บนชั้น 26 ของตึกดีไซน์เท่ใจกลางสาทร ซึ่งเป็นที่ตั้งของ McCann Worldgroup, Bangkok เอเยนซี่ยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน ออฟฟิศใหม่แห่งนี้ตกแต่งได้เรียบหรู ดูสงบสามารถสะกดความวุ่นวายจากภายนอกที่เราพกเข้ามาได้ดีพอควร เรามาที่นี่เพื่อนั่งคุยกับชายที่สวมหมวก 2 ใบในเวลาเดียวกัน สันติ สุวรรณวลัยกร
คุยกับ “หมวกใบที่1”
Executive Creative Director คือตำแหน่งนำหน้าชื่อบนนามบัตรใบปัจจุบันของสันติ ECD สัญชาติไทยคนเดียวในรอบ 12 ปี ของ McCann ประเทศไทย
ประสบการณ์การทำงานกว่า 20 ปี โดยเริ่มต้นทำงานในเอเยนซี่ระดับโลกอย่าง JWT ในฐานะ Copy Writer นานกว่า 9 ปี ก่อนที่จะย้ายมาสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ McCann ในฐานะ Senior Copy Writer เติบโตและสร้างผลงานที่นี่มาตลอด 11 ปีกว่า ก่อนได้รับการโปรโมทเรื่อยมา จนเป็น Executive Creative Director เมื่อปี 2012 สังเกตได้ว่าสันติเป็นคนที่ย้ายงานน้อยมากในชีวิตการทำงาน เป็นสัญญาณบางอย่างที่เราสามารถสัมผัสได้ และสามารถลบล้างความเชื่อบางความเชื่อที่ว่า “ต้องย้ายงานบ่อยๆ จะได้ผลตอบแทนที่ดีและเติบโต” เขาพิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่าถ้าคุณมีดีพอคุณก็เติบโต
จุดเริ่มต้นที่น่าสนใจของสันติคือ Portfolio ชิ้นแรกที่ทำให้เขาได้เข้ามาอยู่ในวงการโฆษณา คือ “การ์ดเชิญ” เป็น Direct Mail ถึงรุ่นพี่ที่ออกแบบและเขียนข้อความด้วยตนเอง Direct ?ail ถูกส่งไปยังพี่ๆ หลายคน รวมถึง วิชิต เจียมศิริกาญจน์ ซึ่งตอนนั้นเป็นครีเอทีฟรุ่นพี่ที่ JWT เพื่อเชิญให้มาพูดชีวิตการทำงาน ในวงการโฆษณาให้น้องๆ ฟัง
ด้วยใจความที่เขียนและการออกแบบที่แฝงความสามารถของเขาไว้ ได้กลายเป็น Portfolio ที่ทำให้ได้ที่ทำงานโดยไม่รู้ตัว หลังจากเรียนจบ สันติเริ่มงานที่แรกกับ JWT
“ผมไม่รู้หรอกว่าจะต้องเจออะไรบ้าง รู้แต่ว่ามันท้าทายดี และตอนนั้นผมรู้แค่ว่าผมต้องเป็น Copy Writer”
เปลี่ยนสนาม ข้ามดิวิชั่น
หลังจาก 9 ปีที่ทำผลงานกับ JWT ในฐานะ Copy Writer สันติย้ายบริษัทครั้งแรก เหมือนกับการก้าวออกจากสนามที่คุ้นเคย เพื่อไปเจอสนามจริงที่ท้าทายขึ้น ในบทบาทที่โตขึ้นกว่าเดิม เขาเข้ารับตำแหน่ง Senior Copy Writer เป็นครั้งแรกที่ McCann ที่นี่เขาต้องเป็นผู้นำมากขึ้น
เขาเล่าให้เราฟังถึงความรู้สึกครั้งแรกของการย้ายที่ทำงาน “กลัวในตอนแรก กลัวที่ต้องย้ายจากที่ๆ เราคุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย ด้วยความที่ผมไม่ชอบย้ายงานอยู่แล้ว แต่โชคดีที่นี่ให้โอกาสผม สนุกกับพื้นที่ของผม เหมือนมีสนามกว้างพอ มีที่ให้ผมเล่น ผมแค่มีหน้าที่เล่นให้เต็มที่และสนุกกับสนามแห่งนี้ไปเรื่อยๆ” (เขายิ้มอย่างมีความสุข)
สันติ อาจเล่นสนุกเกินไปจนเวลาล่วงเลยเข้าปีที่ 12 และยืนอยู่ในตำแหน่งที่สูงที่สุดของสนามแห่งนี้เรียบร้อยแล้ว เขาคือ “ผู้จัดการทีม”
การทำงานเป็น ECD ย่อมต้องแบกรับความกดดันของทีมทุกทีมไว้ทั้งหมด ทำงานกับคนเยอะขึ้น ดูแลภาพรวมและเกี่ยวข้องกับการบริหาร ซึ่งต่างจากเดิมที่ได้สนุกกับการคิดงานเพียงอย่างเดียว
แต่สิ่งที่เราเห็น คือเขายิ้มรับและยินดีกับหน้าที่ที่ต้องเผชิญกับความกดดันได้เป็นอย่างดี โดยมี
ความท้าทายเป็นแรงขับ
“ถ้าหากเปรียบเทียบการทำงานเป็นเกมฟุตบอล ECD คือผู้จัดการทีมที่ต้องคุมทีม ดูภาพรวมทั้งหมด วางแผน จัดตัว ซื้อตัว ดูค่าตัว แทบจะไม่เหลือเวลาให้ลงเล่นเองได้เหมือนเมื่อก่อน”
ผลงานการทำประตู
ตลอดระยะเวลาที่ทำงานได้ฝากผลงานไว้ไม่น้อย คว้ารางวัลในประเทศและต่างประเทศ ได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ถ้าในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา โฆษณาสินค้า Dentyne Ice, Vixol, Ivy, สสส. น่าจะคุ้นตาและพอคิดภาพตามได้ง่ายที่สุด
โฆษณา Dentyne Ice– Downwards เรื่องราวของพนักงานหนุ่มออฟฟิศที่มีอาการง่วงระหว่างทำงาน การเผลอหลับทำให้เขาค่อยๆ ตกต่ำลง โดยตกทะลุตึกลงมาทีละชั้น จากพนักงานออฟฟิศบนตึก กลายมาเป็นเจ้าหน้าที่ที่ชั้นจอดรถใต้ดิน
หรือใครพอจำมนุษย์คราบฝังแน่นจาก Vixol ได้ ที่มีการทำภาคต่อมาเรื่อยๆ เป็นโฆษณาที่ใช้พรีเซ็นเตอร์ชื่อดังเเบบที่ลูกค้าชอบและใส่ไอเดียผสมตลกแบบที่คนดูชอบได้อย่างลงตัว โฆษณาอีกชิ้นที่คิดออกแน่ๆคือ Ivy Factory โฆษณา “กาแฟอ้ายวี” กาแฟโบราณจาก Ivy นำเสนอด้วยฉากโรงงานผลิตกาแฟแบบโบราณ มีลูกเล่นเครื่องจักรที่ดูเป็นทีเล่นทีจริง ใช้คนล้อเลียนการทำงานของเครื่องจักรอุตสาหกรรม
ผลงานเหล่านี้สร้างรอยยิ้มให้กับผู้ชมและสร้างรางวัลติดมือให้สันติและทีมงานไม่น้อยเช่นกัน ทั้ง AdFest,Spikes Asia,B.A.D, Adman
(ใส่ภาพผลงานโฆษณา)
หมวกอีกใบที่สวมอยู่
สมาคมผู้กำกับศิลป์บางกอก หรือ B.A.D ในปีนี้มีชื่อ สันติ สุวรรณวลัยกร เป็นหัวเรือใหญ่ขึ้นนั่งแทนนายกของสมาคม
B.A.D ปีนี้เป็นอย่างไร?
“ไปได้ดีครับ ผมได้เพื่อนๆ ทีมงานที่ดี กิจกรรมแรกอย่าง Student Workshop ที่ทำการคัดเลือกน้องๆ นักศึกษาจากทั่วประเทศ เพื่อเข้าอบรม ร่ำเรียนวิชากับพี่ๆ ครีเอทีฟจากเอเยนซี่ชั้นนำที่ประสบความสำเร็จ ระดับโลก เรียนแบบเข้มข้นคิดงานจริง ทำงานจริง ด่าจริง ชมจริง”
“ถ้าถามถึงคุณภาพของน้องๆ ที่ได้รับคัดเลือกเพื่อเข้ามาเรียนก็ถือว่ามีมาตรฐานในระดับหนึ่ง แต่เราจะเห็นความสามารถพวกเขาชัดเจนขึ้นหลังจากเรียนเสร็จ ถ้าคนที่พื้นฐานดีแล้วได้แนวทางที่ดีเสริม เขาจะไปได้ไกล และจะเป็นกำลังหลักของวงการโฆษณาต่อไป ส่วนโครงการอื่นๆ เช่น B.A.D Young Cannes ก็เพิ่งจัดกันไปเมื่อปลายเดือนตุลาคม และ Workshop อื่นๆ ก็กำลังตามมาติดๆ ปีนี้ก็ยังคึกคักเหมือนเดิม B.A.D พยายามพัฒนาอะไรใหม่ๆ ขึ้นทุกปี”
เด็กใหม่ : ทัศนคติ หรือ ความสามารถ
แน่นอน “ความสามรถ” คือสิ่งที่วงการมองหา แต่ ‘ทัศนคติ’ คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงาน ร่วมกันอย่างเป็นทีมในวงการโฆษณา
“ส่วนตัวผมๆ เชื่อใน ‘ทัศนคติ’ มากกว่า ‘การทำงานร่วมกับคนอื่นได้’ ‘เข้าใจในสิ่งที่ตนเองทำ’ และ ‘พร้อมให้ความช่วยเหลือ’ นี่คือสิ่งสำคัญ ถ้าคุณเป็นครีเอทีฟที่เก่ง แต่ทำงานร่วมกับใครไม่ได้ คุณก็เก็บความเก่งไว้ที่บ้าน เพราะมันจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่ทำงาน ผมเชื่อว่ารุ่นพี่หลายๆ คนในวงการก็มองหาน้องๆ ที่มีทัศนคติดี ทำงานดีและรักการทำโฆษณาจริงๆ”
Work Hard Stay Humble
ใครเคยสั่งผู้บริหารปีนหน้าต่างเพื่อถ่ายรูป? แต่ผู้ชายคนนี้ยอมทำ ช่วงก่อนการสัมภาษณ์เป็นการถ่ายภาพเพื่อลงประกอบในคอลัมน์ ช่างภาพอยากได้ภาพที่ดูสนุก (จากการคาดเดาบุคลิก) และมุมภาพที่แปลกตา สุดท้ายเราได้ภาพถ่ายที่มีวิวของตึกระฟ้าในกรุงเทพฯ เป็นแบล็คกราวด์และ ECD คนนี้ยืนแอคชั่นอยู่บนหน้าต่างอาคารชั้น 26
ตลอดการถ่ายภาพและสัมภาษณ์ เราจะได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาตลอดเวลา นอกจากหมวก 2 ใบที่ต้องใส่ตลอดเวลาทำงาน เมื่อหมดเวลางาน สันติมักวางหมวกทั้ง 2 ใบที่ใส่ไว้ที่ออฟฟิศ แล้วกลับบ้านเพื่อทำหน้าที่ของคุณพ่อ หน้าที่นี้ไม่ต้องสวมหมวก มีแต่หัวใจล้วนๆ ที่สั่งให้ทำ
เราสัมผัสได้ถึงความเป็นกันเองและอบอุ่นยิ่งกว่าเพลงที่เขาร้องไว้เสียอีก (กิจกรรมนอกเวลาของเขาคือการร้องเพลงและร้องได้ดีเสียด้วย ไม่เชื่อลองเอาชื่อ สันติ สุวรรณวลัยกร เสิร์ชในกูเกิ้ลดู)
“EGO เปรียบเสมือนอาวุธเก็บไว้ใช้ในสถานการณ์ที่ถูกต้อง ไม่เห็นต้องโชว์อาวุธของเราตลอดเวลา”
(ผมไม่ค่อยใช้ Ego พร่ำเพรื่อนะ Ego ก็เหมือนอาวุธ เราใช้มันในสนามที่เหมาะสม ไม่ต้องถือโชว์ตลอดเวลา)
ใครๆ ก็บอกว่าเป็นครีเอทีฟแล้วเท่ แต่เครียด
ความเท่: “ถ้าเท่ที่ต้องใช้ความคิดที่ลึกซึ้งและต้องทำให้คนอื่นเข้าใจด้วย มุมนี้ผมว่าเท่ แต่ถ้าเท่เพราะทำตัวล้ำ ใส่แว่นดำ ใช้ของแบรนด์เนม แล้วคิดงานอะไรไม่ได้เลย ผมว่าไปเดินแบบดีกว่า ไอดอลหลายๆ คนของผมเขาก็เท่จากงานที่เขาทำ เสื้อยืด ยีนส์ ลากแตะ คนพวกนี้โคตรเท่สำหรับผมเลย อยากให้น้องๆ หรือคนอื่นๆ มองมาที่บทบาทของการทำงานมากกว่าเปลือก”
ความเครียด: “ทุกอาชีพมีความเครียด ‘เวลา ความคาดหวัง มาตรฐานที่ควรจะเป็น’ คือปัจจัยหลักๆ ทำให้เครียด ครีเอทีฟส่วนใหญ่เครียดจากความรู้สึกที่ว่า ‘งานที่เราทำยังไม่ดีพอ’“
การแก้ไข “คือให้เราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เมื่อถึงเวลาที่กำหนด คุณจงคิดว่านั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว เราต้องรู้ลิมิต”
สันติฝากถึงคนที่กำลังมองอาชีพครีเอทีฟจากภายนอกและเตือนสติคนที่ทำงานเป็นครีเอทีฟอยู่ ให้รู้จักหน้าที่ของตน “คุณต้องรู้ตัวเองว่า ‘Advertising’ เป็นเพียงส่วนหนึ่งในกลไกทางการตลาด เราไม่ใช่เทวดา ยังมีส่วนประกอบอีกตั้งเยอะที่จะทำให้สินค้าประสบความสำเร็จเพียงแต่เราเป็นกลไกที่สร้างกระแสได้ดีที่สุด ดังนั้นคนทำงานควรรู้ถึงบทบาทตนเอง รวมถึงบอกน้องๆ ที่อยากเข้ามาควรรู้บทบาทว่าเราเข้ามาทำงานเป็นครีเอทีฟเพื่ออะไร”
17.30 น. สันติถอดหมวกผู้ถูกสัมภาษณ์ออกหลังจากการสัมภาษณ์จบลง และลุกขึ้นสวมบท ECD ของ McCann, Bangkok อีกครั้ง ก่อนกระโจนลงสู่สนามเพื่อสะสางงานที่ยังรอเขาอยู่
คิดงานไม่ออกทำอย่างไร?
“จริงๆ แล้วการคิดงานไม่ออก คือคิดออก แต่ที่คิดออกมายังไม่ดีพอหรือต้องใช้เวลานานในการคิด ดังนั้นทางออกคือเราต้องพัฒนาตนเองให้คิดงานได้ไวและมีคุณภาพ เพราะ ‘เวลา’ ถือเป็นหนึ่งในข้อจำกัดในการทำงานและเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญมาก เช่น เมื่อก่อนคุณต้องใช้เวลา 7 วันในการคิดงาน แต่ลูกค้าต้องการภายใน 3 วัน เราต้องฝึกให้คิดงานดีๆ ให้ได้ใน 3 วัน แรกๆ อาจไม่ได้แต่เราต้องพัฒนาและคุณจะทำได้ในที่สุด นี่แหละคือทางออก”
คนพิเศษที่อยากคิดโฆษณาให้?
“องค์ประกอบหลักๆ ในการทำโฆษณาคือ ลูกค้า, เอเยนซี่ และโปรดักชั่น ดังนั้นถ้าผมจะทำโฆษณาที่รวม 3 มาอยู่ที่ตัวผม ผมอยากทำโฆษณาให้ ‘ลูก’ เพราะเรารู้ว่าเขาชอบอะไร เท่ากับตัวผมก็เป็นลูกค้าเสียเอง ในขณะเดียวกันก็เป็นเอเยนซี่ด้วย อยากทำให้ออกมาแบบดูง่ายๆ สนุกๆ อาจเป็นแอนิเมชั่นก็ได้ ลูกต้องชอบแน่ๆ” (เขายิ้ม)
Marketeer เดือนธันวาคม 2557
เรื่อง : ภาคิน จันทร์จรัสทอง
ภาพ : เมธี ชูเชิด
Website : Marketeeronline.co /
