Trend/เกาหลีใต้ในปัจจุบัน มีเรื่องดี ๆ ให้คนประเทศได้ภาคภูมิใจมากมาย ไล่ตั้งแต่พัฒนาการทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

และความสำเร็จในการส่งสินค้าทางวัฒนธรรมกับอุตสาหกรรมบันเทิง อันเป็นต้นแบบ Soft Power ยุคใหม่ที่หลายประเทศมองเป็นต้นแบบ

แต่เกาหลีใต้ก็มีมุมมืดและปัญหาซ่อนอยู่ไม่ต่างจากประเทศอื่น ๆ ซึ่งก็เป็นผลกระทบจากพัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคมนั่นเอง

เกาหลีใต้เป็นประเทศที่ประชากรมีความเครียดสูง เพราะสังคมเต็มไปด้วยความเร่งรีบและการแข่งขัน  เริ่มจากวัยเรียนที่พ่อแม่ทุ่มเทให้กับการศึกษาของลูก เพื่อจะได้สอบเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยดี ๆ และบริษัทชั้นนำ

จากนั้นเมื่อเข้าไปทำงานก็มีการแข่งขันกันในหมู่พนักงาน ต้องชิงดีชิงเด่นกันอีก ทำให้การทำงานจนดึกดื่นเพื่อสร้างผลงานเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้ ชาวเกาหลีใต้ก็ขึ้นชื่อเรื่องดื่มและปาร์ตี้หนัก

ขณะเดียวกันยังเป็นประเทศที่เข้าถึง Smartphone และ Wi-Fi ต่อสัดส่วนประชากรสูงมากนานแล้ว ทำให้การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร การสื่อสารและการเชื่อมต่อต่าง ๆ จึงเร็วและท่วมจน บางครั้งก็เป็นปัญหา

จากทั้งหมดที่กล่าวมา ชาวเกาหลีใต้จึงเครียดมาก มีปัญหาเรื่องหมดไฟ (Burnout) ซ้ำร้ายยังกลายเป็นประเทศที่อัตราฆ่าตัวตายสูงอีกด้วย

แต่ 10 ปีที่ผ่านมามีกิจกรรมหนึ่งเกิดขึ้นในเกาหลีใต้ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อชี้ให้เพื่อนร่วมชาติเห็นว่า การอยู่เฉย ๆ บ้างนั้นสามารถทำได้ และถือเป็นหนึ่งในทางออกจากปัญหาโรคเครียดและหมดไฟ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมามีการจัด Space-out competition ขึ้นที่สวนบันโป ฮันกัง ใกล้กับสะพานนัมโป ในกรุงโซล ซึ่งผู้เข้าร่วม 117 คนมาแข่งกันว่า ใครจะนั่งเฉย ๆ ได้นานสุด และสร้างความประทับใจผู้ชมได้มากสุด

ตามข้อมูลของสื่อเกาหลีใต้ รวมไปถึงสื่อตะวันที่ตกที่นำมารายงานต่อระบุว่า Space-out competition ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 10 โดยมีจำนวนผู้เข้าแข่งขันเพิ่มขึ้น มีผู้เข้าแข่งขันในหลายสาขาอาชีพ  และหลายวัย

ตั้งแต่เด็กนักเรียนประถมไปถึงวัย 60 ปี  แม้เป็นการแข่งง่าย ๆ ผ่านการแค่นั่งนิ่ง ๆ ปล่อยตัวปล่อยใจให้ครบ 90 นาที หรือที่เรียกตามสำนวนไทยว่านั่งโง่ ๆ

และฝ่ายการแข่งขันจะตรวจอัตราการเต้นของหัวใจทุก ๆ 15 นาที ว่ายังคงที่ และพร้อมให้จิบน้ำตามที่ร้องขอ  แต่ก็มีผู้ถูกคัดออกไปเรื่อยๆ

เพราะทำผิดกฎจากการลุกขึ้นยืน สัปหงก เผลอหลับ ลืมตัวเผลอร้องเพลงหรือเต้น หยิบ Smartphone ขึ้นมาดู รวมไปถึงขอกินอาหาร

เมื่อการแข่งขันจบลงผู้ชนะที่ 1 ซึ่งได้ประกาศนียบัตรกับรูปปั้นคนนั่งครุ่นคิด (The Thinker) สีทองใส่หมวกปีกสไตล์เกาหลี เป็นรางวัล คือ ควอน โซ-อา ผู้ประกาศข่าวอิสระหญิงวัย 35 ปี

ควอน โซ-อา

เธอกล่าวว่า การแค่นั่งเฉยๆ หรือลดสปีดชีวิต ถือเป็นเรื่องจำเป็นในเกาหลีใต้ยุคปัจจุบันที่เต็มด้วยความเร่งรีบและการแข่งขัน เพราะช่วยให้ร่างกายได้พักและดีต่อสุขภาพจิตอีกด้วย

ด้าน ปาร์ก จอง-ฮุน นักวิ่งทีมชาติเกาหลีใต้ที่มาร่วมแข่งในงาน Space-out competition ด้วยกล่าวว่า หลังผ่านโอลิมปิกมาแล้ว 5 ครั้ง การพักผ่อนคือเรื่องที่ตนต้องการมากสุด และงานนี้ทำให้คนในชาติในตระหนักว่า การพักผ่อนนั้นจำเป็น

ปาร์ก จอง-ฮุน

สำหรับ Space-out competition จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2014 โดยครีเอทีฟวงการโฆษณาหญิงที่ผันตัวเองมาเป็นศิลปินภายใต้ชื่อ วูปสยาง (Woopsyang) ซึ่งถนัดศิลปะแนวจัดวาง

วูปสยาง

วูปสยาง เคยให้สัมภาษณ์ถึงการริเริ่มจัดงาน Space-out competition ไว้ว่า หลังจากเรียนจบก็ทำงานและผันตัวมาเป็นศิลปิน แต่เมื่อเข้าอายุเพียง 30 ปีตนก็หมดไฟ คิดงานไม่ออก เสียแล้ว

ช่วงแรกลองนั่งเฉย ๆ ไม่ทำอะไรเลยดู ปรากฏว่าได้ผล แต่ยังทำได้ไม่บ่อย เพราะถูกวิจารณ์จากคนรอบตัวว่าไร้สาระ ทว่าหลังทำบ่อย ๆ แล้วสุขภาพจิตดีขึ้น ก็ไม่แคร์ว่าใครจะมองอย่างไรอีกต่อไป

ปี 2014 Space-out competition จัดขึ้นครั้งแรกในหมู่เพื่อน โดยเมื่อกลายเป็นข่าวก็จัดในที่สาธารณะให้คนทั่วไปเข้าร่วม และต่อมาประเทศอื่นๆ ก็สนใจ จนมีการย้ายไปจัดที่จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์มาแล้ว  

วูปสยาง เผยอีกว่า งาน Space-out competition ทุกปี จะมีผู้ที่กระวนกระวายหรือที่สุดก็นิ่งต่อไปไม่ไหว จนต้องลุกขึ้นออกจากการแข่งขันไป แต่มั่นใจว่า การแข่งนั่งเฉย ๆ นี้เหมาะที่สุดแล้วกับประเทศที่ชีวิตเร่งรีบ และเต็มไปด้วยการแข่งขันอย่างเกาหลีใต้

ในอนาคตหวังว่าโลกจะเห็นความสำคัญของการนั่งพักนิ่ง ๆ มากกว่านี้ จนเกิดมีวัน Space-out ขึ้น ที่คนทั่วโลกร่วมกันนั่งเฉย ๆ ปล่อยตัวปล่อยใจเป็นเวลา 10 นาที

วูปสยาง กล่าวทิ้งท้ายว่า แม้การไขว่คว้าหาความสำเร็จด้วยการทุ่มเททำงานท่ามกลางทุกอย่างที่เร่งรีบและข้อมูลข่าวสารที่ท่วมท้น เป็นเรื่องปกติไปแล้วในโลกยุคปัจจุบัน

แต่เมื่อประสบความสำเร็จแล้วก็ควรให้ตัวเองได้พักบ้าง ไม่ใช่หาอะไรมาทำให้ยุ่งให้ยิ่งเครียดอีก จริงอยู่ที่เงินและความสำเร็จทำให้เรามีชีวิตหรูหราได้

แต่อยากให้มองว่า การได้พักนั่งปล่อยตัวปล่อยใจไปกับแค่การจิบกาแฟก็เป็นสิ่งหรูหรา หรือการนั่งเฉยๆ ไม่ทำอะไรหรือพักผ่อนบ้างก็หรูหราเหมือนกัน เพราะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ มีคุณค่าและจำเป็นต่อชีวิตเช่นกัน/cnn, koreanet, koreatimes, spaceoutcompetion


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer