ผู้ใช้แอคเคานต์ทวิตเตอร์ชื่อ ‘Nick Day’ ได้ทวีตข้อความจากอีเมลของ JobsDB ที่ระบุว่า
“JobsDB ให้ความสำคัญและเคารพต่อสิทธิมนุษยชน และความเสมอภาคของบุคคลในทุกด้าน เรามีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความเสมอภาคในการจ้างงาน เพื่อให้ผู้หางานได้มีโอกาสเข้าทำงานจากความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ที่ตรงกับงาน”
ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของท่านเติบโตไปอย่างยั่งยืน ดังนั้น JobsDB จึงขอความร่วมมือ ไม่ระบุอายุ เพศ เชื้อชาติ สถานภาพสมรส และปัจจัยอื่น ๆ ที่สื่อถึงการเลือกปฏิบัติ ในประกาศงานทุกตำแหน่งที่เปิดรับ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป และขออนุญาตลบข้อมูลดังกล่าวออกจากประกาศงานโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า”
จ๊อบส์ ดีบี เป็นแพลตฟอร์มจัดหางานที่เปิดให้บริการครั้งแรกในฮ่องกง นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2012 ที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ SEEK Limited group บริษัทจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ของออสเตรเลีย โดยปัจจุบันเป็นแพลตฟอร์มจัดหางานชั้นนำของเอเชีย
หากย้อนดูข้อมูลสถิติของผู้สมัครใน www.Jobsdb.com จะพบว่ามีเพียงข้อมูลด้านที่เป็นประโยชน์ต่อตัวงานเพียงเท่านั้น ไม่มีการบอกรายละเอียดหรือปัจจัยจต่าง ๆ ในด้านอายุ เพศ หรือเชื้อชาติแต่อย่างใด ดังข้อมูลดังต่อไปนี้
ระดับการศึกษาของผู้สมัคร
ต่ำกว่าปริญญาตรี (4%)
ปริญญาตรี (78%)
ปริญญาโทหรือสูงกว่า (18%)
ประสบการณ์การทำงาน
1 ปี (31%)
1-4 ปี (27%)
5-9 ปี (21%)
10-14 ปี (12%)
15-19 ปี (5%)
20 ปีขึ้นไป (4%)
10 อันดับสายงานที่มีจำนวนสมาชิกมากที่สุด
- งานขาย/บริการ/พัฒนาธุรกิจ (12%)
- วิศวกรรม (10%)
- IT (9%)
- ธุรการ/HR (8%)
- การตลาด/PR (6%)
- บัญชี (6%)
- สายการผลิต (5%)
- ธนาคาร/การเงิน (5%)
- การท่องเที่ยว/โรงแรม/ F&B (4%)
- งานบริหาร (4%)
ซึ่งสำหรับการไม่ให้ผู้สมัครงานระบุปัจจัยที่สื่อถึงการเลือกปฏิบัติข้างต้นนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ในโลกสากล แต่ยังคงเป็นเรื่องใหม่ในสังคมไทย เพราะในหลายบริษัทก็ยังคงมีแนวคิดในด้าน ‘การทำกำไรสูงสุด’ มากกว่า ‘การเคารพต่อหลักสิทธิมนุษยชน’ อยู่ดี
–
