ฟิลิปปินส์เดินทางมาถึงช่วงสำคัญของประเทศอีกครั้งผ่านการเลือกตั้งครั้งใหญ่สุดในรอบหลายปี และถึงคราวคนรุ่นใหม่ได้มีบทบาทหลักในการชี้ชะตาว่าใครจะได้เป็นผู้นำคนใหม่
วันนี้ (9 พฤษภาคม) ฟิลิปปินส์มีการเลือกตั้งครั้งใหญ่พร้อมกันในหลายๆ ภาคส่วน โดยจุดสนใจหลักอยู่ที่การขับเคี่ยวกันเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีระหว่าง Ferdinand Marcos Jr. ลูกชายอดีตผู้นำ กับ Leni Robredo รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน

เพราะเป็นหนึ่งในประเทศใหญ่แถบ ASEAN และมีประวัติศาสตร์การเมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องราว ทุกครั้งที่การเลือกตั้งใหญ่ของฟิลิปปินส์เวียนมาถึง จึงได้รับความสนใจอยู่เสมอทั้งจากประเทศร่วมภูมิภาคและในระดับโลก

สำหรับการเลือกตั้งใหญ่ครั้งนี้ก็มีหลายประเด็นที่ถูกจับตามอง เริ่มจากผลสำรวจความคิดเห็นส่วนใหญ่ รวมถึงโพลจากแก้วน้ำขายใน 7-Eleven อันเป็นแคมเปญการตลาดเกาะกระแสที่ชี้ว่า Ferdinand Marcos Jr. วัย 64 ปีมีคะแนนนำเป็นอันดับ 1 แบบทิ้งห่างจนอาจชนะการเลือกตั้ง
Ferdinand Marcos
ถ้าเป็นไปตามนี้ จะทำให้ตระกูล Marcos จะกลับมากุมอำนาจประเทศเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี หลัง Ferdinand Marcos ที่พัวพันการทุจริตครั้งใหญ่ ถูกโค่นล้มจากอำนาจผ่านปรากฏการณ์พลังประชาชน (People Power) เมื่อปี 1986
(ซ้าย) Ferdinand Marcos Jr. / (ขวา) Leni Robredo
ประเด็นถัดมาคือรองประธานาธิบดี Leni Robredo วัย 57 ปีที่แม้อยู่ในอันดับ 2 จากผลสำรวจความคิดเห็นและเป็นผู้หญิงคนเดียวในผู้สมัครชิงประธานาธิบดีทั้งหมด (อีก 9 คนเป็นชาย)
แต่เธอก็สู้ไม่ถอย ให้ทีมงานไปเคาะประตูบ้านโน้มน้าวให้ประชาชนที่ยังไม่ตัดสินใจ ไปเลือกเธอให้เป็นประธานาธิบดีหญิงคนที่ 3 ถัดจาก Corazon Aquino และ Gloria Arroyo

ประเด็นสุดท้ายคือ การที่มีประชากรอายุ 18-41 ปี กว่า 37 ล้านคน คิดเป็น 56% ของผู้สิทธิเลือกตั้ง จึงหมายความว่า คนรุ่นใหม่จะมีส่วนสำคัญในการกำหนดอนาคตประเทศผ่านการเลือกตั้งนี้
และเป็นที่น่าติดตามว่า ชาวฟิลิปปินส์รุ่นใหม่ ซึ่งมีไม่น้อยที่เกิดหลังปรากฏการณ์ People Power เมื่อปี 1986 จะเลือก Ferdinand Marcos Jr. หรือ Leni Robredo เป็นประธานาธิบดี
ปรากฏการณ์ People Power ปี 1986
ผลการเลือกตั้งจำลองของมหาวิทยาลันหลายแห่งชี้ว่าบรรดานักศึกษาเลือก Leni Robredo ตรงข้ามกับผลสำรวจความคิดเห็นที่ออกมาส่วนใหญ่ก่อนหน้านี้ก็ตาม

การเลือกตั้งฟิลิปปินส์ครั้งนี้ เปิดคูหาไปแล้วเมื่อเวลา 6 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่น (ราว 5 นาฬิกาตามเวลาในไทย) และจะปิดคูหา 19 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่นวันนี้ (ราว 18 นาฬิกาตามเวลาในไทย) โดยนอกจากเลือกประธานาธิบดีแล้ว ยังมีการเลือก รองประธานาธิบดี สมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวมไปถึงฝ่ายปกครองท้องถิ่น ในคราวเดียวกัน
ประธานาธิบดี Rodrigo Duterte
ในส่วนของการเลือกตั้งประธานาธิบดี ผู้ชนะจะได้บริหารประเทศต่อจากประธานาธิบดี Rodrigo Duterte และจะดำรงตำแหน่งได้เพียงสมัยเดียวเท่านั้นตามรัฐธรรมนูญ ภายใต้วาระดำรงตำแหน่ง 6 ปี / cna, theguardian, nikkei
