1 พฤศจิกายน 2564 วันแรกของการเปิดประเทศไทย รับนักท่องเที่ยวจาก 63 ประเทศเดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว
พร้อมกับปรับเปลี่ยนพื้นที่ 4 จังหวัดท่องเที่ยว ได้แก่ กรุงเทพฯ กระบี่ พังงา ภูเก็ต ให้เป็นพื้นที่สีฟ้า รองกับการท่องเที่ยว
วันแรกของการเปิดประเทศมีเที่ยวบินกว่า 60 เที่ยวบิน เดินทางเข้ามาในไทย
โดยมีเที่ยวบินจากประเทศญี่ปุ่นบินเข้าประเทศเป็นเที่ยวบินแรกในเวลา 0.25 น. หรือ 25 นาที หลังจากเปิดประเทศไทย
เที่ยวบินจากญี่ปุ่นที่เข้ามาพร้อมผู้โดยสาร 43 คน เป็นคนไทย 32 คน และต่างชาติ 11 คน
การเปิดประเทศในครั้งนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลว่าระหว่างวันที่ 1-5 พฤศจิกายน 2564 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้ามาในประเทศไทย 15,230 คน จาก 27 สายการบิน
โดยจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องการเข้ามาท่องเที่ยวมากที่สุด ได้แก่
กรุงเทพฯ
ภูเก็ต
และเชียงใหม่
ซึ่งกรุงเทพฯ และภูเก็ตจัดอยู่ในพื้นที่สีฟ้า ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
การเปิดประเทศในครั้งนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าจะขับเคลื่อนให้ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยตลอดทั้งปี 1.8 แสนคน
ส่วนมกราคม-กันยายน 2564 ประเทศไทยมีชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศรวมกัน 85,845 คน
โดยประเทศสหรัฐอเมริกาเข้ามาในไทยมากที่สุดถึง 11,212 คน
รองลงมา ได้แก่ สหราชอาณาจักร 8,170 คน
เยอรมนี 6,694 คน
จีน 5,696 คน
ฝรั่งเศส 5,114 คน
….
นอกเหนือจากรายได้จากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยในระยะสั้น
ถ้ามองในมุมของชาวต่างชาติทั้งหมดในประเทศไทยที่อาจจะทำงาน เรียน หรืออยู่ในประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยวเป็นเวลายาวนาน ได้เดินทางไปยังจังหวัดต่าง ๆ ในประเทศในรูปแบบ “ผู้มาเยือน” ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้คำจำกัดความว่าเป็นผู้ที่เดินทางเพื่อการท่องเที่ยว และอื่น ๆ เช่น การเยี่ยมเพื่อน/ญาติ ทั้งที่พักค้างคืน และไม่พักค้างคืน โดยเป็นการพักค้างในสถานพักแรม บ้านญาติ/บ้านเพื่อน และอื่น ๆ
นับตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2564 มีจำนวน 485,287 คน สร้างรายได้จากการมาเยือน 143,076.08 ล้านบาท ข้อมูลนี้อ้างอิงจากการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
สร้างรายได้ให้กับ 4 จังหวัดสีฟ้ารวมกันมากถึง 9,916.38 ล้านบาทเลยทีเดียว
และหลังจากเปิดประเทศ ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย จะผลักดันให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวในรูปแบบผู้มาเยือนเท่าไร คงต้องดูกันสิ้นปี
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



