สาขา H&M ในรัสเซียกลับมาคึกคักอีกครั้ง ด้วยจำนวนคอแฟชั่นและลูกค้าที่ยอมต่อคิวยาวเหยียดเพื่อเข้าไปซื้อเสื้อผ้าพร้อมแฟชั่นไอเทมครั้งสุดท้าย หลัง H&M กลับมาเปิดขายแบบล้างสต๊อก ก่อนที่อีกไม่นานจากนี้จะปิดสาขาทั้งหมดในประเทศและถอนตัวไปจากผลกระทบของสงคราม
สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่เปิดฉากขึ้นเมื่อปลายกุมภาพันธ์ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างไปทั่วทวีปยุโรปและลามต่อถึงเศรษฐกิจ พร้อมเป็นต้นเหตุของราคาน้ำมันแพงและปัญหาข้าวยากหมากแพง
2 ประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักสุดคือรัสเซียกับยูเครน โดยขณะที่เศรษฐกิจรัสเซียได้รับผลกระทบเผชิญมาตรการคว่ำบาตรและการลงโทษจากสหรัฐฯ กับชาติพันธมิตร สินค้าหลายประเภทตั้งแต่ของกินของใช้และรถยนต์ ไปจนถึงเสื้อผ้า โดยเฉพาะแบรนด์อเมริกันและยุโรปเริ่มทยอยหายไปจากตลาดรัสเซีย เพราะต่างก็ปิดกิจการและถอนตัวเพื่อร่วมต้านสงคราม
หนึ่งในกรณีถอนตัวจากรัสเซียที่กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก คือการถอนตัวของ McDonald’s เพราะเป็นการปิดฉากธุรกิจในรัสเซียของแบรนด์อเมริกันชื่อดังอันเป็นสัญลักษณ์ของการล่มสลายของอดีตสหภาพโซเวียต
และถัดจากนั้นไม่นานเศรษฐีก่อสร้างไซบีเรียก็ซื้อกิจการ McDonald’s รัสเซียทั้งหมด แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น Vkusno & Tochka
ด้านแบรนด์กลุ่มฟาสต์แฟชั่นและสปอร์ตแบรนด์มากมาย เช่น H&M และ Nike ก็ถอนตัวจากรัสเซียเช่นกัน แต่ล่าสุด H&M ในรัสเซียกลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง หลังกลับมาเปิดร้านทั่วรัสเซียตลอดสิงหาคมถึงกันยายน ตามแผนขายสินค้าที่ยังมีอยู่สต๊อกให้หมดเพื่อชดเชยความเสียหายจากการถอนตัวพ้นรัสเซีย
ฝ่ายชาวรัสเซียก็พากันต่อคิวเข้าไปซื้อเสื้อผ้าและแฟชั่นไอเทมช่วงล้างสต๊อกนี้ และพากันแชร์ภาพเพื่อนร่วมชาติหน้าร้าน H&M ขึ้นสื่อโซเชียล
หนึ่งในชาวรัสเซียที่ต่อคิวรอเข้าร้าน H&M ที่ห้างสรรพสินค้า Aviapark ในกรุงมอสโคว์กล่าวว่า “ก็ H&M จะปิดแล้ว เลยจะเข้าไปซื้อของแบรนด์นี้ทุกอย่างที่อยากได้”
สำหรับ H&M เข้ามาเปิดสาขาแรกในรัสเซียเมื่อปี 2009 และปัจจุบันมีสาขาในรัสเซียอยู่ราว 170 แห่ง พร้อมด้วยพนักงานอีก 6,000 คน โดยรัสเซียเป็นตลาดใหญ่อันดับ 6
และการถอนตัวจากรัสเซียครั้งนี้จะทำให้ H&M เสียหาย 206 ล้านดอลลาร์ (ราว 7,330 ล้านบาท) ดังนั้นต้องหาทางชดเชยจนนำมาสู่การขายล้างสต๊อกนั่นเอง/theguardian
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ