กระทรวงสาธารณสุข อัปเดตแผนการฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวน 63 ล้านโดสในประเทศไทย ในปี 2564
โดยแผนการฉีดวัคซีน แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะแรก 2 ล้านโดส มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจากโควิด-19
วัคซีนที่ฉีดในระยะแรกเป็นวัคซีนที่จากบริษัท ซิโนแวค โดยมีแผนเริ่มฉีดตั้งแต่กุมภาพันธ์-พฤษภาคม 2564 ให้กับกลุ่มเป้าหมาย จังหวัด สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี ระยอง ชลบุรี จันทบุรี ตราด และตาก
สำหรับผู้ที่เข้าข่ายได้รับการฉีดวัคซีนระยะแรก ได้แก่
– บุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุข รัฐและเอกชน
– เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคโควิด 19 ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย
– ประชาชนที่มีโรคประจำตัว
ได้แก่
โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง รุนแรง
โรคหัวใจและหลอดเลือด
โรคไตวายเรื้อรัง
โรคหลอดเลือดสมอง
โรคมะเร็งที่อยู่ในระหว่างเคมีบำบัด รังสีบำบัด ภูมิคุ้มกันบำบัด
โรคเบาหวาน
โรคอ้วน น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัมหรือ BMI มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
– ประชาชนที่มีอายุ 60 ขึ้นไป
– ประชาชนทั่วไปและแรงงานในพื้นที่ระบาดของโควิด 19
ส่วนและระยะที่ 2 มีจุดมุ่งหมายเพื่อรักษาเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศสร้างภูมิคุ้มกันในระดับประชากรและฟื้นฟูประเทศให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากเป็นระยะที่ประเทศไทยมีวัคซีนมากขึ้นและเพียงพอ จากการสั่งซื้อเป็นที่เรียบร้อยจากบริษัท แอสตราเซนเนกา จำนวน 26 ล้านโดส และจองเพิ่มอีก 35 ล้านโดส
ในระยะที่ 2 จะเป็นการฉีดให้กับพื้นที่ทั่วประเทศให้กับกลุ่มเป้าหมายระยะที่ 1 ในจังหวัดที่เหลือ, บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขอื่น ๆ, ประชาชนทั่วไป, แรงงานในภาคอุตสาหกรรม, ผู้ประกอบอาชีพด้านการท่องเที่ยว เช่น พนักงานโรงแรม สถานบันเทิง มัคคุเทศก์, ผู้เดินทางระหว่างประเทศ เช่น นักบิน/ลูกเรือ นักธุรกิจระหว่างประเทศ, นักการทูต เจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนในระยะที่ 2 กระทรวงสาธารณสุขมีแผนฉีดวัคซีนให้ได้เดือนละ 10 ล้านโดส ผ่านโรงพยาบาลรัฐและเอกชนจำนวน 1,000 แห่ง เพื่อฉีดวัคซีนให้ครบทั้ง 63 ล้านโดส ภายในปี 2564
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

