Loro Piana ทำความรู้จักแบรนด์หรูเงียบ ขายเสื้อเรียบๆ แต่ราคา 7 เเสนบาท กำลังจะมาเปิดในไทย

การควักสตางค์ซื้อสินค้าแบรนด์หรูครั้งหนึ่ง เเน่นอนว่านอกจากคุณภาพเเล้ว ก็เพื่อเเสดงรสนิยม ฐานะ หลายปีมานี้เเบรนด์ไฮเอนด์ต่างใช้โลโก้เด่นชัดประทับบนสินค้าของตัวเองในจุดที่เด่น เเละดึงดูดสายตามากที่สุด เพื่อบ่งบอกว่าสินค้ามาจากเเบรนด์ใด

เเต่กลับกลายเป็นว่า กลุ่มคนรวยในปัจจุบันต่างหันไปจับเทรนด์สวมใส่เสื้อผ้าธรรมดาเเต่เน้นคุณภาพสูง ซึ่งราคาก็ตามระดับคุณภาพ เเพงหูฉี่มากกว่าแบรนด์ไฮเอนด์บางตัว เเต่ดีไซน์ดูเรียบเข้าขั้นดูธรรมดา แทนที่จะทำให้โดดเด่นหรือฉูดฉาด

เทรนด์ quiet luxury กำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนรวย ที่เลือกสวมใส่เสื้อผ้าราคาแพง เเต่มีการออกแบบที่เรียบง่าย ไม่โชว์โลโก้ เป็นความหรูหราแบบเงียบ ๆ ที่ถ้าคนไม่รู้จักแบรนด์นั้นจริง ๆ จะไม่มีทางทราบได้เเน่ว่าเป็นสินค้าที่ราคาตะโกนคำว่าเเพงมากเพียงใด

ซึ่งหนึ่งในแบรนด์ที่เป็นนำเทรนด์ เเละได้รับการยอมรับจากคนดังระดับโลกมากมายคือ “Loro Piana”

มาทำความรู้จักกับหนึ่งในเเบรนด์ ที่มีฉายาว่า “uniqlo ของเศรษฐี” เปรียบเปรยให้เห็นภาพว่า เเบรนด์นี้ฟังดูหรูหราในสายตาคนทั่วไป เพราะราคาที่เเพงหูดับ แต่สำหรับเศรษฐี แบรนด์นี้เปรียบเหมือน เสื้อผ้าอาภรณ์ที่เอาไว้ใส่สบาย ๆ เเละเหล่าเศรษฐีคงมีเเบรนด์นี้ติดตู้กันทุกคน

ถ้าคนไม่รู้จักคงคิดว่าเป็นเสื้อตามท้องตลาดธรรมดา เเต่หากพลิกดูเเท็กราคาคงต้องลมจับไปตาม ๆ กัน เพราะเพียงเสื้อเเขนยาวหนึ่งตัว ราคาอยู่ที่ 21,000 ดอลลาร์ หรือราว 700,000 เเสนบาท

แบรนด์หรูเงียบ เเต่ราคาแพงตะโกน

Loro Piana แบรนด์สิ่งทอระดับไฮเอนด์ของอิตาลี มีความโดดเด่นเพราะใช้วัตถุดิบที่ดีและหายากที่สุดในโลกมาตลอดหกชั่วอายุคนแล้ว

จุดเริ่มต้นของ Loro Piana ย้อนหลังไปถึงต้นศตวรรษที่ 19 จากการเป็นตระกูลพ่อค้าผ้าขนสัตว์ที่ซื้อขายสิ่งทอและผ้าม่านชั้นดี ชื่อเสียงของสินค้าจากครอบครัว Loro Piana โด่งดังขึ้นมา เเละเป็นที่รู้จักในฐานะสินค้าหรูหรา ที่ได้รับการยอมรับในวงการโอตกูตูร์ทั่วโลก

ครอบครัว Loro Piana

ปี 1924 Pietro Loro Piana ได้ก่อตั้ง Loro Piana & C. (เป็นบริษัทในปัจจุบัน) นำผ้ามาเปลี่ยนเป็นสินค้าสำเร็จรูป เข้าสู่ตลาดแฟชั่นที่เหมาะสมด้วยคอลเลกชันเสื้อผ้าบุรุษและสตรีที่หรูหรา ก่อนที่ Franco หลานชายของ Pietro เข้ามารับช่วงต่อ จากนั้นเริ่มสร้างชื่อเสียงในฐานะซัปพลายเออร์ผ้า

ปัจจุบัน Loro Piana เป็นผู้แปรรูปแคชเมียร์ ผ้าวิคูญา ผ้าแคชเมียร์ ผ้าขนแกะเมอริโนวูล และผ้าฝ้ายระดับพรีเมียมชั้นแนวหน้าของโลก เเละมีคอลเลกชันเสื้อผ้าสำเร็จรูปและเครื่องประดับของตัวเอง ผลิตผ้า 5 ล้านเมตรในแต่ละปี เรียกได้ว่าเป็นเเบรนด์ที่ควบคุมตั้งเเต่ต้นน้ำจนปลายน้ำ ทั้งการผลิตเส้นใย มีเครื่องจักรพิเศษเเปรรูปเฉพาะ ผลิตสินค้าเอง ทำการตลาดเองทั้งหมด

ปลายปี 2013 Moet Hennessy Louis Vuitton (LVMH) ซื้อหุ้น 80% ของLoro Pianaเป็นจำนวนเงิน 2 พันล้านยูโร Loro Pianaจึงเข้าร่วมกลุ่ม LVMH ในที่สุด

ปี 2013 Sergio Loro Pianaเสียชีวิต และในปี 2016 หุ้น 20% ของครอบครัวที่เหลืออยู่ ก็เริ่มถูกขายออก เหลือที่Sergio Loro Pianaยังคงเป็นเจ้าของ 10%

ทำไมถึงขายราคาเเพงได้?

เพราะขนสัตว์ที่นำมาจำหน่ายมาจากสัตว์ที่มีความพิเศษทั้งนั้น เช่น Baby Cashmere เป็นเส้นใยที่ได้จากขนแกะลูกแพะพันธุ์ Hircus ผ่านกระบวนการสาง ซึ่งเกิดขึ้นภายใน 12 เดือนแรกของชีวิตของสัตว์ และเพียงครั้งเดียวในชีวิตของพวกมัน ทำให้กลายเป็นหนึ่งในเส้นใยที่พิเศษที่สุดในโลก

Baby Cashmere

ขณะที่ Vicuña หรือ บิกุญญา เป็นหนึ่งในเส้นใยที่หายากและมีค่าที่สุดในโลก ซึ่งสามารถพบได้ในเปรู โบลิเวีย และอาร์เจนตินา ในปี 1994 Loro Pianaได้ลงนามในข้อตกลงกับรัฐบาลเปรูและชุมชน Andean ส่งผลให้บริษัทเป็นผู้เดียวในการซื้อ แปรรูป และส่งออกเส้นใย vicuña ที่ได้รับจากการตัดสัตว์ทั้งเป็นเท่านั้น

Vicuña หรือ บิกุญญา

แพะทุกตัวจะผลิตขนแกะได้ประมาณ 200-250 กรัมต่อปีเท่านั้น ในฤดูใบไม้ผลิ เมื่อสภาพอากาศอบอุ่นขึ้น แพะจะผลัดขนตามธรรมชาติ และคนเลี้ยงแกะจะเก็บเกี่ยวแคชเมียร์โดยการสางขน

ทุก ๆ ปี Loro Piana จะมอบรางวัล ‘Record Bale’ และรางวัลผ้าขนสัตว์ชนิดหนึ่ง ‘Cashmere of the Year’ ให้แก่ผู้เพาะพันธุ์ที่ผลิตเส้นใยขนสัตว์ที่ดีที่สุด ซึ่งนับตั้งเเต่มีรางวัล เส้นใยได้รับการขัดเกลาเกือบ 25% คุณภาพสินค้าไม่เคยตก

นอกจากนั้นLoro Pianaยังเป็นสปอนเซอร์ให้กับกีฬา ทั้งการแข่งขันขี่ม้า เรือใบ กอล์ฟ และรถยนต์ช่วยเพิ่มโอกาสให้เเบรนด์ในการทดสอบผ้าไปด้วย

หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น คือ รองเท้าพื้นสีขาว รูปทรงได้เเรงบันดาลใจจากเรือใบ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความสบาย ความเบา และรูปทรงที่ดูสะอาดตา มีซิกเนเจอร์ที่พื้นรองเท้าสีขาว บอกถึงต้นกำเนิดทางทะเล เพราะพื้นรองเท้าสีขาวจะไม่ทิ้งรอยบนพื้นไม้เรือยอชต์

รายได้

รายได้ของ LVMH 2022 กวาดรายได้ไปกว่า 79,000 ล้านยูโร กำไร 21 พันล้านยูโร

มีรายรับ 79.2 พันล้านยูโร กำไร 21.1 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้น 23%

เป็นการเติบโตจากสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนัง ที่รายได้โตขึ้น 20% โดยเฉพาะในยุโรป ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา

โดยที่ Loro Piana ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 171 สาขาทั่วโลก เป็นหนึ่งในเเบรนด์ที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นของกลุ่มธุรกิจสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนัง เเละได้รับส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งทำรายได้และกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์

สำหรับช่องทางอีคอมเมิร์ซ loropiana.com มียอดขายสุทธิในสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก ตามด้วยอิตาลีและญี่ปุ่น ยอดขายสุทธิทั่วโลก 2022 อยู่ที่ 8.9 ล้านดอลลาร์

จากข้อมูลของ Google Trends เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีการค้นหาคำว่า ‘quiet luxury’ พุ่งสูงขึ้นถึง 614% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ผู้ที่เพิ่มความชัดเจนของเทรนด์หรูเงียบนี้ มีทั้ง “โซเฟีย ริชชี่” นางแบบชาวอเมริกันและเป็นผู้มีชื่อเสียงบนโซเชียลมีเดีย เเละที่เป็นที่พูดถึงมากขึ้นอีกกับ “กวินเน็ธ พัลโทรว์” นักแสดงรางวัลออสการ์ ในการสวมชุดไปขึ้นศาล เเต่เมื่อคนเสิร์ชหาบนอินเทอร์เน็ตกลับต้องตกใจแรง เพราะเสื้อผ้าที่ดูเรียบง่ายเเสนธรรมดานั้น มีราคาตัวละ 200,000 บาท

เเละในรอบอาทิตย์ที่ผ่านมา เทรนด์เกิดกระเเสขึ้นมาอีกรอบกับลุคเเฟชั่นสนามบินของ “เจนนี่ Blackpink” ที่เธอสวมชุดกับถือกระเป๋าโนเเบรนด์ เเต่พอพลิกดูแท็กราคาก็เเทบลมจับ เพราะราคาหลักเเสนบาทขึ้นทุกตัว

quiet luxury ไม่ได้เป็นเพียงความมินิมอลลิสต์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงทุกสิ่งที่ยกระดับ ทำให้ดูสง่างามกว่าปกติ

ล่าสุด เเฟนคลับผู้หลงใหลLoro Pianaหรือจะเป็นผู้ที่มีรสนิยม quiet luxury ต่างต้องเตรียมกระเป๋าสตางค์ไว้ให้ดี เพราะเเบรนด์ยืนยันมาเปิดตัวบูติกแห่งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้

อ้างอิง: loropian a, whowhatwear, vogue, euronews, lvmh, joelandson, NWstyle, alpsandmeters, vogue Arabia, esqclothing, LVMH