กอช. ร่วมทรูมันนี่ ออมเงินกับกองทุนฯ ผ่านแพลตฟอร์ม ส่งเสริมเข้าถึงผ่านออนไลน์แก่กลุ่มแรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่ยังไม่มีสวัสดิการใด ๆ เริ่มต้น 50 บาท
นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองปลัดกระทรวงการคลัง ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. กล่าวว่า กอช. ขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ ‘มุ่งสร้างฐานการออม ขับเคลื่อนบำนาญภาคประชาชนอย่างทั่วถึง’ ผ่าน Digital Marketing ประชาชนที่มีอายุ 15-60 ปี สามารถเริ่มออมตั้งแต่ 50 บาท แต่ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี* และรัฐสมทบสูงสุด 100% แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี*
อายุ 15-30 ปี รัฐสบทบ 50% ของเงินสะสม สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี*
อายุ 30-50 ปี รัฐสบทบ 80% ของเงินสะสม สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี*
อายุ 50-60 ปี รัฐสบทบ 100% ของเงินสะสม สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี*
* เงื่อนไขเป็นไปตามที่กองทุนการออมแห่งชาติกำหนด เงินสมทบสนับสนุนและดูแลโดยรัฐบาล
ปัจจุบัน กอช. มีฐานสมาชิกกว่า 2.58 ล้านคนทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงใช้บริการในรูปแบบผ่านหน่วยงานในพื้นที่สูงถึง 85% กอช. จึงมุ่งพัฒนาเพื่อยกระดับการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเข้าถึงบริการในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีในโลกปัจจุบัน
31 ม.ค. 2567 กอช. จึงได้ประกาศความร่วมมือกับทรูมันนี่ ออมเงินผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าว เพื่อส่งเสริมกลุ่มแรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่ยังไม่มีสวัสดิการใด ๆ รองรับในวัยเกษียณอายุ (60 ปีขึ้นไป) ซึ่งจะขยายตัวถึง 17.87 ล้านคน หรือ 27% ของสัดส่วนประชากรทั้งหมดในประเทศในปี 2570
นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า ทรูมันนี่ ในฐานะผู้ให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำ ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 27 ล้านคนทั่วประเทศ และได้รับการจัดอันดับจาก AppSynth และ data.ai ให้เป็นแอปฯ โดยผู้พัฒนาจากภาคคอร์เปอเรตของไทยที่ได้รับการดาวน์โหลดสูงสุด นับตั้งแต่ App Store และ Play Store เปิดใช้งานจนปัจจุบัน
ความร่วมมือกับ กอช. ในครั้งนี้ จะช่วยลดข้อจำกัดในการเข้าถึงการออมแบบเดิมของแรงงานเหล่าข้างต้น ให้มีทางเลือกเพิ่มขึ้นในการออมเพื่อสร้างสุขภาพทางการเงินและคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยเกษียณ ด้วยบริการออมเงินกับ กอช. ผ่านแอปฯ ทรูมันนี่
ทั้งนี้ ภายหลังเปิดทดลองให้บริการไม่ถึงสองเดือน มียอดออม กอช. ผ่านแอปทรูมันนี่แล้วประมาณ 4 ล้านบาท และคาดการณ์ว่ายอดออมดังกล่าว จะเพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านบาท และมีผู้ใช้รวม 1 ล้านบัญชี ภายในสิ้นปี 2567
ผู้สนใจสามารถเปิดบัญชีและใช้งานบริการออมเงินกับ กอช. ผ่านทรูมันนี่ได้ง่าย ๆ ใน 3 นาที เพียงดาวน์โหลดหรืออัปเดตแอปฯ ทรูมันนี่ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด เข้าไปที่หน้าแอปและกดเมนู “ออมเงิน รัฐให้เพิ่ม” จากนั้นกดอนุญาตเพื่อให้ทำการแชร์ข้อมูลเพื่อการสมัครและยอมรับเงื่อนไขและให้ความยินยอมการสมัคร กอช. กรอกข้อมูลที่อยู่ให้ครบถ้วน และเลือกช่องทางการหักเงินเพื่อฝากเงินเข้าบัญชี กอช. เพียงเท่านี้ก็สามารถเริ่มฝากเงินออมกับ กอช. ด้วยจำนวนเงินที่ต้องการ โดยมีขั้นต่ำเพียง 50 บาท
สถิติภาพรวมการออมเงินเพื่อการเกษียณของคนไทยปี 2566 พบว่า คนไทยมีพฤติกรรมการออมเงินเพื่อการเกษียณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการคลี่คลายลงของสถานการณ์โควิด-19
รวมถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทยและตลาดแรงงานไทย โดยเห็นได้จากแนวโน้มการเติบโตที่เพิ่มขึ้นของจำนวนสมาชิกและจำนวนเงินในระบบกองทุนการออมเพื่อการเกษียณต่าง ๆ ของคนไทย
โดยปัจจัยบวกที่ส่งผลให้การออมเงินเพื่อการเกษียณเพิ่มขึ้นมีปัจจัยสำคัญมาจากเทรนด์ของผู้บริโภคที่ให้ความสนใจในการลงทุนมากยิ่งขึ้น ซึ่งให้ความสำคัญกับการออมเงินเพื่อการเกษียณ อีกทั้งแผนงานของ กอช. ยังคงมุ่งเน้นการสร้างความตระหนักรู้เรื่องการออมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ให้กับกลุ่มแรงงานนอกระบบเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ผ่านการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต่อไป


