เพราะมักถูกเชื่อมโยงกับบริบททางการเมืองทำให้ความหมายของ “สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง” เป็นได้แค่หลังบ้าน ลมใต้ปีก หรือไม้ประดับชั้นดีเคียงข้างผู้นำประเทศ แต่หากกวาดตามองไปยังภาคธุรกิจของสหรัฐฯ วันนี้ หญิงเก่งมากมายกำลังแสดงให้เห็นความหมายแท้จริงของคำนี้ด้วยการพากันขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของสายงานบริหาร โดยเฉพาะล่าสุดกับการที่ Mary Barra ขึ้นเป็น CEO หญิงคนแรกของยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เต็มไปด้วยผู้ชายอย่าง GM
ลูกสาวช่างทำสีรถ Pontiac (บริษัทลูกของ GM) เข้าสู่ชายคา General Motors เมื่อปี 1980 ในฐานะนักศึกษาของ General Motors Institute (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Kent University) หลังจบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมไฟฟ้า เริ่มงานแรกในตำแหน่ง Plant Engineer โรงงาน Pontiacด้วยวัยเพียง 18 ปี ซึ่งขณะนั้นมีผู้หญิงในบริษัทน้อยมาก จากนั้นศึกษาต่อพร้อมทำงานควบคู่กันจนคว้าปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจในปี 1990 และก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องจนได้เป็นผู้จัดการโรงงานประกอบชิ้นส่วน Detroit/Hamtramck Assembly
ตำแหน่งผู้ช่วยของ Jack Smith อดีต CEO ทำให้บัณฑิตปริญญาโท Stanford ได้เรียนรู้งานบริหารระดับสูงครั้งแรก เธอยังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในสายงานบริหารอีกหลายแผนกพร้อมสร้างชื่อในคนในองค์กรได้จดจำ ทั้งค้านแผนลดอัตราจ้างงานของฝ่ายบริหารระหว่างเป็นหัวเรือใหญ่แผนกทรัพยากรมนุษย์เพราะเห็นว่าไม่ถูกต้องและผลักดัน Chevy Impala จนเป็นยานยนต์แห่งปี Consumer Report ขณะนั่งเก้าอี้หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ปี 2011
Mary Barra
หงส์ เหนือ มังกร
แล้ววันที่หงส์จาก Detroit บินสูงเหนือฝูงมังกรหนุ่มใหญ่ก็มาถึง โดยได้รับแต่งตั้งให่ดำรงตำแหน่งประธานบริหารของ GM ด้วยการเอาชนะคู่แข่งที่เป็นชายอีก 6 คน พร้อมสร้างประวัติศาสตร์เป็น CEO หญิงองค์กรยานยนต์ยักษ์ใหญ่คนแรกของโลกและเข้าสู่ชมรม “ผู้หญิงแถวหน้า” ของบริษัทชั้นนำแดนลุงแซมร่วมกับ Marrissa Mayer ของ Yahoo, Meg Whitman ของ Hewlett-Packard, Ursula Burns ของ Xerox และ Indra Nooyi ของ PepsiCo Inc. ได้อย่างสมภาคภูมิ
นักวิเคราะห์ด้านยานยนต์ให้ทัศนะต่อการขึ้นเป็น First Lady ของคุณแม่ลูก 2 วัย 52 ปี หลังGM พ้นวิกฤติการเงินแต่กำลังเผชิญความท้าทายจาก Toyota คู่แข่งหน้าเก่าจากญี่ปุ่นและ Teslaคู่แข่งร่วมชาติที่กำลังมาแรงว่า “GM กลับมาแต่งตั้งวิศวกรเป็นผู้บริหารอีกครั้งหลังปล่อยให้ชะตากรรมบริษัทอยู่มือของนักการเงินมาระยะหนึ่ง เพื่อแสดงความมั่นใจว่าอยากเปลี่ยนจากบริษัททำเงินกลับมาเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์” พร้อมชมว่า “การรู้จักทั้งภูมิหลังรวมถึงอนาคตของบริษัท นั่นคือคุณสมบัติเหมาะสมของผู้นำที่ดี”
ผู้บริหารเชื้อสายฟินแลนด์แสดงวิสัยทัศน์เพื่อนำพาองค์กรอายุ 105 ไปข้างหน้าไว้ว่า “การสร้างกรอบให้พนักงานมากเกินไป ไม่ใช่เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาแก้ตัว เราต้องทุ่มเททุกอย่างทั้งงบประมาณและทรัพยากร เพื่อผลิตสุดยอดรถยนต์, รถบรรทุก และรถอเนกประสงค์ออกมาให้ได้ ง่ายๆ คือจะไม่มีการผลิตรถกระป๋องอีกต่อไป” / mashable.com ,businessweek.com
Marketeer เดือนธันวาคม 2557
เรื่อง : ศิวโรจน์ สายแวว
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ