เดนทิสเต้ เผยโควิด-19 ส่งตลาดยาสีฟันในไทย แข่งขันสูง แบรนด์ใหม่ ๆ ลงสนามแตะ 50 แบรนด์ พบปี 65 โต 5-6% ส่วนทิศทางของ เดนทิสเต้ หลังต่อสัญญา ลิซ่า BLACKPINK เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ตั้งเป้ายอดขายโตเพิ่ม 10% 

ซ้ายไปขวา: ศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล, เภสัชกร ดร. แสงสุข พิทยานุกุล, ศิวกร พิทยานุกุล

เภสัชกร ดร. แสงสุข พิทยานุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเฮลท์กรุ๊ป จำกัด ผู้นำเข้าและผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากระดับพรีเมียม เดนทิสเต้ (DENTISTE’) เผยว่า นับตั้งแต่การเกิดขึ้นของโควิด-19 ตลาดยาสีฟันในประเทศไทยมีการแข่งขันกันสูงมาก ในแง่ของแบรนด์ที่อยู่ในสนาม โดยจากเดิมที่เคยมีไม่ถึง 10 แบรนด์ แต่ตอนนี้น่าจะมีแตะ 50 แบรนด์ที่ลงมาชิงส่วนแบ่งตลาดกลุ่มนี้

ขณะที่มูลค่าตลาดพบว่าอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท และการเติบโตในปี 2565 จะอยู่ที่ประมาณ 5-6%

ด้าน เดนทิสเต้ ถือเป็นแบรนด์ที่วางขายยาสีฟันในประเทศไทยมาแล้วประมาณ 16 ปี และ 18 ปี หากนับภาพใหญ่อย่างตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก (Oral Care)

ปัจจุบันแบรนด์มีส่วนแบ่งตลาดยาสีฟันในไทย ภาพรวมอยู่ที่ 7% เนื่องจากเป็นแบรนด์ยาสีฟันที่จัดอยู่ในกลุ่มไฮเอนด์ ซึ่งหากนับเฉพาะในกลุ่มนี้จะมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 85%

ส่วนปรากฏการณ์หลังเดนทิสเต้ได้ ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ซึ่งได้มีการต่อสัญญาอยู่กันต่อไปเรียบร้อย

พบว่าตั้งแต่เปิดตัวก็มีห้างสรรพสินค้าติดต่อให้นำผลิตภัณฑ์มาวางขายกันหนาแน่น ตลอดจนมีคลินิกทันตกรรมติดต่อเข้ามากันกว่า 6,000 สาขา อย่างง่ายดาย โดยที่แบรนด์ไม่ต้องเข้าไปทำการเจรจากันก่อนด้วยซ้ำ

และทำให้ยอดขายผลิตภัณฑ์ของ เดนทิสเต้ เติบโตราว 15% แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์การระบาดอย่างหนักของโควิด-19

 

ตลาดยาสีฟันในไทย ปี 2565

ชิงแชร์ 1 หมื่นล้านบาท แตะ 50 แบรนด์

มูลค่าตลาดปัจจุบัน 10,000 ล้านบาท
การเติบโตปี 2565  5-6%
แบรนด์ที่แข่งขันอยู่ในตลาด น้อยกว่า 10 แบรนด์ ก่อนเกิดโควิด VS 50 แบรนด์ หลังเกิดโควิด
ที่มา: เดนทิสเต้ (DENTISTE’)

 

เภสัชกร ดร. แสงสุข พิทยานุกุล ยังได้เล่าความน่าสนใจของยอดขายเดนทิสเต้ในต่างประเทศว่า แบรนด์มียอดขายในเกาหลีใต้มากกว่าที่เมืองไทยถึง 2 เท่า และวางขายผลิตภัณฑ์ในเมืองแดนกิมจิแห่งนี้มาแล้วถึง 13 ปี มีส่วนแบ่งตลาดยาสีฟันในประเทศนี้ถึง 13%

ทำให้ไม่น่าแปลกใจ ที่ เดนทิสเต้ กลายมาเป็นแบรนด์ยาสีฟันที่ ลิซ่า BLACKPINK เลือกใช้มาตลอดอยู่แล้ว และส่งผลให้เป็น 1 ใน 10 แบรนด์ที่เธอเลือกรับเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์

โดย ศุภาพิชญ์ พิทยานุกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของเดนทิสเต้ เผยว่า การได้ ลิซ่า BLACKPINK มาร่วมงานในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ต่อไปอีก ทำให้เดนทิสเต้ตั้งเป้ายอดขายที่จะเติบโตได้เพิ่มขึ้นอีก 10% จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และการทำการตลาดอย่างต่อเนื่องหลังจากนี้

และเกิดโปรเจกต์ใหม่ ๆ อีกมากมาย อาทิ การสนับสนุนให้เยาวชนไทย ประสบความสำเร็จในเวทีระดับโลกแบบ ลิซ่า BLACKPINK ด้วยแคมเปญประกวด ร้อง เต้น เล่นดนตรี เพื่อให้เยาวชนไทย ที่มีความฝันเหมือน ลิซ่า BLACKPINK ได้มาโชว์ความสามารถ และกล้าที่จะออกตามหาความฝันของตัวเอง

ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือน พ.ย. 65 ณ สยามสแควร์ โดยผู้ชนะในแคมเปญนี้จะได้พบกับ ลิซ่า BLACKPINK ตัวจริงเสียงจริงในเดือน ก.พ. 66 ที่งาน Meet & Greet Lisa x DENTISTE’ แบบ Exclusive Private Fan Meet โดยจัดขึ้นเพื่อแฟน ๆ ของ เดนทิสเต้ โดยเฉพาะ พร้อมรับเงินรางวัลอีกมากมาย โดยแคมเปญนี้จะล้อไปกับภาพยนตร์โฆษณาของเดนทิสเต้ที่เพิ่งเปิดตัวไป

นอกจากนี้ ยังมีการทำการตลาดภายใต้แนวคิด People Marketing ที่ไม่ใช่ทำเพื่อเพิ่มยอดขาย แต่มีจุดประสงค์คืนกำไรและสิ่งดี ๆ สู่สังคม ด้วยการเปิดตัวยาสีฟันหลอด 50 กรัม ราคา 1,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 36,000 บาท)

ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ของการขัดฟันโดยใช้เพชรผสมอยู่ในยาสีฟัน 1.2 กะรัต และจะผลิตขึ้นมา 1,000 เซต วางขายทั่วโลก แบบลิมิเต็ดเอดิชั่น โดยจะนำรายได้จากการขายไปช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาสุขภาพช่องปาก ซึ่งเตรียมเปิดตัวพร้อมให้ชมเร็ว ๆ นี้

ตลอดจนการทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลของรัฐ เพื่อที่จะช่วยลดอัตราการเกิดฟันผุ ซึ่งปัจจุบันพบว่าคนไทยมีฟันผุมากถึง 98.5%

โดยจะเป็นการช่วยเหลือผ่านโครงการส่งเสริมและสนับสนุน อาทิ การแจกยาสีฟันชนิดเจลเคลือบฟันให้กับทันตแพทย์กว่า 1 ล้านหลอด ในปี 2021-2022 และในปี 2022-2023 จะแจกเพิ่มอีก 1-2 ล้านหลอด โดยสามารถไปรับ DENTISTE’ Anticavity Max Fluoride ได้ฟรีที่คลินิกทันตกรรมทั่วประเทศ เพียงแจ้งว่ามารับยาสีฟันลิซ่า BLACKPINK

ส่วนการพัฒนาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของเดนทิสเต้ หลังจากนี้ ศิวกร พิทยานุกุล  ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ เผยว่า ปัจจุบันแบรนด์มีผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาสู่ตลาดตลอด เพราะแบรนด์มีวางขายอยู่ใน 25 ประเทศทั่วโลก ซึ่งผู้บริโภคในแต่ละประเทศก็จะมีความต้องการแตกต่างกันไป

อย่างในปี 2566 ก็จะได้พบกับนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ครอบคลุมทั้งเรื่องฟันผุ กลิ่นปาก รวมถึงเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภค เช่น ยาสีฟันเม็ด ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่สะดวกต่อการใช้งาน สามารถควบคุมปริมาณฟลูออไรด์ในการใช้แต่ละครั้งได้ตามที่ทันตแพทย์ยอมรับและแนะนำ โดยจะแถมไปกับแปรงสีฟันเดนทิสเต้ทุกด้ามที่ผู้บริโภคเลือกซื้อ

หรือจะเป็นน้ำยาบ้วนปากที่สามารถแปรงฟันได้ และเจลสำหรับเคลือบฟันลดการสึกของเคลือบฟันชั้นนอก เป็นต้น



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online