หมดตัวไปเท่าไรกับแคมเปญดับเบิ้ลเดย์ที่ทั้งลาซาด้าและช้อปปี้ต่างขนกลยุทธ์ลดราคาดึงดูดให้เราต้องเสียทรัพย์กันอย่างต่อเนื่อง ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจไว้ว่า ดับเบิ้ลเดย์นี้ จะไม่ช้อปอะไร

ไม่รวมถึงแคมเปญโปรโมชั่นอื่นๆ ที่ออกมาดึงดูดสร้างความถี่ในการซื้อแต่ละเดือน เช่น ส่งฟรี ลดราคาประจำเดือน และอื่น ๆ

เพื่อเป้าหมายคือการดึงลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้า หรือเลือกหาสินค้าในแพลตฟอร์มตัวเองมากที่สุด ในความถี่ที่บ่อยที่สุด

บนพื้นฐานการสาดเงินที่ให้ผลลัพธ์ด้านรายได้ที่มากขึ้น จากการที่ผู้บริโภคติดในแพลตฟอร์มและเข้าไปซื้อสินค้าที่ต้องการอยู่เสมอ

จนทั้ง 2 แพลตฟอร์มเริ่มทำกำไรได้ เป็นครั้งแรก

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า

ลาซาด้า ทำกำไรครั้งแรกในปี 2564 ด้วยกำไร 226.89 ล้านบาท จากรายได้รวม 14,675.29 ล้าบาท

และปี 2565 มีกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 413.08 ล้านบาท มีรายได้รวม 20,675.45 ล้านบาท

ส่วนช้อปปี้ทำกำไรครั้งแรกในปี 2565 ด้วยกำไรสูงถึง 2,380.27 ล้านบาท และมีรายได้รวม 21,709.71 ล้านบาท

ผลรายได้และกำไรของทั้งสองแพลตฟอร์มอ้างอิงจากรายได้ของบริษัท ลาซาด้า จำกัด และบริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น ไม่รวมบริษัทย่อยอื่น ๆ ในเครือ

แต่กว่าจะได้กำไรทั้งสองแพลตฟอร์มใช้เวลาหลายปีเช่นกัน

ลาซาด้าใช้เวลา 9 ปีถึงมีกำไร

ช้อปปี้ใช้เวลา 7 ปี

 

และในปีนี้ทั้งสองแพลตฟอร์มมีแผนสร้างกำไรเพิ่มขึ้นจากการเก็บค่าธรรมเนียมร้านค้าเพิ่มขึ้นจากเดิม

เพราะทั้งคู่เหมือนตลาดที่มีลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าจำนวนมาก การขึ้นค่าบริการธรรมเนียมเป็นเหมือนการขึ้นค่าเช่าร้านค้าในตลาดในโลกออฟไลน์ที่จำเป็นต้องเก็บเพิ่มเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการพัฒนาบริการและอื่นๆ ให้กับแพลตฟอร์มเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อสินค้ามากขึ้นกว่าเดิม

และเมื่อมองไปที่จำนวนลูกค้าที่เข้ามาในแพลตฟอร์ม อ้างอิงจาก Similarweb พบว่าในเดือนเมษายน 2566 ลาซาด้ามีผู้เข้าชมในแพลตฟอร์ม 41.2 ล้านราย

ใช้เวลาเฉลี่ยในแพลตฟอร์ม 6.46 นาที

เปิดดูสินค้าและอื่น ๆ ในแพลตฟอร์มเฉลี่ย 6.62 หน้าก่อนออกจากแพลตฟอร์มไป

ส่วนช่องทางในการเข้าแพลตฟอร์ม 4 อันดับแรก มาจาก

เข้าแพลตฟอร์มโดยตรงผ่านการกดเข้าแอปฯ หรือพิมพ์ Url Website โดยตรง 53.6%

Organic Search 21.9%

Paid Search 9.7%

Social Media 7.8%

 

ส่วนช้อปปี้มีลูกค้าเข้าแพลตฟอร์ม 55.1 ล้านราย

ใช้เวลาเฉลี่ยในแพลตฟอร์ม 7.38 นาที

เปิดเข้ามาดูสินค้าและอื่น ๆ เฉลี่ย 7.23 หน้า

ช่องทางในการเข้าแพลตฟอร์ม 4 อันดับแรก มาจาก

เข้าแพลตฟอร์มโดยตรง 63.1%

Organic Search 17.2%

Paid Search 7.8%

Social Media 8.2%

 

 และข้อมูลของ Similarweb ยังพบว่าลาซาด้ามีกลุ่มลูกค้าชายมากกว่าหญิง และช้อปปี้มีลูกค้าหญิงมากกว่าชาย

โดยอายุของลูกค้ากลุ่มหลักของทั้งคู่คือ 25-34 ปี

 

และเป็นที่น่าสนใจคือนอกเหนือจากลูกค้าไทยแล้วทั้งสองแพลตฟอร์มยังมีลูกค้าในประเทศอื่น ๆ ผ่านบริการ LazGo Global ของลาซาด้า และ Shopee International Platform ของช้อปปี้

เมื่อเปรียบเทียบเฉพาะ 2 แพลตฟอร์ม ในประเทศจีน ลาซาด้ามีสัดส่วนลูกค้า 77.05% ช้อปปี้ 22.95%

สิงคโปร์ ลาซาด้ามีสัดส่วนลูกค้า 53.10% ช้อปปี้ 46.90% เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ในวันนี้การแข่งขันของอีมาร์เก็ตเพลสในประเทศไทย มีเหลือเพียง 2 รายหลัก และยากที่จะมีรายใหม่เข้ามาแข่งขันในตลาด

ประกอบกับคนไทยมองการซื้อสินค้าผ่านอีมาร์เก็ตเพลสเป็นช่องทางที่สะดวกสบาย สามารถเปรียบเทียบสินค้าได้ง่าย สั่งซื้อเวลาไหนก็ได้ และมีสินค้าที่แบรนด์เป็นผู้มาจำหน่ายเองจำนวนมาก

การเติบโตของอีมาร์เก็ตเพลสจึงดำเนินต่อไป พร้อมๆ กับกำไรของทั้งแพลตฟอร์มที่มีแนวโน้มว่าจะไม่ขาดทุนเหมือนในอดีตที่ผ่านมา



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online