ช่วง Back to School เป็นช่วงนาทีทองที่รองเท้านักเรียนสร้างยอดจำหน่ายได้มากถึง 70% ของยอดจำหน่ายทั้งหมดและต่างเร่งยอดจำหน่ายผ่านกลยุทธ์รูปแบบต่างๆ ทั้งการสร้างภาพลักษณ์ในฐานะแบรนด์ที่ใช่สำหรับวัยรุ่น ผ่านแคมเปญ พรีเซ็นเตอร์ ภาพยนตร์โฆษณา และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีดีไซน์สวยงามเป็นแฟชั่นมากขึ้นที่สร้างความรู้สึกใส่แล้วมั่นใจบางบอกความเป็นตัวตน และไม่ผิดระเบียบเพราะในเวลานี้ รองเท้านักเรียนไม่ได้นำเสนอเพียงฟังก์ชั่นอย่างเดียว

ปัจจุบันนักเรียนมีรองเท้านักเรียนเฉลี่ยปีละ 2.3 คู่ และการแข่งขันในตลาดรองเท้านักเรียนปีนี้ ตลาดที่มีมูฟเมนต์การแข่งขันที่มีสีสันที่สุดคงหนีไม่พ้นตลาดรองเท้าผ้าใบนักเรียน ที่มีสัดส่วนในตลาดรองเท้านักเรียนมากถึง 60% หรือมูลค่า 3,000 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรองเท้านักเรียน 5,000 พันล้านบาท จากผู้แข่งขัน 2 รายใหญ่ที่โดดเด่นได้แก่ นันยาง และเบรกเกอร์ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่มีแนวทางแตกต่างกันไป

นันยางซูการ์ จากรองเท้านักเรียนหญิงที่สวมใส่สู่ไลฟ์สไตล์นักเรียนหญิง

แบรนด์ที่สร้างปรากฏการณ์รองเท้าผ้าใบนักเรียนได้มีสีสันที่สุดในปีนี้ คงหนีไม่พ้นผู้นำอันดับหนึ่งอย่างนันยางจากการปรับตัวโปรดักท์จากฟังก์ชั่น จากรองเท้าที่มีอยู่เดิม 2 รุ่นคือรุ่นเบสิก 70% รุ่นแฮฟฟัน เป็นแฟชั่นอย่างเห็นได้จัดจากที่เคยปลูกฝังภาพลักษณ์ความเก๋าของรองเท้านักเรียนนันยางพื้นเขียวให้โดดเด่นอยู่ในโลกออนไลน์ จนนักเรียนทั้งประเทศที่สวมใส่นันยางต้องงัดภาพรองเท้านันยางของตัวเองออกมาโชว์เพื่อความเก๋า(ของรองเท้าตัวเอง) ให้เพื่อนนักเรียนทั่วประเทศได้รู้

มาในคราวนี้ นันยางได้ใช้งบการตลาด 75 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 10% และ เห็นโอกาสในตลาดรองเท้าผ้าใบนักเรียนหญิง ซึ่งมีรสนิยมแตกต่างจากเด็กนักเรียนชาย และเป็นตลาดที่นันยางต้องเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับแบรนด์อื่นๆ ที่มีรูปทรงรองเท้าที่โดนใจนักเรียนหญิงมากกว่า ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ “นันยางซูการ์” รองเท้าผ้าใบนักเรียนหญิงทรงแฟชั่น เพรียวเข้ารูปเท้าของผู้หญิงที่ใส่แล้วไม่ผิดกฎระเบียบโรงเรียน มีริบบิ้นสีแถมมาให้เลือกเปลี่ยนสร้างภาพลักษณ์ความเป็นแฟชั่นสามารถซื้อใส่ได้แม้ไม่ต้องเป็นนักเรียน ทำให้ช่วงเวลาในการจำหน่ายรองเท้านักเรียนนันยางซูการ์ขยายออกไปได้ตลอดทั้งปีและจากการตอบรับของนันยางซูการ์ นันยางคาดหวังว่าสามารถสร้างสัดส่วนยอดจำหน่ายได้ 10% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ 5% ในปีแรก

เบรกเกอร์ผ้าใบรุ่นใหม่ไม่พอใส่แล้วต้องแร็พด้วย

ผู้แข่งขันอันดับสองในตลาดรองเท้าผ้าใบอย่าง เบรกเกอร์ อาศัยช่วงจังหวะเวลา Back to School ช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งด้วยการเปิดตัวรองเท้าผ้าใบ “เบรกเกอร์ ซูเปอร์ แบล็ก” และ “ซูเปอร์ไวท์” โปรดักท์ใหม่ล่าสุดของเบรกเกอร์ครั้งแรกในรอบ 10 ปี ด้วยงบ R&D 4 ล้านบาทเจาะกลุ่มเป้าหมายนักเรียนชายอายุ 15 ปีขึ้นไป

การเปิดตัว เบรกเกอร์ ซูเปอร์ แบล็ก และ ซูเปอร์ไวท์วัตถุประสงค์หลักคือการเป็นรองเท้าผ้าใบที่มีดีไซน์สวย ใส่ได้ทั้งไปโรงเรียนและไปเที่ยว ถือเป็นหนึ่งในการปรับกลยุทธ์รองเท้าผ้าใบนักเรียนเบรกเกอร์สู่ความเป็นแฟชั่นมากกว่าฟังก์ชั่นเหมือนในอดีต

เบรกเกอร์สร้างภาพลักษณ์เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความเท่ให้กับรองเท้านักเรียน ซูเปอร์ แบล็ก และ ซูเปอร์ไวท์ ด้วยงบการตลาด 30 ล้านบาท และพรีเซ็นเตอร์ โจอี้ บอย เจ้าพ่อแร็พเปอร์ขวัญใจมือหนึ่งเมืองไทย พร้อมกิจกรรมทางการตลาดตอกย้ำแบรนด์ที่เข้าถึงวัยรุ่นและเป็นแบรนด์ที่สนับสนุนวัยรุ่นทำประโยชน์เพื่อสังคมผ่าน กิจกรรม”เบรกเกอร์บอย ขาสั้น… มันส์ให้สุด” เฟ้นหาเด็กนักเรียน 10 คนจากหลายสถาบันชื่อดังระดับประเทศมาทำกิจกรรมดีๆเพื่อสังคมร่วมกัน เช่น เข้าร่วมโครงการปลูกป่าที่ จ.น่าน และกิจกรรมการสร้างความสุขให้กับเด็กที่ด้อยโอกาสทางสังคม โดยมีโจอี้ บอย เป็นแม่ทัพร่วมกิจกรรมนำทีมเด็กเบรกเกอร์บอย



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online