Oreo เปิดประวัติแบรนด์คุกกี้ชื่อดังที่มีอายุกว่า 100 ปีจากสหรัฐฯ

‘บิด ชิมครีม จุ่มนม’ ถ้าพูดถึงประโยคนี้ ทุกคนคงนึกถึงแบรนด์คุกกี้ชื่อดัง Oreo(โอรีโอ) เพราะประโยคนี้ถือเป็นหนึ่งในสโลแกนโฆษณาฮอตฮิตของแบรนด์เลยทีเดียว

และแน่นอนว่า นับตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์Oreoได้จำหน่ายไปแล้วกว่า 450,000 ล้านชิ้นทั่วโลก และทำรายได้มากกว่าพันล้านดอลลาร์ในทุก ๆ ปี ซึ่งแบรนด์นี้มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

และอะไรทำให้แบรนด์Oreoถึงเป็นหนึ่งในแบรนด์คุกกี้ที่ขายดีที่สุดในโลก ถึงแม้ว่ามีอายุมากกว่า 100 ปีแล้ว

Oreoแบรนด์คุกกี้ที่หลายคนหลงรัก

Oreoเป็นแบรนด์ของคุกกี้ที่มีลักษณะคล้ายกับแซนด์วิชที่ประกอบด้วยคุกกี้สองชิ้นประกบกันพร้อมมีไส้ครีมหวานอยู่ตรงกลาง ก่อตั้งโดย Nabisco (นาบิสโก) บริษัทผู้ผลิตคุกกี้และขนมขบเคี้ยวสัญชาติอเมริกัน ในวันที่ 6 มีนาคม 1912

ปัจจุบันแบรนด์Oreoเป็นของ Mondelez International (มอนเดลีซ อินเตอร์เนชั่นแนล) หลังจากซื้อกิจการในปี 2012 และแบรนด์Oreoวางจำหน่ายในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

ถึงแม้Oreoจะได้รับการพัฒนาและผลิตครั้งแรกโดย National Biscuit Company (เนชั่นแนล บิสกิต คอมพานี) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Nabisco ในปี 1912 ที่โรงงาน Chelsea (เชลซี) แต่ความจริงแล้วOreoได้รับแรงบันดาลใจมาจากคุกกี้ Hydrox (ไฮดรอกซ์) ที่ผลิตโดยบริษัท Sunshine (ซันซาย) ซึ่งเปิดตัวในปี 1908 นั่นเอง

Samuel J. Porcello

ในตอนแรกคุกกี้ของOreoนั้นคล้ายกับคุกกี้ของ Hydrox เป็นอย่างมาก จน Samuel J. Porcello (แซม เจ. ปอร์เชลโล) นักวิทยาศาสตร์การอาหารชาวอเมริกันที่ทำงานที่ Nabisco เป็นเวลา 34 ปีได้ประดิษฐ์ไส้ครีมคุกกี้Oreoสีขาวขึ้นมา จนได้รับฉายาว่า Mr. Oreoเพื่อเป็นเกียรติแก่การคิดค้นคุกกี้สอดไส้ครีมนั่นเอง

หลังจากนั้นไม่นานOreoก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว จนทำให้คุกกี้ครองตำแหน่งอันดับหนึ่งของคุกกี้ที่ขายดีที่สุด และเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนนับล้าน ต่อมาบริษัทจึงได้เพิ่มรสชาติใหม่ ๆ อย่างเช่น ช็อกโกแลต หรือสตรอว์เบอร์รี ซึ่งรสชาติเหล่านี้ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน

Oreoได้รับความนิยมไปถึงต่างประเทศ

ในไม่ช้าOreoก็ได้รับความนิยมไม่แค่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่มีจัดจำหน่ายไปทั่วโลกผ่านช่องทางการขาย และการตลาดที่หลากหลาย ส่งผลให้แบรนด์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงขนาดบริษัท Kraft Foods (คราฟท์ฟู้ดส์) กลุ่มบริษัทผู้ผลิตและแปรรูปอาหารสัญชาติอเมริกันได้กล่าวว่าOreoเป็นคุกกี้ที่ขายดีที่สุดในโลก

นอกจากนี้ ในเดือนมีนาคม 2012 นิตยสาร Time (ไทม์) รายงานว่ามีการจัดจำหน่ายคุกกี้Oreoในมากกว่า 100 ประเทศ และมีการประเมินว่าตั้งแต่Oreoถือกำเนิดขึ้นในปี 1912 มีการผลิตไปแล้วกว่า 450 พันล้านชิ้นทั่วโลก

อย่างเช่นในสหราชอาณาจักร เครือซูเปอร์มาร์เก็ต Sainsbury’s ได้นำเข้าOreoเป็นครั้งแรก และได้รับความนิยมเป็นอย่างดี ในปี 2008 Oreoจึงได้ขยายมาเปิดสาขาอย่างเต็มรูปแบบ โดยปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นหลอดแบบผู้คนคุ้นเคยมากขึ้น พร้อมด้วยแคมเปญโฆษณาทางโทรทัศน์มูลค่า 4.5 ล้านปอนด์ ที่ใช้สโลแกนหลัก บิด ชิมครีม จุ่มนม ส่งผลให้Oreoได้รับความนิยมสูงสุดอันดับที่ 16 ในสหราชอาณาจักร หรืออย่างในอินเดียที่Oreoได้เข้าสู่ตลาดโดย Cadbury India ในปี 2011 ผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน

โดยในบางประเทศOreoจะมีหลากหลายรสชาติที่ไม่มีในสหรัฐอเมริกา เช่น Green Tea Oreoที่มีจำหน่ายเฉพาะในจีนและญี่ปุ่นเท่านั้น Lemon Ice Oreoที่เพิ่งเปิดตัวในญี่ปุ่น หรือ Blueberry Ice Cream Oreoที่มีจำหน่ายในจีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม เป็นต้น

ด้วยความเป็นที่นิยม ทำให้Oreoมีรายได้รวมทั่วโลก​มากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์โดยเฉลี่ยในแต่ละปี และยังเป็นขนมแบรนด์เดียวใน Mondelez International ที่ทำรายได้แตะหลักพันล้านอีกด้วย

ถอดความสำเร็จของแบรนด์ Oreo

ความสำเร็จของOreoเกิดการสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ เพราะถึงแม้จะมีคู่แข่ง แต่ถ้าสินค้าของแบรนด์มีความโดดเด่นก็ไม่ยากต่อการยืนหยัดนั่นเอง

อีกทั้งOreoยังมีสโลแกนที่ติดหูและประสบความสำเร็จในการสื่อสารวิธีการกินแบบ บิด ชิมครีม จุ่มนม ซึ่งทำให้การกินOreoมีความโดดเด่นและเป็นที่จดจำมากกว่าสินค้าอื่น ๆ อีกด้วย ซึ่งจากสถิติได้เผยว่า 50% ของผู้บริโภคมักจะกินOreoด้วยวิธีนี้นี่เอง

ยิ่งไปกว่านั้นOreoยังมีการพัฒนาปรับเปลี่ยนสินค้าให้กับยุคสมัยอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการออกจำหน่ายรสชาติใหม่ ๆ และการพัฒนารูปแบบคุกกี้ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น เช่น Mini Oreoที่มีขนาดเล็กลง หรือOreo Thins ที่เป็นแบบบาง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ทำให้ชื่อเสียงของแบรนด์มีมูลค่าทางการตลาดเพิ่มขึ้น และผู้บริโภคเองก็จะรู้สึกผูกพันกับแบรนด์โดยไม่รู้ตัวอีกด้วย

บทสรุป

Oreoเป็นคุกกี้ที่ขายดีที่สุดนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 1912 และกลายเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมในศตวรรษที่ 20 ตั้งแต่สูตรขนมต่าง ๆ ที่ทำจากคุกกี้Oreoที่แพร่กระจายบนอินเทอร์เน็ต ไปจนถึงขนมยอดนิยมประจำเทศกาล จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมOreoถึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนติดอันดับคุกกี้ที่ขายดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา และมียอดขายคุกกี้Oreoมากกว่า 491 พันล้านชิ้นทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน

 

ที่มา:

https://en.wikipedia.org/wiki/Oreo#:~:text=The%20name%20Oreo%20was%20trademarked,%22OREO%22%20in%20the%20center.

https://www.thoughtco.com/history-of-the-oreo-cookie-1779206

https://www.biscuitpeople.com/magazine/post/the-short-history-of-oreo-cookieshttps://www.biscuitpeople.com/magazine/post/Oreo-The-Worlds-Most-Famous-Cookie-Brand

https://www.seriouseats.com/history-of-oreos-bravetart-cookbookhttps://www.insider.com/interesting-facts-about-oreo-2018-7

https://www.businesstoday.in/magazine/lbs-case-study/story/how-kraft-foods-won-over-customers-in-china-and-india-37539-2013-03-12

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer