วุฒิศักดิ์ คลินิก ถอดบทเรียนธุรกิจความงามที่เคยเป็นดาว แต่วันนี้อาจกำลังจะดับ (วิเคราะห์)
คลินิกความงามที่อยู่บนเส้นทางกว่า 18 ปี เป็นเจ้าของสโลแกน “เมื่อความสวยรอไม่ได้” ที่ไม่แน่ว่าอาจจะกลายเป็นตำนานนับจากนี้
เพราะเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท วุฒิศักดิ์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด หรือ วุฒิศักดิ์ คลินิก ได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางขอฟื้นฟูกิจการ
อ่าน : คลินิกความงามแต่ละเจ้ารายได้เท่าไร
Marketeer สรุป 10 ข้อรู้เรื่องราวของ วุฒิศักดิ์ คลินิก ที่กำลังเป็นประเด็นแบบฉบับเข้าใจง่าย
1. วุฒิศักดิ์ คลินิก คลินิกเสริมความงามชื่อดังเกิดจาก 3 ผู้ก่อตั้ง คือ นายแพทย์วุฒิศักดิ์ ลิ่มพานิช, พลภัทร จันทรวิเมลือง และ ณกรณ์ กรณ์หิรัญ
เปิดสาขาแรกที่ย่านงามวงศ์วาน เมื่อปี 2545 โดยมี ณกรณ์ กรณ์หิรัญ เป็นผู้บริหาร
2. ในยุคนั้นเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของธุรกิจความงามเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะเพศไหนก็อยากดูดี ในยุคเริ่มต้นกลยุทธ์ที่วุฒิศักดิ์ คลินิก ใช้และได้ผลดีจนทำให้คลินิกเติบโตอย่างรวดเร็ว คือการโหมซื้อโฆษณาทางทีวี รวมถึงใช้ดารา นักร้องเป็นพรีเซนเตอร์
3. จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในปี 2557 บริษัท อี ฟอร์ แอล เอ็ม จำกัด (มหาชน) หรือ EFORL เป็นตัวแทนจำหน่าย และนำเข้าเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ใช้เงิน 4,500 ล้านบาทเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (WCIG) ผ่านบริษัท บจก. ดับบลิวซีไอโฮลดิ้ง (WCIH) ที่บริษัทถือหุ้นอยู่
โดยมองเห็นเทรนด์ของธุรกิจความงามที่เติบโตเพิ่มสูงขึ้นทุกปี และหวังจะเอาธุรกิจนี้มาต่อยอดสร้างรายได้เพิ่ม
แต่เหมือนจะดีอยู่แค่ช่วงแรก ๆ เพราะตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา EFORL รายได้ลดและขาดทุนอย่างต่อเนื่อง
4. รายได้ของบริษัท วุฒิศักดิ์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่ารายได้ของวุฒิศักดิ์ คลินิกนั้นลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 ส่วนปี 2561-2562 บริษัทฯ ไม่ได้แจ้งผลประกอบการ
โดยปี 2559-2560 สองปีนี้ขาดทุนรวมกันกว่า 1,000 ล้านบาท
ปี 2558
มีรายได้รวม 2,584,270,490 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 149,677,451 ล้านบาท
ปี 2559
มีรายได้รวม 1,623,451,914 ล้านบาท
ขาดทุนสุทธิ 528,259,903 ล้านบาท
ปี 2560
มีรายได้รวม 481,388,798 ล้านบาท
ขาดทุนสุทธิ 664,926,059 ล้านบาท
5. หากดูงบการเงินของบริษัท อี ฟอร์ แอล เอ็ม จำกัด (มหาชน) นั้นจะพบว่า รายได้จากธุรกิจความงามในปี 2562 มีแค่เพียง 185 ล้านบาท
ซึ่งกลุ่มธุรกิจความงามของ EFORL นี้ประกอบด้วยบริษัท วุฒิศักดิ์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท สยามสเนล จำกัด
6. สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาของวุฒิศักดิ์ คลินิก นอกจากได้รับผลกระทบจากพิษโควิด-19, การแข่งขันที่รุนแรงของตลาดความงาม คือ ปัญหาที่มาจากภายในองค์กร คือ ทีมบริหาร ที่มีการเปลี่ยนผู้บริหารมาแล้วหลายครั้ง
ไล่เรียงคร่าวๆ เปลี่ยนตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารจาก “ณกรณ์ กรณ์หิรัญ” เป็น “พลภัทร จันทร์วิเมลือง” อีก 1 ในผู้ร่วมก่อตั้ง ก่อนที่ณกรณ์จะกลับเข้ามาเป็นผู้บริหารอีกครั้งในช่วงเวลาสั้น ๆ
ปี 2559 “อภิพร ภาษวัธน์” อดีตผู้บริหารของ เอสซีจี เคมิคอลส์ เข้ามารับตำแหน่งนี้แทน
กลางปี 2560 กลายเป็นชื่อของ “อรรถวุฒิ จริงไธสง”
7. ปี 2019 วุฒิศักดิ์ คลินิกเหมือนจะกลับมาทวงบัลลังก์อีกครั้ง ด้วยการปรับกระบวนทัพ และรีแบรนด์ภาพลักษณ์ตัวเองใหม่
ได้อดีตซีเอ็มโอ เทสโก้ โลตัส อย่าง “กวิน สัณฑกุล” มาเป็นหัวเรือใหญ่ และตั้งเป้าหมายในเวลา 5 ปี จะทำให้รายได้ของทั้งเครือกลับมาไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท
แต่ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ยากของวุฒิศักดิ์ คลินิก เหลือเกิน
8. ดูจากรายงานประจำปีของ EFORL พบว่า ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงปีที่ “วุฒิศักดิ์ คลินิก” ถูกฟ้องร้อง และโดนเรียกค่าเสียหายจากทั้งการผิดนัดชำระหนี้ ประเด็นการขายแฟรนไชส์ คู่สัญญาแฟรนไชส์ อยู่หลายครั้ง และบางคดียังยืดเยื้อมาถึงปัจจุบัน
อ่าน: วุฒิ-ศักดิ์ : มหากาพย์ความงาม ที่จะขอกลับมาอีกครั้ง
9. 24 เมษายน 2563 เป็นวันที่คณะกรรมการฯ ได้ยื่นฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง หลังประเมินแล้วว่า
วุฒิศักดิ์ คลินิกมีหนี้สินล้นพ้นตัวเป็นหนี้เจ้าหนี้ไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท แต่กิจการยังมีเหตุอันสมควรและช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการ
10. จากที่เคยมีสาขาทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดมากที่สุดถึงกว่า 120 สาขา ในช่วงปี 2559 และมีแฟรนไชส์ในสาขาต่างประเทศด้วย ก็ค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ
จนปัจจุบัน วุฒิศักดิ์ คลินิก เหลือสาขาเพียงแค่ 19 สาขาเท่านั้น โดยเป็นสาขาในห้างสรรพสินค้าจำนวน 17 สาขา
ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือ เส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบของวุฒิศักดิ์ คลินิก
ที่ต้องรอดูว่าเมื่อยื่นฟื้นฟูกิจการแล้ว
จะใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะกลับมารุ่งเรือง (เกือบ) เหมือนเดิมอีกครั้ง
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /