ทางออกจากโจทย์ใหญ่ทุกครั้งยามวิกฤตโถมเข้าใส่แบบไม่ทันตั้งตัว คือจะขยับไปทิศไหนและแบบไหน เพราะเวลาไม่รอท่า และถ้าช้าจะยิ่งพัง เหมือนการระบาดของโควิด-19 ที่เปรียบก็เหมือนแผ่นดินไหวรุนแรงจนเกิดสึนามิตามมา สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล ทั้งภาคธุรกิจและการใช้ชีวิตของทุกคน รวมถึงทำให้โลกการทำงานเปลี่ยนไปสู่ Hybrid Workspace แล้วอย่างเต็มตัว

เมื่อทุกวันนี้สถานการณ์ระบาดยังไม่น่าไว้วางใจ แล้วเราจะทำงานแบบผสมผสาน ทั้งจากบ้าน ร้านกาแฟ หรือออฟฟิศแบบเดิมกันอย่างไรให้พ้นภัยคุกคามของโรคร้าย โดยที่ประสิทธิภาพงานยังเต็มร้อย ด้านล่างนี้มีคำตอบ

 

จัดตารางชีวิตใหม่

ผ่านมาปีกว่าแล้วแต่วิกฤตโควิดก็ยังคุกคามโลกไม่เลิก ยังต้องท่องไว้ให้ขึ้นใจว่า “การ์ดอย่าตก” เด็ดขาด ซ้ำร้ายไวรัสเกิดกลายพันธุ์และการกระจายวัคซีนก็ยังไม่ทั่วถึง สภาพการณ์แบบนี้ทำให้คนวัยทำงานอีกไม่น้อยที่เลี่ยงการเดินทางและกลับไปทำงานในออฟฟิศตามเดิม แม้คนวัยทำงานปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้แล้ว แต่จากการไม่ต้องไปทำงานในออฟฟิศนี่เอง บางทีก็เกิดปัญหา

ปัญหาที่ว่ามาได้หลายทาง เช่น ต้องปลีกเวลาไปทำงานบ้าน เลี้ยงลูก ดูแลพ่อแม่ หรือมีธุระด่วนเข้ามาระหว่างวัน ดังนั้นจึงควรจัดตารางชีวิตให้ดี โดยที่ให้ความสำคัญกับงานในอันดับต้น ๆ เพราะจันทร์ถึงศุกร์ยังคงเป็นวันทำงาน

ขณะเดียวกันต้องเผื่อเวลาให้พร้อมสำหรับประชุมออนไลน์ด้วย ตอบเมลหรือไปออฟฟิศแบบฉุกเฉินเพื่อประชุมหรืองานที่ต้องทำแบบเห็นหน้าค่าตากัน

 

หา ‘โต๊ะทำงาน’ ที่ใช่

ถัดจากจัดตารางชีวิตใหม่แล้ว ข้อต่อมาที่ต้องทำคือหา ‘โต๊ะทำงาน’ ที่ใช่ ข้อนี้สำคัญมากโดยเฉพาะกลุ่ม Work from Home หรือ Work from Coffee shop เพราะเมื่อไม่ได้อยู่ออฟฟิศ จุดที่นั่งทำงานควรช่วยให้เราได้งาน ไม่ใช่บั่นทอนสมาธิจนงานไม่เสร็จสักที

ดังนั้นควรหามุมสงบที่บ้านแล้วแยกเป็นสัดส่วนสักหน่อย ส่วนในกรณีที่นั่งทำงานในร้านกาแฟอาจเป็นมุมประจำของร้านที่คนไม่พลุกพล่านเกินไป และตัวเราเองต้องเรียกสมาธิเพื่อการจดจ่อกับงานผ่านหน้าจอให้ได้ เพราะเมื่อต้อง WFH หรือ WFC อาจมีเล็ก ๆ น้อย ๆ กวนใจให้เสียงานได้ตลอด

 

มีเวลาให้สมองได้พัก

เมื่อเราต้องปรับตัว ย้ายไปทำงานจากที่ต่าง ๆ ทั้งแบบตามสะดวก หรือจากผลกระทบของการระบาด หมายความว่า เส้นแบ่งเวลาแบบการตอกบัตรเข้าทำงานอาจหายไป เรื่องนี้อาจกลายเป็นฝันร้าย ฉุดให้สมดุลชีวิตระหว่างงานกับการพักผ่อนพัง ถ้าเรามัวแต่ทำงานมากเกินไป

ดังนั้นควรลุกออกจากโต๊ะหรือจุดที่นั่งทำงานอยู่ ไปเดินเล่น จิบกาแฟ หรืออย่างน้อยก็ละสายตาจากสารพัดจอที่ใช้ทำงานบ้าง  

 

ท่องคาถาตึง-หย่อน-ผ่อน-เร่ง จนขึ้นใจ

ตั้งแต่โควิดบุกรอบแรก งานหลายประเภทก็ลดหายหรือต้องฟุบไป และมีงานบางประเภทที่เพิ่งมีขึ้นมา แต่จุดที่งานแทบทุกประเภทมีร่วมกันคือต่อติดด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์ พอถึงปัจจุบันคนวัยทำงานส่วนใหญ่ก็ปรับตัวจน Work from Home เป็น Work from Anywhere หรือทำงานได้จากทุกที่หมดแล้ว

อย่างไรก็ตาม เป็นธรรมดาของการทำงานที่ย่อมมีการติดขัดบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อสถานการณ์ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่ต้องตามผ่านภาพด้วยการสื่อสารออนไลน์ ความเครียดย่อมตามมา ดังนั้นเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คงต้องท่องคาถา ตึงเกินไปหย่อนลงมา ถ้าคันเร่งผ่อนมากแล้วก็ต้องเร่งขึ้นหน่อย จนขึ้นใจ

เชื่อเถอะไม่มีใครนอนหลับได้เต็มตาหากงานยังคั่งค้าง แต่ถ้ามีเวลาให้หายใจบ้าง และสั่งเร่งได้เมื่อจำเป็น งานที่ออกมาย่อมเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย

 

นัดไปเจอหน้าค่าตากันบ้าง

เคล็ดลับข้อสุดท้ายที่ช่วยให้งานออกมาดีในยุค Hybrid Workspace คือการนัดเจอหน้าเจอตัวกันบ้าง เพื่อให้ยังต่อกันติด คลายเหงา-คลายเครียด ถามสารทุกข์สุกดิบ และรับรู้ความคืบหน้าของงาน แต่แน่นอนทุกครั้งเรายังต้อง “ตั้งการ์ด” ปฏิบัติตามมาตรการพื้นฐานเพื่อป้องกันโควิดระบาด/fastcompany 

I-



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online