ศรีตรังโกลฟส์ ทำความรู้จักกับผู้ผลิตถุงมือยางของไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก (วิเคราะห์)

จากข้อมูลสมาคมผู้ผลิตถุงมือยางแห่งมาเลเซีย The Malaysian Rubber Glove Manufacturers Association หรือ MARGMA ระบุว่า ความต้องการใช้ถุงมือยางทั่วโลกในปี 2562 อยู่ที่ 300,000 ล้านชิ้น ขยายตัวจากปีก่อน 12%

มาจาก 2 ปัจจัยด้วยกัน คือ

– การเติบโต 10% ของอุตสาหกรรมทางการแพทย์

-การเติบโตของการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัย 5% ของผู้บริโภคโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่มีการเติบโตสูง เช่น กลุ่มประเทศในทวีปเอเชียแปซิฟิก ทวีปแอฟริกา และทวีปอเมริกาใต้ เป็นต้น

แล้วถามว่าประเทศไหนในโลกเป็นผู้ผลิตและส่งออกถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดของโลก

แม้ไทยจะเป็นประเทศที่เป็นผู้ส่งออกยางพาราสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ในปี 2561 ส่งออกยางมูลค่ากว่า 4.6 พันล้านดอลลาร์ แต่หากโฟกัสเฉพาะผลิตภัณฑ์ถุงมือยาง ประเทศที่เป็นผู้ผลิตและส่งออกรายใหญ่ของโลกคือ “มาเลเซีย”

มาเลเซียส่งออกถุงมือยางปีหนึ่งเกินกว่า 9 หมื่นล้านบาท

ส่วนไทยส่งออกถุงมือยางปีหนึ่งกว่า 3.3 หมื่นล้านบาท

แล้วในไทยใครคือผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุด

คำตอบคือ ศรีตรังโกลฟส์ ในกลุ่มศรีตรังแอโกรอินดัสทรี หรือ STA ที่ปีที่ผ่านมามีกำลังผลิตได้ถึง 27,000 ล้านชิ้น นับเป็นบริษัทผู้ผลิตที่สูงที่สุดในประเทศไทย และเป็นอันดับต้นๆ ของโลก

“ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี“ คือยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยางธรรมชาติที่มีครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ

ต้นน้ำ-เขาคือ บริษัทที่มีพื้นที่สำหรับธุรกิจสวนยางพาราประมาณ 45,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 19 จังหวัดในประเทศไทย

กลางน้ำ-กลุ่มศรีตรังมีโรงงานผลิตยางธรรมชาติ 36 โรง ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติครอบคลุมทุกประเภท ได้แก่ ยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน และน้ำยางข้น

ส่วนปลายน้ำ-เขามี 2 ธุรกิจสำคัญคือ ท่อไฮโรอลิกแรงดันสูง (บจ. เซมเพอร์เฟล็กซ์ เอเชีย ) และถุงมือยาง ที่มี บมจ. ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) ที่เป็นหนึ่งในบริษัทย่อยผลิตและจำหน่ายถุงมือยางที่ใช้ในทางการแพทย์ และอุตสาหกรรมอื่น ที่จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ 130 ประเทศทั่วโลก

แม้ศรีตรังจะมีคู่แข่งคือแบรนด์ในประเทศที่ต่างก็มีการผลิตถุงมือและส่งออกไปขายต่างประเทศเช่นเดียวกัน แต่คู่แข่งคนสำคัญคือ บริษัทจากมาเลเซีย ไม่ว่าจะเป็น Top Glove, Hartalega, Supermax และ Kossan

ส่วนแบ่งทางการตลาดของถุงมือยางตามประเทศผู้ผลิต

มาเลเซีย 63%

ไทย 18%

จีน 10%

เวียดนาม 3%

ที่มา-ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี

แม้จากตัวเลยรายได้ประจำปีที่รายได้ส่วนใหญ่มาจากผลิตภัณฑ์ยางแท่ง 64.4% ส่วนถุงมือยางอยู่ที่ 20.1% แต่ตัวเลขของกลุ่มถุงมือยางเติบโต

รายได้จากธุรกิจถุงมือยาง อยู่ที่ 12,194.8 ล้านบาท ขยายตัว 3.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยปริมาณการขายเติบโต 17.5% ซึ่งมากกว่าการขยายตัวของความต้องการในการบริโภคถุงมือยางทั่วโลก

แต่ละปีขายถุงมือยางได้เท่าไร

ปี 2560 16,344 ล้านชิ้น

ปี 2561 16,937 ล้านชิ้น

และ ปี 2562 19,913 ล้านชิ้น

ที่น่าสนใจในปีนี้นอกจากตลาดถุงมือยางจะได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ประเทศคู่แข่งอย่างมาเลเซียประกาศปิดประเทศเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ทำให้น้ำยางที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตถุงมือยาง ยอดส่งออกทั้งยางพาราและถุงมือยางในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้พุ่งขึ้น

คือ “ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี“ กำลังจะนำบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT เข้าตลาดหลักทรัพย์ในไตรมาส 3 ในปีนี้

พร้อมตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิต 55,000 ล้านชิ้นในปี 2568 เพื่อขึ้นผู้ผลิตถุงมือยาง TOP 3 ของโลก