มร. ฟิลิป ริคเกนบาเคอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จูเลียส แบร์ กรุ๊ป กล่าวถึงการดำเนินงานของ จูเลียส แบร์ ไว้ว่า “ปัจจุบัน Julius Baer คือผู้นำด้านการให้บริการธุรกิจบริหารความมั่งคั่งระดับสูงโดยเฉพาะ (Pure-Play Wealth Manager) และเป็นธนาคารที่ใหญ่เป็นลำดับสองในสวิตเซอร์แลนด์เมื่อพิจารณาจากมูลค่าบริษัท เรามีสินทรัพย์ 441 พันล้านฟรังก์สวิส มีกำไรมากกว่า 500 ล้านในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ที่แข็งแกร่งมาก และมีพนักงานกว่า 7,000 คน ทั่วโลก เราภูมิใจมากที่มีสวิตเซอร์แลนด์เป็นตลาดบ้านเกิด (home market) และมีเอเชียเป็นบ้านแห่งที่สองของเรา (second home market) โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือกับ SCB Julius Baer บริษัทร่วมทุนในประเทศไทยที่จะช่วยขยายขีดความสามารถและขยายขอบเขตการดำเนินงานของเราในตลาดเอเชียให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
การบริหารความมั่งคั่งบนนิยามของจูเลียสแบร์
เราเชื่อว่า Wealth Management หรือการบริหารความมั่งคั่งนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้อย่างถูกต้อง สูตรสำเร็จของการบริหารความมั่งคั่งและความเชื่อหลักของ Julius Baer นั้นเริ่มต้นจากลูกค้า โดยเราคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก โดยมีความเชื่อใจและความไว้วางใจเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ เราตั้งเป้าหมายสำคัญของเราไว้อย่างชัดเจน คือ การสร้างมูลค่าที่มากกว่าความมั่งคั่งให้กับลูกค้าของเรา (create value beyond wealth) เริ่มต้นจากสร้างคุณค่าในการบริหารความมั่งคั่งก่อนเป็นอย่างแรก และช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถเพิ่มพูน รวมถึงรักษาความมั่งคั่งของลูกค้าเอาไว้ได้ เพื่อที่จะสามารถส่งต่อความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าหลักการสำคัญ คือ เรื่องการเงินการลงทุน และยังรวมไปถึงการให้บริการแบบองค์รวม (holistic advisory) ที่ครอบคลุมที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารความมั่งคั่งอย่างรอบด้านได้แบบมั่นคงในทุกช่วงอายุ
มอบคุณค่าที่มากกว่าความมั่งคั่ง
นอกจากการเพิ่มพูนความมั่งคั่งแล้ว ลูกค้าหลายครอบครัวให้ความสำคัญกับการรักษาความมั่งคั่ง การส่งต่อธุรกิจ หรือสินทรัพย์ที่ถือครองจากรุ่นสู่รุ่นภายใต้การขยายตัวของครอบครัวที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อการนี้ เราช่วยลูกค้าทำความเข้าใจเกี่ยวกับเทรนด์การลงทุน เทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมถึงแนวทางความยั่งยืน (sustainability) ซึ่งเป็นหัวข้อที่เราให้ความสำคัญมาก เราทำหน้าที่ช่วยลูกค้าเข้าถึงข้อมูลที่มี เพื่อจัดทำแผนงาน Family Office รวมถึงจัดการทรัพย์สินทางการเงิน นอกจากนี้ เรายังช่วยลูกค้ารักษาและสืบทอดกิจกรรมทางสังคม หรือการกุศลที่เคยเกิดขึ้นในครอบครัวรุ่นก่อน ๆ ให้คงอยู่ต่อไปอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้คือการเข้าใจการบริหารความมั่งคั่งอย่างแท้จริง
ความสำเร็จของจูเลียส แบร์
ผมคิดว่าปัจจัยที่ทำให้จูเลียส แบร์ประสบความสำเร็จนั้น อย่างแรก คือ ตั้งใจทำในสิ่งเดียวเท่านั้น (pureplay) ซึ่งนี่คือเหตุผลว่าทำไม จูเลียส แบร์ ถึงให้บริการธุรกิจบริหารความมั่งคั่งระดับสูงเพียงอย่างเดียว และ สอง คือ มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (client centric) เราจึงออกแบบกระบวนการทางธุรกิจโดยเริ่มต้นที่ลูกค้า ตั้งแต่การพัฒนาเทคโนโลยีที่ตั้งต้นจากประสบการณ์ของลูกค้า ปัจจุบันเรามีการให้บริการแบบ open architecture แม้ว่าเราจะมีผู้เชี่ยวชาญเชิงลึกที่สามารถนำเสนอโซลูชันและบริการด้านการลงทุนมากกว่า 1,000 คน แต่เราไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การขายผลิตภัณฑ์ของตัวเองเท่านั้น เราได้มีโอกาสทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่เก่งที่สุดในตลาดและนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา นอกจากนี้ ปัจจัยที่เราให้สำคัญมาก คือ การบริหารความเสี่ยง เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยของลูกค้าและธนาคารของเรา
นอกจากนี้ จูเลียส แบร์ ยังให้ความสำคัญกับอีก 2 แกนหลัก ได้แก่ 1. เรื่องของความยั่งยืน (sustainability) เราเชื่อว่าความยั่งยืนเป็นเรื่องสำคัญมากต่อการบริหารความมั่งคั่งในปัจจุบัน แต่เราไม่อาจบริหารความเสี่ยงได้โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อคนรุ่นหลังและปัจจัยภายนอก วิธีการของจูเลียส แบร์ จึงมุ่งเน้นแนวทางปฏิบัติจริง โดยทำความเข้าใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเรานำข้อมูลมาปรับใช้ จากนั้นจึงให้ทางเลือกแก่ลูกค้า และชี้ให้เห็นถึงผลของทางเลือกเหล่านั้นที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้ 2. Community เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะชุมชนของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ซึ่งเรามีกลุ่มคนรุ่นใหม่หนุ่มสาวเกือบ 1,000 คน ที่เป็นทายาทของลูกค้าเราที่ได้มาพบปะพูดคุยกัน โดยเรามีส่วนช่วยส่งเสริมความรู้ทางการเงิน (financial literacy) รวมถึงการสร้างเครือข่ายด้านธุรกิจซึ่งกันและกัน เพื่อเสริมความสัมพันธ์ในพื้นที่แห่งนี้ ส่วนหนึ่งของความสำเร็จ คือ หลักสูตร The 45 Academia ของ SCB Julius Baer ที่ได้ทำที่ประเทศไทย เราดีใจมากที่จะได้เชื่อมโยงพันธมิตรคนรุ่นใหม่ของเราเข้ากับ The 45 Academia โดยตรง
Julius Baer และ SCB ผสานความมั่งคั่งสองฝั่งโลก
ความร่วมมือระหว่าง SCB และ Julius Baer ภายใต้ SCB Julius Baer นับเป็นการผสานโลกทั้งสองฝั่งเข้าไว้ด้วยกัน ด้วยความเข้าใจในตลาดอย่างลึกซึ้งของธนาคารไทยพาณิชย์ เทคโนโลยีอันแข็งแกร่ง ตลอดจนความเป็นผู้นำและอื่น ๆ ที่จะช่วยให้ Julius Baer สามารถนำสิ่งที่ดีที่สุดของเรามาสู่ประเทศไทย ในแง่ของกระบวนการลงทุน กระบวนการให้คำปรึกษา และทุกสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้บริการด้าน offshore private banking ที่มีมาตรฐานสูงสุด เราคงไม่สามารถทำให้สำเร็จเพียงลำพังได้ แต่ด้วยความร่วมมือกันจะช่วยสร้างความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ร่วมกัน สุดท้ายนี้ เรามุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างการเติบโตในระยะเวลาอันใกล้ และยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนบทบาทของเราในตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงร่วมแสวงหาวิธีการใหม่ ๆ ในการขยายความร่วมมือครั้งนี้ และกำหนดนิยามใหม่เพื่อสร้างผลกระทบสูงสุดในตลาดไทย ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำด้านการบริหารความมั่งคั่งของ SCB พร้อมสร้างจุดยืนที่แข็งแกร่งในตลาดไทยและเอเชียพอร์ตโฟลิโอให้แก่ Julius Baer
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ