปรับการจัดงานให้สามารถร่วมงานจากระยะไกลได้ เช่น การถ่ายทอดสดงานผ่านระบบออนไลน์
ถ้าไม่สามารถจัดงานแบบไลฟ์สดได้ ควรระบุรายละเอียดการตรวจวัดความปลอดภัยและสุขอนามัย อย่างชัดเจนบนหมายเชิญ
4. โอกาสของแอปสุขภาพและเกม
ในประเทศจีนยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกายสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมอยู่บ้านมากขึ้น รวมถึงยอดผู้เล่นเกมประเภทที่เล่นคนเดียวก็เติบโตขึ้นเช่นกัน
5. eCommerce ภาพลักษณ์และ Brand Awareness ยังต้องต่อเนื่อง
แม้ประชาชนมีแนวโน้มเลื่อนการตัดสินใจซื้อสินค้าบางประเภทจากการส่งที่ล่าช้า แต่ปัทมวรรณเชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะไม่นานเกิน 45 วัน
ทางออกของแบรนด์คือการสร้างภาพลักษณ์และความน่าจดจำในทางที่ดีกับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าจากแบรนด์และยอมรอสินค้าเป็นเวลานาน หรือตัดสินใจซื้อสินค้าของแบรนด์หลังสถานการณ์คลี่คลาย
และสุดท้ายสำหรับแบรนด์หากสินค้าในประเทศมีเพียงพอและสามารถจัดส่งได้อย่างทันท่วงที จะถือเป็นโอกาสทองของการค้าเช่นกัน
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
