ศุภาลัย เปิดตัวพรีเซนเตอร์คนแรก โบว์-เมลดา สะท้อนลุคแบรนด์อสังหาฯ มาตรฐานเดียวกันทุกหลัง ครึ่งปีแรกยอดขาย 1.8 หมื่นล้านบาท เป็นตลาดภูมิภาค 45% ทยอยเปิดอีก 27 โครงการใหม่ ตลอดครึ่งปีหลัง รุกแนวราบ 5 จังหวัดภูมิภาคใหม่ เป้ามีพอร์ต กว่า 31 จังหวัดใน 2 ปีข้างหน้า
ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ศุภาลัย กล่าวว่า ศุภาลัยก่อตั้ง 26 มิ.ย. 2532 เป็นบริษัทอสังหาฯ อันดับแรก ๆ ที่เข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการในหัวเมืองจังหวัดต่าง ๆ นอกจากกรุงเทพฯ
เริ่มต้นในหัวเมืองภูมิภาค 2 จังหวัด ได้แก่ สงขลา, ขอนแก่น หลังจากนั้นกระจายการลงทุนไปยังจังหวัดอื่น ๆ รวม 34 ปี พัฒนาโครงการครอบคลุมกว่า 28 จังหวัด (รวมกรุงเทพฯ)
พัฒนาโครงการในหัวเมืองภูมิภาคไปแล้วรวมทั้งหมด 161 โครงการ หรือประมาณ 36,000 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 118,000 ล้านบาท
จุดแข็งที่ศุภาลัยยึดมั่นเพื่อเสริมแกร่งพอร์ตบ้านของบริษัทมาเสมอ คือ การให้ความสำคัญกับ 5 มาตรฐาน ดังนี้ การออกแบบบ้าน, การก่อสร้างที่ดี, การบริการหลังการขาย, การดูแลจากบุคลากรจริงในพื้นที่, ความปลอดภัยของลูกบ้าน
ปัจจุบันศุภาลัยมีแบบบ้านกว่า 100 แบบ ที่มีการพัฒนาตลอดเวลา เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมอยู่อาศัยของลูกค้า
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ. ศุภาลัย กล่าวว่า แผนการดำเนินงาน ปี 2566 ยังคงเป้าที่ประกาศไว้ช่วงต้นปี ยอดขาย 36,000 ล้านบาท และรายได้ 36,000 ล้านบาท
สัดส่วนมูลค่าโครงการอยู่ในแนวราบ ต่างจังหวัด 39%, แนวราบ กรุงเทพฯ 31%, คอนโดฯ กรุงเทพฯ 27% และคอนโดฯ ต่างจังหวัด 3%
รวมเปิดตัวใหม่ 37 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 34 โครงการ มูลค่า 32,700 ล้านบาท และคอนโดฯ 3 โครงการ มูลค่า 8,300 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่ารวม 41,000 ล้านบาท
ผลการดำเนินงาน ครึ่งปีแรก ยอดขาย 18,000 ล้านบาท เปิดตัวไปแล้ว 10 โครงการ มูลค่าประมาณ 12,000 ล้านบาท และทยอยเปิดอีก 27 โครงการมาตั้งแต่ครึ่งปีหลัง มูลค่า 29,000 ล้านบาท
ตลาดภูมิภาค ครึ่งปีแรก ยอดขายโครงการ 7,784 ล้านบาท เติบโต 9% YoY แบ่งเป็นยอดขายคอนโดฯ 570 ล้านบาท เติบโต 72% YoY และแนวราบ 7,214 ล้านบาท เติบโต 6% YoY หรือคิดเป็นสัดส่วนยอดขายที่มาจากตลาดภูมิภาค ประมาณ 45%
ภูเก็ต, ชลบุรี, สงขลา, ระยอง, ของแก่น, เชียงใหม่ เป็น 6 จังหวัดทอปเซลล์ เฉพาะภูเก็ต เป้าส่วนแบ่งยอดขายปีนี้ กว่า 2,000 ล้านบาท เติบโตเท่าตัวจากปีก่อน และ 4 เท่าจากปี 2021
แผนพัฒนาโครงการใหม่ 5 จังหวัดต่อไป ได้แก่ ลำพูน, ลำปาง, นครปฐม, ราชบุรี, จันทบุรี จะเป็นแนวราบทั้งหมด และมีอีกหลายจังหวัดที่จัดซื้อที่ดินแล้ว แต่ยังไม่ได้พัฒนาโครงการ ตั้งเป้าให้บริษัทมีโครงการครอบคลุมกว่า 31 จังหวัดทั่วไทย ภายใน 2 ปีข้างหน้านี้ และยังให้ความสำคัญต่อการขยายการลงทุนในต่างประเทศ อย่าง ออสเตรเลีย ต่อเนื่องหลังทำมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
ยอดขายรอโอน (Backlog) 19,800 ล้านบาท ทยอยรับรู้ปี 2023-25 งบการตลาดทั้งปีนี้ 100-200 ล้านบาท ขณะที่งบซื้อที่ดิน 8,000 ล้านบาท ยังคงใช้ไม่ถึง แต่คาดว่าเกินปีที่แล้ว ซึ่งใช้ไป 5,000 ล้านบาทแน่นอน โดยตอนนี้บริษัทมีที่ดินรองรับสำหรับทุกโครงการเตรียมเปิดตัวใหม่ในปีหน้าแล้ว
ส่วนการทำงานด้านการตลาด สร้างการรับรู้แบรนด์ระยะยาว ด้วยการเปิดตัวพรีเซนเตอร์ออฟฟิเชียลคนแรกของแบรนด์ศุภาลัย โบว์-เมลดา สุศรี ที่จะมาสะท้อนตัวตนของแบรนด์ผ่านแคมเปญ ‘Standard ดี Quality เดียวกัน’ ชูมาตรฐานบ้านศุภาลัย ทั้งคุณภาพการก่อสร้าง และการบริการที่ดี ที่ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ภาคไหนก็ได้มาตรฐานเดียวกันทุกหลัง
ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ไทย หลังจากนี้ ไตรเตชะ เสริมว่า “ปัจจัยที่มีผลต่อยอดขายมากที่สุด คือ อัตราการเติบโตของจีดีพีและโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ใช่ทิศทางดอกเบี้ย เพราะฉะนั้นการอนุมัติงบประมาณต่าง ๆ ของรัฐบาลใหม่หลังจากนี้จะมีผลทำให้ตลาดดีขึ้น”
“คอนโดฯ ระดับกลาง 3-5 ล้านบาท เป็นเซกเมนต์ที่ไปได้ดี ขณะที่แนวราบ 5 ล้านบาทขึ้นไป ค่อนข้างชะลอตัวลง เพราะได้รับผลกระทบโดยตรงจากมาตรการ LTV ใหม่ที่เข้มงวดขึ้น”
“เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่มักเป็นการซื้อหลังที่สอง และช่วงพีคของตลาดแนวราบเกิดขึ้นไปแล้วจากกลุ่มผู้บริโภคมีกำลังทรัพย์ ซึ่งใช้จ่ายไปตั้งแต่ช่วงปีที่แล้ว เพราะเป็นเบสต์ดีล ก่อนราคาจะขึ้น”
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ