แบรนด์จีนดัน ไทย ศูนย์กลางผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวาแห่งอาเซียน เม.ย. 2566 เข้าลงทุนเพิ่ม 2 เจ้า Changan-GAC รวม 1.62 หมื่น ลบ. BOI เผยจ่อคิวลงทุนหลังจากนี้อีก 3 เจ้าใหญ่ Geely–JAC-JMC
แบรนด์จีนลงทุนฐานผลิต
รถยนต์ไฟฟ้าในไทยคึกคัก ล่าสุดเพิ่ม 2 แบรนด์ รวม 1.62 หมื่น ลบ. |
|||
แบรนด์ยานยนต์สัญชาติจีน | ประกาศลงทุนตั้งฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า พวงมาลัยขวา | เงินลงทุนสะสม ถึง เม.ย. 2566/ล้านบาท | กำลังผลิต/คัน/ปี |
Changan Automobile | เม.ย. 2566 | 9,800 | 100,000 |
GAC Aion | เม.ย. 2566 | 6,400 | 100,000 |
DFSK-VOLT City EV | ส.ค. 2565 | 400 | 4,000 |
BYD | ก.ย. 2565 | 17,891 | 150,000 |
DFSK-VOLT City EV ลงทุนเองโดย EV Primus ผู้ผลิต-จัดจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตจาก 2 แบรนด์ข้างต้น แต่เพียงผู้เดียวในไทย | |||
ที่มา: Marketeer รวบรวม/พฤษภาคม 2566 |
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) หรือ BOI รายงานว่า ปัจจุบัน BOI อนุมัติการส่งเสริมโครงการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท ทั้งแบตเตอรี่ (BEV), ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และไฮบริด (HEV) รวมทั้งหมด 26 โครงการ จาก 17 บริษัท รวมมูลค่าเงินลงทุน 86,800 ล้านบาท
การลงทุนในไทย แบ่งได้เป็น 3 รูปแบบ
1. ลงทุนตั้งโรงงานเอง
2. ร่วมทุนตั้งโรงงาน
3. จ้างผลิตยานยนต์ไฟฟ้า
หลังการเดินทาง พร้อมด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เพื่อไปโรดโชว์ส่งเสริมการลงทุน ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เมืองธุรกิจสำคัญ ได้แก่ เซี่ยงไฮ้, หางโจว, เซินเจิ้น และกว่างโจว ระหว่างวันที่ 3-7 เมษายน 2566
เพื่อพบกับผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของจีน รวมกว่า 10 บริษัท และนับเป็นโรดโชว์ประเทศจีนครั้งแรกในรอบ 3 ปี ตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด
การเดินทางในครั้งนี้ส่งผลสำคัญให้แบรนด์ยานยนต์จีนที่เข้ามาอยู่ในพอร์ตการลงทุน ด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวาในประเทศไทย ปี 2565-66 ตามรายงานข้อมูลข้างต้น เกิดความเชื่อมั่นกับการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ 2 แบรนด์จีนรายใหญ่ของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย อย่าง MG และ GWM ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก BOI มาสม่ำเสมอ ก็มีแผนดำเนินงาน เพื่อรองรับการเติบโตของฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวาในไทย ที่ขยายตัวจากการเข้ามาเล่นในตลาดของเพื่อนร่วมชาติด้วยกัน หลากหลายแบรนด์
อย่าง GWM ก็จะรุกตลาดรถกระบะไฟฟ้า เพื่อขยายเซกเมนต์จากรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลที่มีส่วนแบ่งตลาดค่อนข้างแข็งแรงอยู่แล้ว
และ MG ก็เพิ่งจัดพิธีวางศิลาฤกษ์ พื้นที่กว่า 75 ไร่ จากโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 2 (WHA ESIE 2) จ. ชลบุรี พื้นที่รวมกว่า 437.5 ไร่ มีกำลังการผลิตรถยนต์สูงสุด 100,000 คัน/ปี
เพื่อใช้เป็นพื้นที่พัฒนาชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ร่วมกับพาร์ตเนอร์ และโรงงานผลิตแบตเตอรี่ เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ในอนาคต ด้วยงบลงทุนมากกว่า 500 ล้านบาท
BOI เผยว่า ล่าสุด ยังมีอีก 3 แบรนด์ยานยนต์สัญชาติจีน ที่พร้อมเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มเติม เร็ว ๆ นี้ อย่าง Geely, JAC และ Jiangling Motors Corporation Limited (JMC)
โดยเฉพาะการเข้ามาของ 2 รายหลัง ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ เช่น รถกระบะ และรถบรรทุกชั้นนำของจีน ก็จะช่วยเสริมพอร์ตผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของไทย ให้มีความแข็งแรงด้านเซกเมนต์ที่หลากหลายมากขึ้น
ปัจจุบันไทยถือเป็นเป้าหมายการลงทุนลำดับแรกในอาเซียน ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์จีน เพราะไทยมีความพร้อมทุกด้านสำหรับการสร้างฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
ทั้งผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออก รวมทั้งทุกรายยังให้ความสนใจการขยายมาตรการสนับสนุน EV หรือ EV 3.5 ที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) แล้ว
และไทยยังมีการลงทุนของบริษัทชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำระดับโลกถึง 17 แห่ง จาก 20 แห่ง กระจายอยู่ใน 5 จังหวัด ประกอบด้วย ปทุมธานี, ระยอง, ชลบุรี, สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ
อาทิ BOSCH, DENSO, SUMITOMO YAZAKI, FAURECIA เป็นต้น ทำให้สามารถรองรับการเป็นห่วงโซ่การผลิตรถยนต์ในประเทศได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ BOI ยังจะเดินหน้าทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อดึงผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า รายอื่น ๆ ทั้งในเอเชีย, ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ให้เข้ามาลงทุนในไทย เพิ่มเติม
ควบคู่กับการส่งเสริมระบบชาร์จไฟฟ้า และ Ecosystem ที่จำเป็น เพื่อให้ฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทย แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ของประเทศไทย ปี 2565 อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) มีการผลิตรถยนต์จำนวน 1,883,515 คัน
แบ่งเป็น จำหน่ายรถยนต์ในประเทศ 849,388 คัน และส่งออกรถยนต์ 1,000,256 คัน ทั้งมียอดจดทะเบียนยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) อยู่ที่ 20,816 คัน เติบโต 260% YoY
อ่านเรื่องประกอบ: ไทย ขายรถยนต์ EV-PHEV ปี 2022 สูงสุดใน SEA แชร์ 58.3%
อ่านเรื่องประกอบ: ไทยอยู่อันดับ 9 ของโลก สู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



