ท่องเที่ยวไทย ฟื้น ไตรมาสแรก 89 ล้านคน เงินสะพัด 2 ล้านล้าน กอล์ฟ – ดำน้ำ – กิจกรรมกลางแจ้ง เติบโตสูง
ม.ค. – มี.ค. 2024 ไทยเที่ยวไทย ต่างชาติเที่ยวไทย รวม 89 ล้านคน-ครั้ง เงินสะพัด 2 ล้านล้านบาท จับตาตลาดเฉพาะทาง กอล์ฟ, ดำน้ำ, กิจกรรมและกีฬากลางแจ้ง เติบโตสูง ร่วมศูนย์ฯ สิริกิติ์ จัดงานแสดงสินค้าด้านการท่องเที่ยวทั้ง 3 กลุ่ม เป้าเงินสะพัดในงาน ต่อเนื่องตลาดท่องเที่ยวของทุกกลุ่ม กว่า 250 ล้านบาท
คุณสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวไทย ม.ค. – มี.ค. 2024 นักท่องเที่ยว 89,225,989 ล้านคน-ครั้ง เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 67,990,479 ล้านคน-ครั้ง และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 21,235,510 ล้านคน-ครั้ง
รายได้จากการท่องเที่ยวทั้งไทยเที่ยวไทย ต่างชาติเที่ยวไทยอยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ
จำนวนเที่ยวบินทั้งในประเทศ ระหว่างประเทศ กลับมาฟื้นตัว 70% ของก่อท่องเที่ยวเมืองรองนโควิด-19 โดยยังมีส่วนของการบำรุงรักษา และหาเครื่องบินทดแทนที่หมดสภาพการใช้งานจากช่วงโควิด
ปี 2024 ททท. มุ่งเน้นส่งเสริมการ ส่งเสริมการท่องเที่ยววันธรรมดา และจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน
ทั้งประเทศไทยยังมีกิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย และกระจายไปทุกตลาดการท่องเที่ยว โดยหนึ่งในตลาดเฉพาะทาง (Niche Market) ที่เติบโตในระดับสูง ก็คือ การท่องเที่ยวกลางแจ้ง ทั้งการเล่นกอล์ฟ การดำน้ำ และกิจกรรมท่องเที่ยวและกีฬากลางแจ้ง
ตลาดดำน้ำในไทย 1.3 พันล้านบาท
คุณประกาศิต ปุ่นอภิรัตน์ ผู้จัดการ บริษัท วาฮู ไดวิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า หลังจากสถานการณ์โควิด นักท่องเที่ยวดำน้ำ ก็ยังทำกิจกรรมดำน้ำเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ปี 2023 ‘ตลาดดำน้ำในไทย’ มูลค่าตลาดอยู่ที่ 1,330 ล้านบาท แบ่งเป็น ร้านขายอุปกรณ์ดำน้ำ 50% โรงเรียนสอนดำน้ำ 25% และเรือท่องเที่ยวดำน้ำ 25% และคาดว่าตลาดฯ ปี 2024 เติบโต 5-8%
การเรียนการสอนดำน้ำ ไทยถือเป็นประเทศหนึ่งที่มีผู้ที่สนใจเรียนดำน้ำจากทั่วโลก เดินทางเข้ามาเรียนและสอบจนสำเร็จเป็นนักดำน้ำ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเรียนในพื้นที่ เกาะเต่า/สมุย/ภูเก็ต/กระบี่/พัทยา จนทำให้ยอดการผลิตนักดำน้ำที่เรียนจบจากประเทศไทยในหลักสูตรต่าง ๆ ขึ้นเป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชีย
ส่วนเรือท่องเที่ยวดำน้ำที่เปิดให้บริการในไทยทั้งฝั่งทะเลอันดามันและฝั่งทะเลอ่าวไทย มี 2 ประเภทคือ ประเภทกินนอนบนเรือ (Live aboard) และเรือดำน้ำแบบเช้าไปเย็นกลับ (Day Trip) เรือท่องเที่ยวดำน้ำทั้ง 2 ประเภท มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 380 ล้านบาทต่อปี
โดยปี 2023 อ้างอิงจากการออกใบรับรองของ PADI ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันรับรองการดำน้ำที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด คาดว่ามีผู้ที่เรียนดำน้ำจบจากประเทศไทยเป็นจำนวนกว่า 20,000 คน โดยคิดเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
ด้านราคาตลาดของอุปกรณ์ดำน้ำในเมืองไทย ปัจจุบันเป็นราคาที่ค่อนข้างดี ไม่แพงมากนัก และในบางช่วงเวลา อาจจะถูกกว่าซื้อในต่างประเทศ โดยคาดว่าในปี 2024 ยอดขายรวมของธุรกิจดำน้ำในประเทศไทย จะเพิ่มสูงขึ้น
ตลาดสนามกอล์ฟเติบโต 10%
คุณเบญจพล เถาว์กายา ผู้จัดการทั่วไป (สนามกอล์ฟปัตตาเวีย เซ็นจูรี่ กอล์ฟ คลับ) บริษัท สปอร์ต แอนด์ รีครีเอชั่น แมนเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ไทยมีจำนวนสนามกอล์ฟอยู่ประมาณ 200 กว่าแห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นสนามกอล์ฟของภาคเอกชนที่เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ประมาณ 160 แห่ง และ 40 แห่งเป็นสนามกอล์ฟของหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ
ซึ่งสนามกอล์ฟของประเทศไทยเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากราคาค่าบริการสนามกอล์ฟในไทยมีราคาที่ถูกกว่าในหลายประเทศ อีกทั้งการให้บริการของสนามกอล์ฟมีคุณภาพและได้มาตรฐาน จึงเป็นที่ดึงดูดให้นักกอล์ฟชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาเล่นกอล์ฟกันมากขึ้น
ประกอบกับความนิยมในการเล่นกอล์ฟที่มีมากขึ้น ธุรกิจสนามกอล์ฟยังคงมีแนวโน้มเติบโตในอัตราไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี ตามกระแสนิยมกีฬากอล์ฟที่ยังมาแรงในกลุ่มนักกอล์ฟคนไทย
โดยเฉพาะตลาดครอบครัว ทำให้ตลาดนักกอล์ฟคนไทยขยายตัวกว้างขวางครอบคลุมทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่กลุ่มเยาวชนไปจนถึงกลุ่มผู้สูงอายุ
ท่องเที่ยวไทย เทคโนโลยีเสริมเที่ยวกลางแจ้งนิยมมากขึ้น
คุณธิติกร อติชาตพงศ์ ผู้จัดการ บริษัท อินโดบอร์ด ไทยแลนด์ กล่าวว่า ความต้องการท่องเที่ยวกลางแจ้ง การผจญภัย การท่องเที่ยวทางเลือก และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมาก และตลาดการท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงตามความก้าวหน้าของตลาดในด้านเทคโนโลยี และการโฆษณา จึงทำให้การท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีความเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของตลาดที่รวดเร็ว
คุณสุรพล อุทินทุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวทั้ง 3 กลุ่ม กอล์ฟ, ดำน้ำ, ท่องเที่ยวกลางแจ้ง ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวเป้าหมายของภาคธุรกิจ เพราะมียอดการใช้จ่ายต่อหัวสูง และมีระยะเวลาการท่องเที่ยวที่ค่อนข้างยาวกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป
บริษัทจึงได้มีการจัดงาน “Thailand Golf & Dive Expo plus OUTDOOR Fest 2024” งานแสดงสินค้าด้านการท่องเที่ยวที่เป็นการรวม 3 งานแสดงสินค้าที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของการท่องเที่ยว ทั้งด้านกีฬากอล์ฟ, ดำน้ำ และท่องเที่ยวแนวกิจกรรมกลางแจ้ง ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 20, 10 และ 5 ปีตามลำดับ จากการเห็นโอกาสที่ต่อยอดกันในแต่ละกลุ่ม
งานปีที่ผ่านมามีกว่า 400 บูธ ผู้เข้าร่วมงานเกือบ 5 หมื่นคน ยอดซื้อขายภายในงานและต่อเนื่องไปในอุตสาหกรรมนี้กว่า 170-180 ล้านบาท
ปีนี้งานจัดวันที่ 16-19 พ.ค. 2024 เวลา 11.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ 5-6 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มาต่อเนื่องตั้งแต่ปีแรกของการจัดงาน
โดยผู้ประกอบการเข้าร่วมงานปีนี้กว่า 500 บูธ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 25% ในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการต่างชาติประมาณ 20% ตั้งเป้านักท่องเที่ยวและผู้สนใจทั่วไปเข้ามาร่วมงานไม่น้อยกว่า 55,000 คน และมียอดซื้อขายภายในงานและต่อเนื่องไปในอุตสาหกรรมนี้กว่า 250 ล้านบาท
โดยปีนี้บริษัทเตรียมจัดเต็มงานแสดงสินค้า ทั้งโปรโมชั่นสินค้าท่องเที่ยว และกิจกรรมภายในงาน อีกทั้งปีนี้ครบรอบ 20 ปีของงาน “Thailand Dive Expo” ด้วย ดังนั้น จึงต้องรวบรวมสินค้าแบรนด์ชั้นนำและแบรนด์ยอดนิยม มาจัดแสดงให้มากที่สุด ครบที่สุด พร้อมโปรโมชั่นที่พิเศษที่สุด เพื่อตอบโจทย์ได้ตรงความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยว
คุณสมฤดี จิตรจง เสริมว่า สำหรับการจัดงาน “Thailand Golf & Dive Expo plus Outdoor Fest 2024” นอกจากจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่เกิดจากการซื้อขายแพ็กเกจท่องเที่ยว อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังสามารถกระจายรายได้ลงสู่ชุมชนท้องถิ่นด้วยการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง
นอกจากนี้ ยังสอดแทรกแนวคิดความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมแก่นักท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความยั่งยืนได้อีกด้วย โดยการจัดงานในครั้งนี้จะสามารถสร้างมูลค่าทางการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /



