ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ามูลค่า 5.3 หมื่นล้านบาท ที่ส่งสัญญาณเป็นบวก ส่งผลให้มีแบรนด์ต่าง ๆ เร่งเปิดตัวสินค้าใหม่ในทุกเซกเมนต์ พร้อมทุ่มงบการตลาดจัดกิจกรรมการสื่อสารและโปรโมชันอย่างต่อเนื่อง
‘ซัมซุง’ (SAMSUNG) สามารถคว้ารางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand 2023 แบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ในใจผู้บริโภคได้อีกครั้ง โดยในปีนี้ได้รับถึง 3 รางวัล ครอบคลุมทั้งหมวดเครื่องซักผ้า (Washing Machine), หมวดตู้เย็น (Refrigerator) และหมวดทีวี (Television)”
ในโอกาสสำคัญนี้ Marketeer เดินทางมาพูดคุยกับ คุณ เริงบุญ คล่องคำนวณการ ผู้อำนวยการธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ถึงเบื้องหลังความสำเร็จในครั้งนี้ พร้อมเผยถึงกลยุทธ์ที่ทำให้สินค้า Bespoke สามารถครองใจคนรุ่นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
ต้นปีที่ผ่านมาซัมซุงประกาศ Direction ที่ชัดเจน คือ เน้นการนำเสนอนวัตกรรมและความพรีเมียม เข้าถึงความต้องการของลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ เพื่อช่วยตอกย้ำความเชื่อมั่นของลูกค้าชาวไทยที่มีต่อซัมซุง โดยเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้ารวมกว่า 100 รุ่นออกสู่ตลาด
ด้วยทิศทางดังกล่าว ซัมซุงทำการบ้านอย่างหนักเพื่อสร้างความแตกต่าง ผ่านการทำงานทั้ง 3 ด้านคือ Personalization, Connectivity และ Sustainability
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เข้าใจผู้บริโภคที่สุด
“ซัมซุงเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวที่มีความแข็งแกร่งด้าน Personalization มากที่สุด อย่างที่เคยบอกว่าเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่โดยเฉพาะกลุ่ม Gen MZ (กลุ่ม Gen Millennials หรือ Gen Y และกลุ่ม Gen Z) คือ ต้องการสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะตัว โดยเฉพาะกับสินค้าที่สามารถปรับแต่ง Personalization และ Customization เพื่อบ่งบอกตัวตน (Product design matches lifestyle) สะท้อนสไตล์ของผู้ใช้ออกมาได้
“เครื่องใช้ไฟฟ้าในปัจจุบันจึงไม่ใช่แค่เครื่องใช้ไฟฟ้า แต่เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สร้างคุณค่าทางจิตใจ ดึงเอกลักษณ์ของเจ้าของออกมาอย่างชัดเจนและตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากที่สุด”
ตรงนี้เองทำให้ Bespoke Home ตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคในแง่ของดีไซน์ หรือการปรับเปลี่ยนได้หลายสี หลายขนาด หลายสไตล์เพื่อให้เข้ากับทุกพื้นที่ภายในบ้าน ตอบโจทย์ทั้งด้านคุณสมบัติและ Emotional ในคราวเดียว
ถัดมาคือเรื่อง Connectivity ที่สะท้อนผ่านการสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อตอบโจทย์การทำงานและการใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้น (Innovation empowers work-life)
“ซัมซุงออกแบบผลิตภัณฑ์โดยยึดหลัก Customer Centric ทำให้เราพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคได้ตรงจุด ยกตัวอย่าง ‘SmartThings’ แอปพลิเคชันที่เชื่อมต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของซัมซุงได้ทั้งหมด Connect ชีวิตนอกบ้านในบ้านเข้าด้วยกัน ช่วยให้ผู้บริโภคใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น ทางเลือกใหม่ให้ผู้คน Live a New Day”
เพื่อสร้างการรับรู้และให้เห็นภาพที่ชัดขึ้น ไม่นานมานี้ซัมซุงจับมือกับแสนสิริเปิดตัวบ้านอัจฉริยะ ที่มีเทคโนโลยี “SmartThings” ติดตั้งภายในบ้านทำให้บ้านเป็นสมาร์ตโฮม Home Automation ครบวงจรครั้งแรกของประเทศไทย โดยลูกบ้านสามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าและสมาร์ตดีไวซ์ต่าง ๆ ในบ้านได้จากทุกที่ผ่านแอปพลิเคชันเดียว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ที่ไม่เพียงแค่ความสะดวกสบาย แต่ยังครอบคลุมถึงความปลอดภัยและการประหยัดพลังงานอีกด้วย
ด้าน Sustainability คุณเริงบุญอธิบายเพิ่มเติมว่า ซัมซุงให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมเพื่อการใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้นและอนาคตที่ยั่งยืน (Sustainability & Incorporate recycled materials to the product & Eco packaging) จึงได้ประกาศกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม Net Zero เพื่อให้การปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 รวมถึงการเข้าร่วม RE100 ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มระดับโลกที่ซัมซุงทุ่มเทแสวงหาพลังงานหมุนเวียน 100%
ทั้งยังมีนโยบายการใช้วัสดุรีไซเคิลในผลิตภัณฑ์อย่างสมาร์ตโฟน รวมถึงการออกแบบ Eco packaging แพ็กเกจเพื่อสิ่งแวดล้อม คืนชีวิตให้กับกล่องบรรจุภัณฑ์ นำกลับมาใช้ใหม่เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
“ขณะเดียวกันนวัตกรรมที่อยู่ใน Ecosystems ของซัมซุงก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยประหยัดพลังงาน อย่าง SmartThings เองที่มีการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบ Real Time, สั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบ Multitasking, รวมถึงการใช้พลังงาน ไม่ว่าจะเป็นทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ หรือโซลาร์เซลล์, ควบคุมและติดตามการใช้พลังงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ซึ่งโหมด AI Saving Mode ในเครื่องใช้ไฟฟ้าช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าไฟโดยเฉลี่ยได้ถึง 40% เลยทีเดียว
“สำหรับเรื่องความทนทานของผลิตภัณฑ์ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าของผู้บริโภค ซัมซุงสร้างความมั่นใจในคุณภาพผลิตภัณฑ์ โดยขยายเวลารับประกันอินเวอร์เตอร์มอเตอร์เครื่องซักผ้าและอินเวอร์เตอร์คอมเพรสเซอร์ตู้เย็นออกไปเป็น 20 ปี ซึ่งถือว่าเป็นการรับประกันที่นานที่สุดในตลาดขณะนี้”
สื่อสารตรงโจทย์ตรงใจ
นอกจากกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งในข้างต้นแล้ว หนึ่งสิ่งที่ทำให้ซัมซุงแตกต่างคือการสื่อสารผ่านธีม “Samsung Live A New Day บ้านของวันใหม่ เริ่มที่วันนี้” เพื่อสะท้อนความมุ่งมั่นพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อแสดงออกถึงบุคลิกของผู้อาศัย ตรงความต้องการยิ่งขึ้น เปรียบเหมือนวันใหม่ วิถีใหม่ของการใช้ชีวิต ผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้าซัมซุง
ช่วงกลางปีที่ผ่านมา ซัมซุงแปลงโฉม BTS ให้เป็นเสมือนบ้านที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนเมือง ใน “Live A New Day” โดยซัมซุง wrap ภายนอกและภายในขบวนให้กลายเป็นห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน ทั้งห้องครัว ห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น สื่อสารไปยังผู้บริโภคถึงการเริ่มต้นวันดี ๆ ได้ตั้งแต่ที่บ้านด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าซัมซุงที่ทำให้ใช้ชีวิตได้แบบ New Day และยังสะท้อนไลฟ์สไตล์แต่ละบุคคลในทุก ๆ โหมดของชีวิต
ในวันนี้เป้าหมายใหญ่ของซัมซุงคือ การเป็นผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในเมืองไทยภายใน 3 ปี ซึ่งความสำเร็จในการคว้ารางวัลแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ในใจผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่า 3 กลยุทธ์หลัก Personalization, Connectivity และ Sustainability ของซัมซุงนั้นมาถูกทางแล้ว
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ