นับเป็นความสำเร็จอีกครั้งของ COTTO ที่ในปีนี้สามารถคว้ารางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand 2021-2022 แบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศไทย ในหมวดผลิตภัณฑ์ก๊อกน้ำและสุขภัณฑ์ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา
นับเป็นโอกาสอันดีที่ Marketeer ได้มาพูดคุยอัปเดตถึงการเดินทางบนถนนที่มุ่งสู่การเป็น Space of Happiness Bathroom พื้นที่แห่งความสุขที่ไม่ใช่แค่สุขกาย แต่ยังสุขใจด้วยนวัตกรรม SMART & HYGIENE ที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริงของ COTTO
“COTTO ไม่ได้แค่ขายสุขภัณฑ์และก๊อกน้ำ แต่เราขายพื้นที่แห่งความสุขที่ช่วยดูแลสุขภาพ นอกจากการสร้าง Space of Happiness Bathroom พื้นที่แห่งความสุขด้วยนวัตกรรม SMART & HYGIENE แล้ว ในปีนี้เราเพิ่มเรื่อง “Well-being” เข้าไปด้วย โจทย์คือทำอย่างไรให้ COTTO สามารถเข้าไปอยู่ในธุรกิจสุขภาพได้ เราจะ Integrated Technology เข้าไปอย่างไร นั่นคือเป้าหมายที่ COTTO เพิ่งเริ่มต้นเดินทาง”
คุณกิตติพงษ์ โพธิ์ธรานนท์ กรรมการผู้จัดการ สยามซานิทารีแวร์ จำกัด อัปเดตถึงเป้าหมายและทิศทางที่แบรนด์ COTTO กำลังจะมุ่งไป
เพื่อยกระดับสู่ Well-being คุณกิตติพงษ์ขยายความต่อว่า ไม่ใช่แค่เพียงเรื่อง Integrated Technology แต่หมายความถึงการพัฒนา Ecosystem ที่พร้อม มีแพลตฟอร์มที่รองรับ ตลอดจนการดีไซน์ที่ต้องตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ ที่ครอบคลุมทั้งด้านความสะดวกสบาย สะอาดปลอดภัย คุ้มค่า ไว้วางใจได้ และต้องสวยงาม ตามมาตรฐานของ COTTO
“Well-being คือทิศทางที่เรากำลัง Start Journey ยังมีสิ่งที่ไม่รู้เต็มไปหมด ดังนั้นมันไม่ใช่แค่เรื่อง Unlearn จากแบบแผนความสำเร็จเก่า ๆ ที่เคยทำมา หรือ Reskill ใหม่ ๆ แต่ต้องเรียนรู้และลองทำไปเรื่อย ๆ ถ้าเปรียบกับการวิ่งก็เหมือนเราวิ่งแบบ Long Run
“ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการเพิ่มคุณค่าด้านสุขอนามัยและสุขภาวะให้ตนเองมากขึ้น จากผลวิจัยพบว่า ผู้คนใช้เวลาถึง 11.4 ชั่วโมงในบ้าน และมองว่าบ้านเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย นั่นคือเป็นเสมือนพื้นที่ของการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนตัวอย่างห้องน้ำ ที่เป็นพื้นที่ความสุขให้กับผู้อยู่อาศัยทั้งครอบครัว
“เรามองว่าในอนาคตพื้นที่แห่งความสุขอย่าง ‘ห้องน้ำ’ สามารถเป็นมิติใหม่ของการดูแลสุขภาพหรือความบันเทิง Health & Entertainment ที่ตอบโจทย์ในเรื่อง Good Health & Wellness สำหรับครอบครัว เราอาจจะได้เห็นการเชื่อมต่อเหมือน Gadget ระหว่างสุขภัณฑ์ และ Telemedicine ผ่าน Smart Product COTTO”
นอกจากอัปเดตเป้าหมายและทิศทางของ COTTO แล้ว คุณกิตติพงษ์ยังอัปเดตตัวเลขภาพรวมของตลาดสุขภัณฑ์ก๊อกน้ำมูลค่า 10,000 ล้านบาท ที่ในปีนี้คอตโต้ครองส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นเป็น 36-38% ซึ่งในปีที่ผ่านมา สุขภัณฑ์ SMART & Hygiene product สามารถครองส่วนแบ่งถึง 8% ของยอดขายของ COTTO และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 10% ภายในระยะเวลา 2 ปี
“สัดส่วนสินค้ากลุ่ม Smart & Hygiene ของ COTTO ที่เพิ่มขึ้นเป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าเทรนด์นี้มันโตไปเรื่อย ๆ และในอนาคตหากทุกคนเริ่มใช้งานเยอะขึ้น ความต้องการก็จะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ทิศทางการเติบโตมันตั้งอยู่บนสมมุติฐานของเรา ซึ่งมันเป็นไปได้”
ECO COTTO ไม่ใช่เทรนด์ที่ต้องปรับตัวแต่เป็นสิ่งที่ ‘ต้องทำ’
อีกมิติของการพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่คุณกิตติพงษ์หยิบยกมาเล่าให้ฟังคือ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ที่เห็นกันคือการพัฒนาสินค้าภายใต้ SCG green choice ผลิตภัณฑ์ที่มีกระบวนการผลิต หรือการใช้งานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ ที่เลือกชำระได้ทั้งครั้งละ 3 ลิตร หรือ 4.5 ลิตร หรือก๊อกน้ำที่มีอัตราการประหยัดน้ำสูงกว่ามาตรฐาน มอก. สูงสุดถึง 40% นับว่าทุกสินค้าและบริการจาก COTTO ต้องรบกวนธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด เพราะพื้นที่แห่งความสุขต้องคำนึงถึงทั้งวัฏจักรตั้งแต่กระบวนการดีไซน์จนทำลายทิ้ง
คุณกิตติพงษ์อธิบายว่า นี่ไม่ใช่การปรับตัวเพื่อตอบรับเทรนด์ของผู้บริโภครุ่นใหม่ที่สนับสนุนสินค้ารักษ์โลกหรือสินค้า ECO Product หากแต่เป็นสิ่งที่ COTTO “ต้องทำ” ในฐานะประชากรบนโลกนี้
“COTTO ก็คือหนึ่งในประชากรบนโลกนี้ เรามีหน้าที่รับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อคนรุ่นหลัง ว่าเราจะส่งต่อโลกแบบไหนให้กับพวกเขา ดังนั้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ COTTO ไม่ใช่แค่เรื่องดีไซน์ที่ต้องรักษ์โลกหรือใช้แล้วประหยัดน้ำ แต่หมายรวมถึงกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การใช้ทรัพยากรที่ลดน้อยลงแต่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การลดการปลดปล่อย CO2 สู่บรรยากาศในขั้นตอนต่าง ๆ ตลอดจนการใช้พลังงานหมุนเวียน
COTTO ไม่จำเป็นต้องรอ หากมันเป็นทางที่ถูกต้องสำหรับโลกใบนี้ เราพัฒนาและลงทุนในเรื่องนี้อย่างจริงจัง”
ในอนาคตนอกจากเรื่อง “คุณภาพ ดีไซน์ เทคโนโลยี และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์คุณภาพการใช้ชีวิตให้สะดวกสบาย ปลอดภัย และมีสุขอนามัยที่ดี สิ่งที่เราอาจได้เห็นจาก COTTO คือระบบการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ผู้บริโภคสามารถตรวจเส้นทาง ที่มา กระบวนการผลิต เพื่อความมั่นใจที่จะซื้อหรือใช้ผลิตภัณฑ์จาก COTTO
และอีกเทรนด์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ การตอบโจทย์ความเป็น Personalization ที่ COTTO มุ่งมั่นที่จะส่งมอบสินค้าและบริการเพื่อเติมเต็มพื้นที่แห่งความสุขให้สมบูรณ์ที่สุด ด้วย Solution ที่สามารถ Customization สินค้าที่ Mix & Match กับ Lifestyle Design Trends ให้กับลูกค้าในราคาที่จับต้องได้ เหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้ COTTO คือแบรนด์ผลิตภัณฑ์ก๊อกน้ำและสุขภัณฑ์อันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
และการเดินหน้าสู่ SMART, HYGIENE & Well-being และการเป็น ECO COTTO จะทำให้ COTTO กลายเป็น The Responsible Trend Setter อย่างแท้จริง
มุ่งสู่การเป็น ASEAN Brand
และความท้าทายต่อไปคือ การเดินทางสู่การเป็น ASEAN Brand ของ COTTO เพราะนอกจากการพัฒนาสินค้าแล้ว สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ การสร้างแบรนด์ ที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน แม้ว่าการแข่งขันในตลาดโลกจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยศักยภาพของคนไทย และเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องนั้น สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้
“ยังยืนยันว่า COTTO เป็นแบรนด์คนไทยที่ถูกคิดและออกแบบมาเพื่อคนไทยและคนเอเชียอย่างแท้จริง จุดนี้ทำให้เราสามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และสามารถขยายออกไปในบ้านใกล้เรือนเคียง กลายเป็น ASEAN Brand ได้ และการขยายออกไปนั่นหมายถึงการสร้างพื้นที่แห่งความสุข พื้นที่ที่คนอีกกว่า 600 ล้านคนในอาเซียนมีโอกาสได้ใช้ของดี มีคุณภาพ ดีไซน์สวย ราคาจับต้องได้ อย่าง COTTO”
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ COTTO Smart Toilet สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.cotto.com
SHOWROOM COTTOLIFE SCG home experience CDC เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา
LINE official: @COTTOshop
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline
