เกือบ 50 ปีมาแล้วที่ Steve Jobs และ Steve Wozniak เป็นแกนหลักตั้ง Apple ขึ้น โดยบริษัทชื่อผลไม้ซึ่งเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมฮิปปี้ ถูกจดจำในหลาย ๆ ด้าน ตั้งแต่ความหัวขบถของสอง Steve และการฟื้นกลับขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่

รวมไปถึงการเค้นศักยภาพของทีมงาน แต่ที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยคือ Gadget ปฏิวัติวงการที่ทยอยออกมาช่วงกว่าทศวรรษที่ผ่านมา ตั้งแต่ iPod ที่ปฏิวัติการฟังเพลง iPhone ที่พลิกตลาดเปลี่ยนโทรศัพท์ให้กลายเป็นเทคโนโลยีใกล้ตัวที่ขาดไม่ได้

และล่าสุดกับ Vision Pro แว่น MR ที่กำลังถูกจับตามอง แม้วางตลาดในปีหน้า เพื่อเป็นการทบทวนความจำมาดูว่า Gadget แต่ละตัวของ Apple สร้างความสั่นสะเทือนไว้อย่างไรบ้าง

 

iPod

ปลายยุค 90 Apple กลับมาเป็นที่จับตามองอีกครั้ง หลัง Steve Jobs คืนสู่บริษัทที่ตนก่อตั้ง โดยเขาเริ่มจากการออก iMac คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะดีไซน์โค้งมนและสีสันสดใส

ปี 2001 Steve Jobs พา Apple ออกตัวสู่ยุคใหม่ด้วย iPod เครื่องฟังเพลงพกพาพร้อมคลังเพลงมหาศาลนับ 1,000 เพลง เปรียบได้กับ Walkman ของคนยุค 2000 โดยประเดิมวางตลาดด้วยราคาเทียบเป็นเงินไทยอยู่ที่เครื่องละ 13,800 บาท

คลังเพลงยังเป็นอีกช่องทางสร้างรายได้ให้ Apple และปฏิวัติการฟังเพลง เพราะไม่ต้องพกเทปหรือซีดีอีกต่อไป ขณะเดียวกันยังเป็นต้นทางไปสู่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอีกมากมายต่อมาอีกด้วย

ทว่า iPod ก็ทยอยเสื่อมความนิยมในปี 2007 หลัง iPhone ที่ตามออกมาก็สามารถฟังเพลงจาก Music store ได้เช่นกัน ทำให้ต้องทยอยลดการผลิตและยุติการอัปเดตต่าง ๆ และปี 2022 ก็สั่งเลิกผลิตแบบถาวร   

 

iPhone และ iPad

หลังส่ง iPod ปฏิวัติวงการเพลง Steve Jobs ก็ไฟติด สั่งให้ทีมวิศวกรพัฒนานวัตกรรมตัวใหม่ออก โดยหลังใช้เวลาอยู่ 6 ปี เขาก็พา iPhone เปิดตัวในงาน MacWorld พร้อมคำพูดว่า “นี่คือ Gadget ที่จะมาปฏิวัติวงการ เพราะมีทั้ง iPod (เครื่องเล่นเพลงแบบพกพา), โทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์สื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตในเครื่องเดียว”

คำพูดดังกล่าวเป็นจริง เพราะ iPhone ที่ราคาเปิดตัวเทียบเป็นเงินไทยได้อยู่ที่ 20,800 บาท ก็ทำให้โลกได้รู้จักกับ Smartphone ที่ทั้งอัจฉริยะสมชื่อและน่าใช้

 

ผ่านการเป็น Gadget สัมผัสหน้าจอ ต่างจากการกดปุ่มแบบเดิม ๆ ขณะเดียวกันยังดูคอนเทนต์จากอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น พร้อมเขี่ย Nokia ลงจากบัลลังก์บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ

และปี 2010 Apple ก็ส่ง iPad ออกมาซึ่งเป็นการนำ iPhone มาขยายให้ใหญ่ขึ้น เพื่อดูคอนเทนต์ในขนาดที่ใหญ่ขึ้น

ปัจจุบัน Apple ผลิต iPhone ออกมาแล้ว 14 รุ่น และ iPad ออกมา 10 รุ่น โดย Gadget ทั้ง 2 ยังเป็นถือเป็นอีกหนึ่งในนวัตกรรมสองนวัตกรรมสำคัญที่ Steve Jobs ฝากไว้ก่อนเสียชีวิตไปในปี 2011

 

Apple Watch

หลัง Steve Jobs เสียชีวิต Tim Cook ก็ขึ้นมานั่งเก้าอี้ CEO ของ Apple แบบเต็มตัว แต่ Apple ภายใต้การบริหารของเขา เผชิญการแข่งขันที่ดุเดือดจาก Samsung และแบรนด์จีนที่กำลังแรงขึ้นมา

แน่นอนว่า Tim Cook นิ่งเฉยไม่ได้ โดยมีรายงานว่า เขาสั่งให้ทีมวิศวกรพัฒนา Gadget สวมใส่ได้ ที่เชื่อมผู้ใช้กับ Smartphone แต่ขณะเดียวกันก็ลดการมองจอ และใส่ฟังก์ชันอื่น ๆ เข้าไปด้วย

ไอเดียดังกล่าวก็กลายมาเป็น Apple Watch ที่วางตลาดปี 2015 ด้วยราคาเทียบเป็นเงินไทยได้ 12,100 บาท โดยจากการที่นำฟังก์ชันต่าง ๆ ด้านสุขภาพมาใส่อยู่ในนาฬิกาทรงเรียบหรู

พร้อมข้อมูลแจ้งเตือนจาก iPhone “นาฬิกาอัจฉริยะของ Apple” จึงเป็นอีกหนึ่ง Gadget ขายดีของ Apple ทั้งในหมู่สาวก Apple และผู้ที่รักสุขภาพ ท่ามกลางการอิ่มตัวของตลาด Smartphone  

 

AirPod

Gadget ที่สร้างชื่อให้ Apple ตัวต่อมาคือ AirPod หูฟังไร้สายซึ่งออกมาในปี 2016 ภายใต้ราคาเริ่มต้นเทียบเป็นเงินไทยได้ 5,500 บาท โดยแม้ช่วงแรกถูกมองว่าเป็นเพียงเวอร์ชั่นไร้สายของหูฟัง EarPod ที่แพงขึ้น และถูกล้อเลียนเรื่องรูปทรง

แต่ด้วยการใช้งานง่าย สั่งงานผ่านเสียงได้ และตัดเรื่องสายเกะกะที่เป็นปัญหาในการใช้หูฟังแบบเดิมมาตลอดออกไปได้ ที่สุด  AirPod ก็ได้รางวัลหูฟังแห่งปีในปี 2019 และพอปี 2021 ยอดขายทั่วโลกก็พุ่งเป็น 120 ล้านคู่

ส่งให้ Apple เป็นบริษัทแรกในโลกที่มูลค่าบริษัทเพิ่มเป็น 3 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 99 ล้านล้านบาท) สร้างความภาคภูมิใจให้ Tim Cook อย่างมาก 

ท่ามกลางการประเมินว่า Airpod ครองส่วนแบ่งตลาดหูฟังไร้สายทั่วโลกมากถึง 60% และคนทั่วโลกใช้กันเป็นปกติ ไม่รู้สึกแปลกอีกต่อไป ขณะเดียวกันก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หูฟังไร้สายโตอีกด้วย

 

Vision Pro

หลังไม่มีนวัตกรรมใหม่จริง ๆ ออกมาเลยเกือบ 10 ปี เมื่อ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา Apple ก็เปิดตัว Vision Pro แว่นที่ใช้เทคโนโลยีความจริงผสมผสาน (Mixed Reality) นำข้อดีของทั้งความจริงเสมือน (VR) และความจริงเสริม (AR) มารวมกัน

ผู้ใช้ Vision Pro จะเข้าถึงแอปในแพลตฟอร์มของ Apple ผ่านประสบการณ์ใหม่ ด้วยการมองเห็น สามารถสั่งการด้วยเสียง และให้พื้นที่ในระยะสายตาเป็นเหมือนผืนผ้าใบในการควบคุมแอปซึ่ง Tim Cook เรียกว่าเป็นประตูสู่ Spatial Computing  

การที่ Vision Pro เป็นแว่นสวมหัวแต่ฝาครอบเป็นแบบใส ผู้ใช้จึงยังเห็นสิ่งต่างรอบๆ ตัว และคนที่อยู่รอบๆ ก็เห็นตาของผู้ที่ใช้กะพริบอยู่ ทำให้ไม่ตัดขาดทั้งสองฝ่ายออกจากกัน ต่างจากแว่น VR ก่อนหน้านี้ตัดขาดผู้ใช้จากโลกความจริง

แม้มีข้อดีอยู่พอสมควร ขณะที่ Disney ส่งคอนเทนต์มาลงในแพลตฟอร์มด้วย และเป็น Gadget จากบริษัทยักษ์เทคดังที่มีสาวกเหนียวแน่นทั่วโลก ทว่าก็ต้องจับตามองว่า Vision Pro จะขายดีแค่ไหน เพราะมีราคาเทียบเป็นเงินไทยสูงถึง 121,000 บาท  

อย่างไรก็ตาม Vision Pro จะทำให้ตลาดแว่นเข้าสู่ความจริงรูปแบบต่าง ๆ และวงการ Metaverse ที่ Meta ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว โตขึ้นอย่างแน่นอน/theverge, cnbc, wikipedia, theguardian, cnn



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online