นอกจากขยายสาขาจนมีมากเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก เปิดตลอด 24 ชั่วโมงสมกับที่เป็นร้านสะดวกซื้อ และช่วงไม่กี่ปีมานี้สาขาในบางประเทศ เช่น ไทยเพิ่มบริการสั่งผ่านแอปแล้วส่งถึงบ้านเพิ่มเข้ามาแล้ว

ความเฉพาะที่ส่วนธุรกิจร้านสะดวกซื้ออยู่มาเกือบ 80 ปี 7-Eleven จึงมีสินค้ากลุ่มอาหาร-เครื่องดื่ม ที่ลูกค้านิยมอยู่ไม่น้อย โดยหนึ่งในนั้นคือ Slurpee เครื่องดื่มเย็นคลายร้อน ซึ่งจากการที่มีลักษณะคล้ายฟองล้นลูกค้าจึงทั้งสามารถจิบ ซด ดูดและดื่มได้อย่างสนุกสนาน

ความน่าสนใจของเครื่องดื่มเจ้าของยอดเฉลี่ยทั่วโลกเกือบ 12 ล้านแก้วต่อวัน ไม่ได้อยู่ตรงที่อยู่คู่ 7-Eleven มาใกล้ครบ 6 ทศวรรษเท่านั้น

แต่นี่คือเครื่องดื่มที่ยักษ์สะดวกซื้อแห่งนี้ไม่ได้คิดค้นขึ้นมาเอง และเป็นอีกครั้งที่การพลิกวิกฤตเป็นโอกาส และลุกขึ้นมาทำอะไรด้วยตัวเอง (Do It Yourself- DIY) เป็นต้นธารของนวัตกรรม

เรื่องราวของ Slurpee เริ่มต้นขึ้นปลายยุค 50 หลัง Omar Knedlik เจ้าของ Dairy Queen เชนร้านไอศกรีมและร้านอาหารแบบจานด่วน ณ ขณะนั้น กำลังจนปัญญากับการทำงานของเครื่องทำน้ำอัดลมที่ไม่เต็มร้อยและมักเสียอยู่บ่อย ๆ จนฟองจากน้ำหวานกับโซดาที่ผสมกันไม่ได้ที่มักล้นออกมาเสมอ

Omar Knedlik ก็ไม่รู้ว่าจะซ่อมอย่างไร ดังนั้น สิ่งที่เขาพอจะทำได้จึงมีเพียงนำฟองที่เป็นเกล็ดและมีรสชาติจากหัวน้ำหวานนี้ซึ่งล้นออกมาไปใส่แก้วแช่ตู้เย็นเอาไว้เท่านั้น แต่เมื่อลูกค้ามาเห็นจึงขอชิมและปรากฏว่าชอบ

เมื่อเห็นว่าขายได้ Omar Knedlik จึงคิดค้นตู้ทำเครื่องดื่มชนิดนี้ที่ขึ้นมาเองแบบ DIY โดยถอดแอร์ในรถตัวเองมาเป็นอุปกรณ์ทำความเย็น แล้วให้ลูกค้าช่วยกันตั้งชื่อเครื่องดื่ม ซึ่งที่เข้าตาคือ ICEE

จากนั้นก็ให้ทีมช่างและโรงงานในเมือง Dallas พัฒนาและผลิตตู้ทำ ICEE ขึ้นมา จนมี ICEE ออกมาขาย โดยพอถึงปี 1965 ผู้บริหาร 7-Eleven ไปเห็นตู้ทำ ICEE เข้าจึงติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์เพื่อมาขายตามสาขา

ปี 1966 Bob Stanford หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ 7-Eleven ก็เปลี่ยนชื่อ ICEE เป็น Slurpee ซึ่งมาจากคำว่า Slurp ที่หมายถึงการกินแบบมีเสียงดังตรงตามลักษณะการเล็มกินฟอง Slurpee ที่ต้องมีเสียงออกมานั่นเอง

7-Eleven ทยอยกระจาย Slurpee ไปตามสาขาในสหรัฐฯ โดยแผนการทำตลาดผ่านวัฒนธรรมฮิปปี้ในยุค 60 ทั้งด้วยสีสันสดใสแต่ชวนตาลาย และจับกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบเข้า7-Eleven เพื่อซื้อเครื่องดื่มคลายกระหายระหว่างเดินทางไปเทศกาลดนตรี เครื่องดื่มที่ 7-Eleven นำมาจาก Dairy Queen จึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

แคมเปญโปรโมตผ่านแก้วลายการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่และนักกีฬาดังในยุค 70 Slurpee ทำ Slurpee ขายดียิ่งขึ้นไปอีก และต่อมาแก้วเหล่านี้ยังกลายของสะสมอีกด้วย

Masotoshi Ito 

ยุค 70 ยังเป็นช่วงเวลาที่ Slurpee เริ่มเป็นที่รู้จักนอกสหรัฐฯ เพราะห้างสรรพสินค้า Ito-Yokado ภายใต้การบริหารของ Masotoshi Ito ซื้อเฟรนไชส์ 7-Eleven มาเปิดในญี่ปุ่น

จากนั้น Slurpee ก็กลายเป็นรู้จักไปทั่วโลก ผ่านแคมเปญสนุก ๆ มากมาย ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นมหาศาล โดยในปี 1999 เมือง Winnipeg ในแคนาดาได้ชื่อว่าเป็น เมืองหลวงของ Slurpee

เพราะทำยอดขายได้มากถึง 188,883 แก้วต่อเดือน แซงยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนของแคนาดา ทั้งที่มีประชากรเพียง 675,000 คน หรือหมายความว่าประชากร 1 ใน 4 ของเมืองซื้อกันเป็นประจำ

ปี 2002 7-Eleven ในสหรัฐฯ กำหนดให้ทุก ๆ วันที่ 11 ของเดือนมิถุนายนเป็นวัน 7-Eleven และมีการแจก Slurpee ขนาด 7.11 ออนซ์ฟรีให้กับลูกค้า 1,000 คนแรกในแต่สาขา

ข้ามมาเมื่อปี 2020 ยอดขาย Slurpee ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก หลัง 7-Eleven ดันให้เป็นพระเอกเพื่อช่วยดันยอดขายสินค้าและอาหาร-เครื่องดื่มตามสาขาปั๊มเชนน้ำมัน Speedway ที่ซื้อมาผ่านดีลมูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 696,000 ล้านบาท)

ล่าสุดปีนี้ 7-Eleven ในสหรัฐฯ รีแบรนด์ Slurpee ด้วยการเปลี่ยนลายแก้วที่เน้นสีสันแบบเหลื่อมแต่สดใสและเปลี่ยนมาใช้โลโก้เป็นตัวอักษร S ตัวใหญ่ โดยถือเป็นการปรับโฉมเครื่องดื่มดังครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังอยู่คู่7-Eleven มาครบ 57 ปี อีกด้วย/cnn, wikipedia


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer