ตลาดข้าวถุง มูลค่าเท่าไร ? วิเคราะห์จุดขายข้าวถุงแบรนด์ไทยที่รายได้ไม่ธรรมดา


ตลาดข้าวสารในปีที่ผ่านมามูลค่า 170,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2561 ที่มีมูลค่า 150,000 ล้านบาท

แบ่งเป็นข้าวบรรจุถุง 30% หรือมูลค่า 51,000 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยข้าวขาว 40% ข้าวเหนียว 30% ข้าวหอมมะลิ 20% และข้าวเพื่อสุขภาพ 10% จากผู้เล่นในตลาด 30-40 แบรนด์ รวมเฮาส์แบรนด์

แม้เราจะไม่ค่อยเห็นข้าวสารบรรจุถุงออกมาโฆษณาผ่านสื่อ TVC มากนัก ตลาดข้าวสารบรรจุถุงนับว่าเป็นตลาดที่มีการแข่งขันกันสูงระหว่างข้าวแบรนด์ต่างๆ ทั้งแบรนด์หลักและแบรนด์รอง ผ่านกลยุทธ์การตลาดที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น การทำตลาดผ่านภาพลักษณ์ของแบรนด์ ช่องทางจัดจำหน่ายผ่านซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าทั่วไป และช่องทางออนไลน์ ราคาจัดจำหน่าย และแคมเปญโปรโมชั่น ณ จุดขาย เพื่อดึงดูดผู้บริษัทที่ไม่มี Brand Loyalty ให้เปลี่ยนใจจากแบรนด์เดิมมาลองแบรนด์ใหม่ รสชาติและรสสัมผัสของข้าวทั้งความนุ่มความหอม และหุงขึ้นหม้อ

รวมถึงการหาช่องว่างการตลาดใหม่ๆ ผ่านการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเจาะกลุ่มผู้มีกำลังซื้อ เช่น ข้าวเพื่อสุขภาพ ข้าวหอมมะลิใหม่ต้นฤดู เป็นต้น

เมื่อ ตลาดข้าวถุง แข่งขันกันสูง ในสังเวียนการแข่งขันที่แตกต่างกันไป

เราขอยกตัวอย่างรายได้ของแบรนด์ข้าวบรรจุถุง 7 แบรนด์ที่รู้จักกันดี ว่ามีรายได้เท่าไร

 

ข้าวตราฉัตร ขอเป็น Health Brand ในใจผู้บริโภค

ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาข้าวตราฉัตร ข้าวในเครือ ซี.พี. ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ วางตัวเองเป็น Healthy Brand แบรนด์เพื่อคนรักสุขภาพ จากการมองเห็นเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภครับประทานอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น เช่น การเข้าไปเป็นผู้สนับสนุนหลักในรายการคนแปลงร่าง Reality ที่นำคนไซส์ยักษ์มาลดน้ำหนักเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง

การปรับแบรนด์ของข้าวตราฉัตรมาพร้อมกับการเปิดตัวข้าวตราฉัตรไลท์ ข้าวบรรจุถุงสายพันธุ์ กข.43 ข้าวที่มีคุณสมบัติเด่น คือรสชาติใกล้เคียงกับข้าวหอมมะลิ แต่มีดัชนีน้ำตาลต่ำกว่า เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้รักสุขภาพ ผู้เป็นโรคเบาหวานและอื่นๆ รวมถึงร้านอาหารสายสุขภาพ และร้านอาหารพรีเมียม ในราคาสูงกว่าข้าวหอมมะลิประมาณ 5%

การที่ข้าวตราฉัตรดันตัวเองเป็น Healthy Brand  Marketeer มองว่าส่วนหนึ่งมาจากความต้องการสร้างความแตกต่างด้านภาพลักษณ์จากคู่แข่ง พร้อมกับการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าถึงลูกค้าเซกเมนต์ใหม่ๆ โดยเฉพาะลูกค้าในกลุ่มพรีเมียมที่มีกำลังซื้อและไม่อ่อนไหวกับด้านราคาเท่าไรนัก

รายได้ข้าวตราฉัตร

2559    12,716.70 ล้านบาท        กำไร 15.65 ล้านบาท                                          

2560    13,865.36 ล้านบาท        กำไร 21.08 ล้านบาท

2561    29,616.71 ล้านบาท        กำไร 28.02 ล้านบาท

ที่มา: กระทรวงพาณิชย์ รายได้จาก บริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด จำกัด

 

ข้าวหงษ์ทอง สู้ด้วยหอมมะลิต้นฤดู Limited Edition

ข้าวหงษ์ทอง แบรนด์ข้าวของ เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง โดยต้นกำเนิดข้าวหงส์ทอง กำเนิดในปี 2505 จากโรงสีไฟเจียเม้ง ซึ่งเป็นชื่อเดิมของเจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง ที่ต้องการนำข้าวของโรงสีตัวเองไปทำตลาดต่างประเทศ ภายใต้ชื่อ หงษ์ทอง หรือกิมหงษ์ ก่อนที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย

ในตลาดข้าวสารบรรจุถุงไทยในกลุ่มข้าวขาวและข้าวหอมมะลิทั่วไป ไม่ค่อยมีความแตกต่างกันมากนัก ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถแยกความแตกต่างของข้าวที่บรรจุอยู่ในถุงของแบรนด์ต่างๆ ได้ชัดเจน และตัดสินใจซื้อเพราะความคุ้นเคย หรือเพราะราคาเป็นหลัก

หงส์ทองจึงสร้างความแตกต่างด้วยกลยุทธ์ Product Differentiation ผ่านข้าวต้นฤดู Limited Edition ที่มาจากนาหยอดในโครงการหงษ์ทองนาหยอด ที่ปลูกจากเมล็ดพันธุ์หอมมะลิบริสุทธิ์ ที่หารับประทานได้ปีละครั้ง เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมียม

Marketeer มองว่าการที่หงษ์ทองสร้างความแตกต่างผ่าน Product Differentiation นอกเหนือจากจะขยายไปยังฐานกลุ่มลูกค้าพรีเมียม ยังเป็นการสร้างความรับรู้ในแบรนด์หงษ์ทองคือผู้เชี่ยวชาญด้านข้าว ที่มีความหลากหลายของข้าวหลากเซกเมนต์อีกด้วย

นอกจากนี้ ในปัจจุบันภายใต้ผลิตภัณฑ์ในเครือข้าวหงษ์ทองประกอบด้วยข้าวบรรจุถุง ข้าวหงษ์ทอง ข้าวหงษ์ทิพย์ ข้าวหงษ์ไทย และข้าวพร้อมรับประทาน หงษ์ทอง Ready Rice ที่สามารถเก็บได้นานถึงหนึ่งปีโดยไม่ต้องแช่เย็น ซึ่งการออกข้าว หงษ์ทอง Ready Rice เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งด้านนวัตกรรม ไปพร้อมกับสร้างรายได้ใหม่ผ่านการขยายฐานลูกค้าจากข้าวบรรจุถุงสู่ตลาด Ready to Eat ด้วยข้าวหุงพร้อมรับประทาน เพื่อเจาะลูกค้าที่ทำอาหารรับประทานเองที่บ้านน้อยลง

 

รายได้ข้าวหงษ์ทอง และแบรนด์ในเครือ

2559    1,583.56 ล้านบาท          กำไร 40.03 ล้านบาท                              

2560    1,734.93 ล้านบาท          กำไร 12.95 ล้านบาท                  

2561    2,113.22 ล้านบาท          กำไร 29.51 ล้านบาท

2562    2,042.65 ล้านบาท          กำไร 1.30 ล้านบาท

ที่มา: กระทรวงพาณิชย์ รายได้จาก บริษัท เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง จำกัด

 

ข้าวแสนดี ยังคง Awareness ด้วย ข้าวแสนดี ดีดี๊ดี

ข้าวแสนดี ธุรกิจข้าวของตระกูล ธนถาวรลาภ ทำธุรกิจข้าวมาตั้งแต่ปี 1980 ภายใต้ชื่อแบรนด์แสนดี ภายใต้สโลแกนข้าวแสนดี ทุกถุงคือความใส่ใจ

การทำตลาดของข้าวแสนดี เน้นการสื่อสารสร้าง Brand Awareness ผ่านมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง ด้วยจิงเกิ้ลเพลงสั้นๆ ที่ร้องว่า ข้าวแสนดี ดีดี๊ดี ที่สร้างการจดจำอยู่ในใจของคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง ไปพร้อมๆ กับการใช้สื่อ ณ จุดขาย เช่น การเปิดจิงเกิ้ลข้าวแสนดี ดีดี๊ดี เป็นเครื่องมือในการตอกย้ำแบรนด์เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคที่ตัดสินใจซื้อสินค้า ณ จุดขาย

นอกจากข้าวสารและข้าวเหนียวแล้ว ข้าวแสนดียังมีผลิตภัณฑ์ข้าวแต๋น เส้นจันทน์ และเส้นหมี่ขาวภายใต้แบรนด์แสนดีออกจำหน่ายด้วย

 

แสนดีรายได้เท่าไร

2559    865.45 ล้านบาท             กำไร 15.49 ล้านบาท      

2560    896.30 ล้านบาท             ขาดทุน 20.98 ล้านบาท

2561    1,030.03 ล้านบาท          กำไร 22.22 ล้านบาท

ที่มา: กระทรวงพาณิชย์ รายได้จาก บริษัท ข้าวแสนดี จำกัด

 

ข้าวมาบุญครอง ต่อยอดธุรกิจสู่ New Segment ใหม่ๆ

ข้าวมาบุญครอง ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์ข้าวบรรจุถุงรายแรกของไทย ตั้งแต่ปี 2527 ของตระกูลบูลกุล

แม้จะเป็นผู้บุกเบิกข้าวบรรจุถุงในประเทศไทยแต่ด้วยการแข่งขันที่สูงของคู่แข่งในตลาดที่มีมากขึ้นตามกาลเวลา

ข้าวมาบุญครองจึงขยายฐานตลาดสู่เซกเมนต์ใหม่ๆ เช่น ข้าวญี่ปุ่น ข้าวอินทรี ข้าวไรซ์เบอรี่ ข้าวผสมธัญพืช ที่นอกเหนือจากข้าวขาว ข้าวหอมมะลิบรรจุถุง เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มพรีเมียมเซกเมนต์ย่อยๆ และยังเป็นกลุ่มที่ไม่มีคู่แข่งในตลาดมากนัก

รวมถึงการแตกไลน์สินค้าไปยังแบรนด์อื่นๆ เช่น น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวหอมมะลิแบรนด์นูทา ออริส เท็น และอื่นๆ

โดยที่ผ่านมา ข้อมูลจากรายงานประจำปีของปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด (มหาชน) พบว่า บริษัทมีรายได้จากธุรกิจในเครือทั้งหมด รวมถึงรายได้จากศูนย์อาหารและน้ำดื่มทั้งสิ้น 1,884.16 ล้านบาท กำไร 350.55 ล้านบาท

มาบุญครองรายได้เท่าไร

2559    1,880,73 ล้านบาท         กำไร 251.00 ล้านบาท

2560    1,620.97 ล้านบาท         กำไร 269.34 ล้านบาท

2561    2,175.24 ล้านบาท         กำไร 286.22 ล้านบาท

2562    1,884.16 ล้านบาท         กำไร 350.55 ล้านบาท

ที่มา: รายงานประจำปี บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด (มหาชน)

 

นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ข้าวอื่นๆ ใน ตลาดข้าวถุง ที่ไม่เน้นการตลาดมากนัก แต่ก็มีรายได้ที่สนใจ เช่น

ข้าวพนมรุ้ง ของตระกูลหวั่งหลี

ข้าวพนมรุ้ง เน้นการตลาดในช่วงแรกของธุรกิจด้วยการเจาะตลาดเชฟ ในกลุ่ม Food Service ทั้งโรงแรมและร้านอาหาร ก่อนที่จะลงแข่งขันในตลาดแมสแข่งกับคู่แข่งผ่านสโลแกน  “วางใจข้าว ไว้ใจเรา”

ที่ผ่านมาข้าวพนมรุ้งเน้นตลาดส่งออกเป็นหลัก แต่ด้วยการส่งออกข้าวไทยถูกคู่แข่งอย่างเวียดนามเข้ามาตีตลาด และค่าเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้ตลาดข้าวในต่างประเทศอยู่ในสภาวะการแข่งขันที่ทำตลาดได้ยากขึ้น ทำให้ในปีนี้ข้าวพนมรุ้งปรับตัวทำตลาดในไทยมากขึ้นในสัดส่วน ไทย 60% ต่างประเทศ 40%

 

ข้าวพนมรุ้งรายได้เท่าไร

2559    2,094.88 ล้านบาท          กำไร 95.77 ล้านบาท                              

2560    2,125.42 ล้านบาท          กำไร 92.80 ล้านบาท

2561    2,413.15 ล้านบาท          กำไร 105.86 ล้านบาท
ที่มา: กระทรวงพาณิชย์ รายได้จาก บริษัท ชัยทิพย์ จำกัด

 

ข้าวเบญจรงค์

ข้าวของกลุ่มบริษัท เอเชีย อินเตอร์ ไรซ์ ที่ทำธุรกิจข้าวมากว่า 20 ปี และนอกจากข้าวเบญจรงค์ ซึ่งเป็นแบรนด์หลักแล้ว ยังมีข้าวผสมสำหรับเจาะตลาดแมสในแบรนด์ ข้าวสุพรรณหงษ์ ข้าวมิตรภาพ

 

ข้าวเบญจรงค์รายได้เท่าไร

2559    1,968.11 ล้านบาท          กำไร 29.47 ล้านบาท      

2560    2,022.28 ล้านบาท          กำไร 46.74 ล้านบาท

2561    2,389.06 ล้านบาท          กำไร 5.06 ล้านบาท

ที่มา: กระทรวงพาณิชย์ รายได้จาก บริษัท เอเชีย อินเตอร์ ไรซ์ จำกัด

 

ข้าวตราไก่แจ้

ธุรกิจของบริษัท สุนทรธัญทรัพย์ ปลายปีที่ผ่านมาข้าวไก่แจ้ แตกไลน์สินค้าใหม่ๆ ไปยังกลุ่มธัญพืชเจาะตลาดคนรักสุขภาพตามเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภค นอกจากนี้ ภายใต้บริษัทสุนทรธัญทรัพย์ ยังมีแบรนด์ ข้าวตรากระเช้าอีกด้วย

ข้าวตราไก่แจ้รายได้เท่าไร

2559    1,163.85 ล้านบาท          กำไร 6.85 ล้านบาท

2560    1,174.64 ล้านบาท          กำไร 3,41 ล้านบาท

2561    1,557.16 ล้านบาท          กำไร 6.62 ล้านบาท

ที่มา: กระทรวงพาณิชย์ รายได้จาก บริษัท สุนทรธัญทรัพย์ จำกัด

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline

 

 

 

 

 

 

 

 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer