น่าสนใจว่าคนไทยไปเที่ยว “มาเก๊า” ปีละเกือบ ๆ 150,000 คน จนติด 1 ใน 10 นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มาเยือนมาเก๊ามากที่สุด

ขณะที่ภาพรวมภาคการท่องเที่ยวของมาเก๊าหากนับตัวเลขจากช่วงก่อนโควิด-19 ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกราว 40 ล้านคนเดินทางไปเยี่ยมเยือน สร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็น 40% ของ GDP ทั้งเมือง

จะเห็นได้ว่าภาคธุรกิจท่องเที่ยวของมาเก๊าสำคัญเหมือนกับประเทศไทยเมื่อเผชิญกับโควิด-19 ก็เจ็บช้ำไม่แพ้กัน

ดังนั้น หลังผ่านพ้นจากโควิด-19 การท่องเที่ยวมาเก๊าเองก็เลือกที่จะโรดโชว์ไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อโปรโมตการท่องเที่ยว โดยเลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรก พร้อม ๆ กับจัดงาน Experience Macao Unlimited” ไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา

“คงไม่ผิดถ้าจะกล่าวว่า มาเก๊า นั้นโฟกัสที่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก”

มาเรีย เฮเลน่า เดอ เซนน่า เฟอร์นานเดซ ผู้ว่าการท่องเที่ยวมาเก๊า เมื่อตอนมาโรดโชว์ที่ประเทศไทย ระบุว่า

“นอกจากคนไทยจะชอบมามาเก๊าแล้ว คนมาเก๊าก็ชอบมาเที่ยวประเทศไทยเหมือนกัน ตรงจุดนี้ทำให้มีโอกาสเกิดเที่ยวบินแบบไปกลับได้เร็ว เป็นเหตุผลที่ประเทศไทยมีศักยภาพในเชิงการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก”

แม้ในปัจจุบันการเดินทางด้วยเครื่องบินระหว่าง ไทย-มาเก๊า จะยังมีเส้นทางบินตรงไม่มากนักเมื่อเทียบกับ กรุงเทพ-ฮ่องกง

แต่จุดสำคัญที่จะเป็น Game Changer สำหรับนักท่องเที่ยวไทยที่ต้องการจะเยือนมาเก๊าก็คือ สะพานเชื่อมฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า หรือ Hong Kong Zhuhai Macau Bridge (HZMB) ที่เพิ่งสร้างเสร็จตอนปี 2018 ก่อนที่โลกจะต้องเผชิญกับโควิด-19

สะพานเชื่อมฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า นั้นมีความสำคัญมากทั้งในแง่ของภาคเศรษฐกิจ ธุรกิจ โลจิสติกส์ รวมถึงในภาคการท่องเที่ยว

สะพานเชื่อมฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า หรือ Hong Kong Zhuhai Macau Bridge (HZMB)

และต่อจากนี้ไป นักท่องเที่ยวไทยจะสามารถออกแบบทริปท่องเที่ยวแบบ Multi destination หรือทริปเดียวเที่ยว 2 เมือง “ฮ่องกง-มาเก๊า” ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ใช้เวลาน้อยลงเที่ยวได้มากขึ้น

รวมถึงผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังมาเก๊าโดยตรงก็สะดวกยิ่งขึ้นเช่นกัน เพราะสามารถลงเครื่องที่สนามบินฮ่องกง และเลือกนั่งรถบัสรับส่งหรือเช่ารถยนต์ขับ โดยใช้สะพาน HZMB ตรงสู่มาเก๊าได้เช่นกัน

HZM Bus/Photo: wikipedia.org

หากเปรียบเทียบการเดินทางระหว่างฮ่องกง-มาเก๊า ที่ห่างกันเพียง 60 กิโลเมตร วิธีดั้งเดิมก็คือนั่งเรือเฟอร์รี่ จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และต้องวัดดวงกับสภาพคลื่นลม ซึ่งถ้าหากนั่ง HZM Bus หรือขับรถเช่าวิ่งบนสะพานเชื่อมฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊าก็จะใช้เวลาเพียง 40 นาที รวมถึงมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า

ในขณะที่ภาพรวมการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง การเดินทางไปท่องเที่ยวมาเก๊าและฮ่องกงของคนไทยก็ยิ่งสะดวกขึ้นยิ่งกว่า อย่างล่าสุดมีการเปิดตัวสายการบินใหม่ป้ายแดงอย่าง Greater Bay Airlines (GBA) บินตรงสู่ฮ่องกงด้วยเครื่องบินลำใหม่ Boeing 737-800 นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกันหากคิดจะเดินทาง

โดย Greater Bay Airlines จะมีสองไฟลต์ไปกลับ HB682 ออกเดินทางจากไทยเวลา 11.25-15.20 น. ส่วนขากลับเป็นไฟลต์ HB683 ออกเดินทางจากฮ่องกง เวลาเดินทาง 15.00-16.55 น. ถือเป็นเวลาที่กำลังพอเหมาะเลยทีเดียว


ไปมาเก๊าแล้วไปเที่ยวอะไร
?

เชื่อว่าอ่านมาถึงจุดนี้หลายคนคงเริ่มดีไซน์ทริปแบบ Multi destination ฮ่องกง-มาเก๊า ในรอบเดียวได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยจุดเด่นของทั้งสองปลายทางนั้นตอบโจทย์เรื่อง กิน ช้อป เที่ยว อยู่แล้ว

Senado Square
Ruins of St. Paul’s

ความโดดเด่นที่พลาดไม่ได้ของ มาเก๊า ก็คือการไปเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิกที่ผสมผสานกลิ่นอายของเอเชียอย่างจีนเข้ากับความเป็นโปรตุเกส หรือที่ได้ยินคุ้นหูว่า สถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีส (Chinois Postugess) ที่เรียงรายอยู่รอบเกาะมาเก๊า เป็นทั้งสถานที่สำคัญและพื้นที่ประวัติศาสตร์ จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO มากกว่า 20 แห่ง

The Grand Lisboa Palace Resort Macau

รวมถึงความบันเทิง เที่ยวและพักผ่อนระดับเวิลด์คลาส ซึ่งในขณะที่มาเก๊าต้องเผชิญกับโควิด-19 ถือเป็นช่วงเวลาฟื้นฟู ซ่อมแซม และพัฒนาหลาย ๆ อย่างด้วยเช่นกัน

The Londoner Macao

โดยผู้ว่าการท่องเที่ยวมาเก๊ายกตัวอย่างโรงแรม The Londoner Macao ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่รับนักท่องเที่ยวได้ในระดับ 6,000 คน รวมถึงโรงแรมชื่อดังอย่าง The Grand Lisboa Palace Resort Macau ก็ได้สร้างอารีน่าใหม่รองรับคนกว่า 16,000 คน เพื่อรองรับลูกค้าทั้งกลุ่มธุรกิจและกลุ่มท่องเที่ยว

Macao Grand Prix” มาเก๊ากรังด์ปรีซ์” ครั้งที่ 70
อีเวนต์ใหญ่รับไฮซีซั่นปลายปีอีกที่กำลังจะถึง!

Photo: facebook.com/MacauGrandPrix

โดย มาเก๊ากรังด์ปรีซ์” ครั้งที่ 70 กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 11-19 พฤศจิกายน 2566 นี้
นับเป็นอีกหนึ่งสนามสำคัญของการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกสนามหนึ่งเลยก็ว่าได้

โดยเอกลักษณ์ของการแข่งขันนี้ คือ เส้นทางการแข่งขันจะลัดเลาะไปตามถนนในเมืองมาเก๊า ซึ่งมีความสูงชันและโค้งหักศอกมากมาย สร้างความท้าทายให้กับนักแข่ง

พร้อม ๆ กับบรรยากาศที่ครึกครื้น ถือเป็นงานเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ของชาวมาเก๊า โดยในช่วงจัดงานจะมีการจัดแสดงแสงสีเสียง และกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย สร้างความสนุกสนานให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน รวมถึงได้ชมการแข่งขันจากจุดชมวิวต่าง ๆ ตลอดเส้นทาง

สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าร่วมการแข่งขัน “มาเก๊ากรังด์ปรีซ์” ครั้งที่ 70 สามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันได้ที่เว็บไซต์ของมาเก๊ากรังด์ปรีซ์ โดยบัตรเข้าชมมีจำหน่ายหลายประเภท ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.macau.grandprix.gov.mo/en/ticket-info

 

“ทั้งจากตัวเลขนักเดินทางและความนิยมในการเดินทางไปท่องเที่ยว สะท้อนให้เห็นว่า มาเก๊า กำลังกลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายการเดินทางของนักท่องเที่ยวไทย ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ

รวมถึงความสะดวกสบายจากการเดินทางผ่านสะพานเชื่อมฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า (HZMB) จะช่วยพลิกโฉมการท่องเที่ยวแบบ Multi destination ฮ่องกง-มาเก๊า สะดวกสบาย ประหยัดเวลายิ่งกว่าเดิมได้จริง ๆ”

 

 

อ้างอิง
https://marketeeronline.co/archives/309978
https://www.thairath.co.th/news/local/2698924

https://www.longtunman.com/24226

https://www.mushroomtravel.com/page/greater-bay-airlines/

https://www.facebook.com/MacauGrandPrix



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online