ตลาดวิตามินวอเตอร์ ทำไมแผ่ว และจะฮึดยังไงให้กระแสกลับมา

ตลาดน้ำดื่มวิตามินแผ่ว ยันฮี ส่ง “ยันฮี เเคลเซียม วอเตอร์” ปลุกกระเเสตลาดวิตามินวอเตอร์

แม้น้ำดื่มวิตามินจะแจ้งเกิดเป็นที่รู้จักย้อนหลังไปเกือบสิบปี แต่กระเเสกลับพุ่งแรงในช่วงวิกฤตโควิด-19 เนื่องจากผู้คนหันมาดูเเลสุขภาพตนเอง ให้ความสำคัญกับการรับประทานสิ่งมีประโยชน์ เริ่มไปตั้งเเต่น้ำดื่ม เป็นที่มาให้ผู้เล่นยักษ์ใหญ่ต่างอยากขึ้นต่อสู้บนสังเวียนน้ำดื่มวิตามินกันทั้งนั้น

จึงไม่เเปลกที่ตลาดน้ำดื่มวิตามินจะกลายเป็นสมรภูมิเดือดในช่วงโควิด

ปี 2562 มูลค่าตลาดวิตามิน วอเตอร์ อยู่ที่ 1,200 ล้านบาท

ส่วนปี 2563 กระโดดไปที่ 2,200 ล้านบาท มีการเติบโตมากในช่วงปลายปี โตมากถึง 100%

สำหรับปี 2564 มูลค่าอยู่ที่ 2,412 ล้านบาท

ทว่า ที่ผ่านมามีการประเมินมูลค่าตลาดน้ำวิตามินไว้สูงกว่าตัวเลขจริงอยู่มาก ผู้ประกอบการบางเจ้าประเมินตลาดว่าปี 2565 จะพุ่งแตะ 5,000 ล้านบาทเสียด้วยซ้ำ ทำให้มีผู้เล่นยักษ์ใหญ่ต่างทยอยลงชิงแชร์ ขอเเบ่งเค้กกันอย่างคึกคัก นับรวมจนปัจจุบัน มีผู้ท้าชิงในตลาดเเล้วมากกว่าสิบแบรนด์ ทั้ง

-“ยันฮี วิตามินวอเตอร์” ผู้เปิดตลาด

-“วิตอะเดย์” ของเจนเนอรัล เบฟเวอร์เรจ

-“เพอร์ร่า วิตามินวอเตอร์” ของสิงห์ (ลาตลาดไปเเล้ว)

-“PH PLUS 8.5” ของอิชิตัน กรุ๊ป

-“วิตมอรส์” ของ คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล

-“AQUA-VITZ” ของ SNNP

-“ดีอาร์ดริ้งค์”

-“แมนซั่ม วิตามิน วอเตอร์” ของกลุ่ม TCP

-“B’lue” ของ Sappe กับ Danone

-“True Vitamin Water” ของทรู คอฟฟี่

ด้านโรงพยาบาลเจ้าใหญ่ก็ไม่พลาด ทั้ง “เกษมราษฎร์ วิตามิน แอนด์ มิเนอรัล วอเตอร์” ของโรงพยาบาลเกษมราษฎร์, “ปิยะเวท วิตามินดี วอเตอร์” ของโรงพยาบาลปิยะเวท เเต่ส่วนใหญ่เน้นจำหน่ายในโรงพยาบาลในเครือ

อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำวิตามินถูกกระทบจากกระเเสใหม่ ๆ ในตลาดเครื่องดื่มที่มาเเรงเเซงกระเเสน้ำวิตามิน อาทิ ผลิตภัณฑ์น้ำที่มีสารสกัดใบกระท่อม เครื่องดื่มผสมกัญชงกัญชา ส่งผลให้ตลาดน้ำวิตามินดรอปลง จากที่ปี 2564 มีมูลค่า 2,412 ล้านบาท (ข้อมูลจาก Nielsen IQ: Retail Index) ปีนี้ลดลงมาอยู่ที่ 1,900 ล้านบาท (ข้อมูลจากบริษัท ยันฮี วิตามิน วอเตอร์)

การตกลงของตัวเลขมาจากทั้งกระเเสเครื่องดื่มใหม่ ประกอบกับคนเป็นกังวลเรื่องการป้องกันโควิดน้อยลง ทำให้ตลาดซาลง กลายเป็นโจทย์ใหญ่ของทุกเเบรนด์ ที่ต้องปลุกกระเเสวิตามินวอเตอร์ให้กลับมาเป็นที่สนใจของผู้บริโภค

กระตุ้น ตลาดวิตามินวอเตอร์ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ฉีกภาพจำเดิม

เเม้จะมีเเบรนด์วิตามินวอเตอร์มากมาย เเต่ช่วงเเรกน้ำวิตามินมีรสชาติที่ไม่เเตกต่างกันมากนัก ส่วนใหญ่คือน้ำที่มีส่วนผสมของวิตามินบี หรือวิตามินซี วนอยู่เพียงเท่านั้น เมื่อตู้เเช่มีสินค้าเหมือนกันหมด เเบรนด์ก็ต้องหาความเเตกต่าง เป็นจุดเด่นให้ตนเอง บางเเบรนด์สร้างกลิ่นที่ฉีกจากภาพเดิม ๆ เช่น ออกรสชาติกลิ่นชานมไต้หวันเอาใจลูกค้าคอชานมไปเลย

เช่นเดียวกับ “ยันฮี” ซึ่งมีฐานะเป็นผู้จุดประกายความฮอตให้เเก่ตลาดน้ำวิตามิน ก็ได้ออกรสชาติที่มากกว่าเเค่ น้ำดื่มวิตามินผสม โดยนำเสนอสินค้าใหม่ ๆ ผ่านบริษัทร่วมทุนในนาม “บริษัท โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ จำกัด” โดยบริษัทได้พัฒนาสินค้าที่มีส่วนผสมจากกัญชาหรือกัญชงออกมาก่อนเเล้ว ก่อนจะเปิดตัว “ยันฮี แคลเซียม วอเตอร์” ผลิตภัณฑ์ใหม่ น้ำแคลเซียมเจ้าแรกในประเทศไทย

นพ. สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ จำกัด และกรรมการผู้จัดการ บริษัท โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ จำกัด กล่าวว่า โรคกระดูกพรุนเกิดจากภาวะที่มีเนื้อกระดูกบางตัวลง เสี่ยงต่อภาวะกระดูกหักหรือยุบตัวได้ง่าย เเต่ร่างกายไม่สามารถผลิตแคลเซียมเองได้ อาศัยการรับประทานเท่านั้น เเต่สำหรับบางกลุ่มที่แพ้แลคโตสในนมวัว หรือประสบปัญหาในการรับประทานแคลเซียม

เป็นที่มาของ “ยันฮี แคลเซียม วอเตอร์” เพื่อยับยั้งภาวะกระดูกบางและโรคกระดูกพรุน ที่มีส่วนผสมของ Calcium Glycerophosphate ดูดซึมง่ายกว่าแคลเซียมปกติถึง 4 เท่า ละลายได้ดีทั้งในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก ทำให้ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและกระดูกได้ดี

ใน 1 ขวด มีปริมาณแคลเซียม 200 มก. ใกล้เคียงกับนม 1 แก้ว มีฟอสฟอรัสและวิตามินบี 12 สูง 0 แคลอรี ไม่มีน้ำตาลและไม่มีแลคโตส  บรรจุในขวดใสสะอาดขนาด 460 ml.

สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ ยันฮีแคลเซียมวอเตอร์  เตรียมทุ่มงบโฆษณา 60 ล้านบาท ทำการตลาดทั้งใน online และ offline เน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับแคลเซียมผ่านแพทย์เฉพาะทางและผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนใช้กลยุทธ์ Trial ด้วยการเปิดรับอาสาสมัครให้มาทดลองดื่มยันฮีแคลเซียมวอเตอร์ เพื่อสร้างความคุ้นเคยในตัวสินค้า และวัดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น

“ยันฮี แคลเซียม วอเตอร์” นำร่องจำหน่าย 300,000 ขวด วางจำหน่ายแล้วที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทุกสาขาทั่วประเทศ และจะขยายสู่ช่องทาง Modern Trade อื่น ๆ รวมถึงจะมีขนาด 350 ml. ที่จะวางขายในช่องทางร้านค้าทั่วประเทศ  พร้อมกันนี้ยังเตรียมพร้อมลอนช์สินค้าตัวใหม่จากบริษัทร่วมทุน “น้ำแอลคาเนทีน” ในช่วงปลายปี

นายแพทย์สุพจน์ กล่าวสรุปในตอนท้ายว่า “ปัจจุบันกระแสการดูแลสุขภาพถือเป็น Global Trend เเละยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เเต่จากช่วงโควิดที่ตลาดน้ำดื่มวิตามินมีการแข่งขันสูง บางเจ้าอาจต้องล่าถอย ยอมเเพ้ไป แต่ไม่ว่าอย่างไรสุขภาพยังเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญมาเป็นอันดับหนึ่ง”

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer