สิงห์ เอสเตท จะทำอย่างไรเพื่อสร้างรายได้ All Time High ในปี 2024
ผลงานไตรมาส 1 ที่ผ่านมา สิงห์ เอสเตท (SET: S) อสังหาริมทรัพย์แถวหน้าของไทย กวาดรายได้ 4,034 ล้านบาท เติบโต 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิเติบโตมากถึง 46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สอดคล้องตามแผนกลยุทธ์ Go Beyond Dream ที่ตั้งไว้
โดยในปี 2024 นี้ ยังคงเดินหน้ามุ่งสู่การเป็น “นักพัฒนา” ผ่านการลงทุนและสร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ภายใต้ปรัชญา “Go Beyond Dreams” สร้างซินเนอร์จีธุรกิจภายในเครือ ผนึกกำลังพันธมิตรทั้งการลงทุนและพัฒนาร่วมกัน พร้อมชูกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน โดยตั้งเป้ารายได้โต 20% เพื่อมุ่งสู่ New All Time High ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท
Go Beyond Dreams ก้าวสู่ 18,000 ล้านบาท
สิ่งที่จะทำให้เป้าหมายของ สิงห์ เอสเตท สำเร็จได้ คือแนวคิด Go Beyond Dream ที่ประกอบไปด้วยทั้ง 3 แกนหลักคือ
- Go Expertise การซินเนอร์จีจากความชำนาญของทีมระหว่าง 4 กลุ่มธุรกิจ โดยดึงเอาจุดแข็งและความชำนาญที่แตกต่างและโดดเด่นของแต่ละธุรกิจเพื่อเกื้อหนุนกันและกัน เพื่อการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและส่งมอบคุณค่าแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
- Go Elixir การผนึกกำลังกับพันธมิตรใหม่ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก
- GoExceed, Go Exist ความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความสมดุลของธุรกิจทั้งกับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม

ขยายพอร์ตโฟลิโอโรงแรมและรีสอร์ต เกมรุกสำคัญมุ่งสู่ Go Beyond Dreams
Movement ที่น่าจับตาและเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ สิงห์ เอสเตท เดินหน้าสู่ผลลัพธ์จาก Go Beyond Dreams ได้ คือการเดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอโรงแรมและรีสอร์ตในหลาย ๆ ประเทศ เพื่อรับ Hight demand ตลาดท่องเที่ยว ภายใต้การดำเนินงานของ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (หรือ SHR) บริษัทในเครือสิงห์ เอสเตท ที่ล่าสุดเปิดตัว “โซ/มัลดีฟส์” (SO/Maldives) Hidden Gems แห่ง CROSSROADS Maldives
ก่อนเจาะลึกการขยายพอร์ต เล่าแผนงานของกลุ่มธุรกิจโรงแรมให้ฟังคร่าว ๆ ก่อนว่า ในปีนี้ SHR มีแผนเดินหน้าปรับปรุงโรงแรมตามแผนการยกระดับพอร์ตโฟลิโออย่างต่อเนื่อง จำนวน 5 โรงแรมในเครือที่ประเทศไทยและต่างประเทศ โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มอัตราเฉลี่ยต่อห้องต่อคืน (RevPAR) ได้มากกว่า 25%
เมื่อรวมกับแผนการเสริมการให้บริการด้านอื่น ๆ ให้สอดคล้องกับการยกระดับห้องพักที่จะสร้างรายได้เพิ่มเติม นอกเหนือจากรายได้การเข้าพัก (Non-Room Revenue) จากการใช้จ่ายต่อคนในการใช้บริการ ภายในโรงแรมเพิ่มขึ้นอีก 15% แล้วจะทำให้ SHR รับรู้รายได้จากช่องทางอื่น ๆ มาเสริมรายได้ให้แข็งแกร่งขึ้น
ประกอบกับการหมุนเวียนสินทรัพย์ (Asset Rotation) ปัจจัยสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งด้านผลประกอบการ โดยมุ่งเน้นไปที่สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง รวมถึงการมองหาโอกาสในการควบรวมกิจการของธุรกิจที่ทำให้เกิดโอกาสรับรู้รายได้ทันทีและต่อเนื่องเพิ่มขึ้น
สำหรับการขยายพอร์ตโฟลิโอโรงแรมคือหนึ่งในแผน Business Direction 2024
โดยเฉพาะทําเลยุทธศาสตร์อย่าง ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ (CROSSROADS Maldives) ที่ตอบโจทย์กลยุทธ์ธุรกิจโรงแรม Hight Return Focus มุ่งเน้นไปที่สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง

ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ เปิดตัวครั้งแรกในเดือนกันยายน 2562 ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ได้มากกว่า 211,300 ราย ถือเป็นโครงการที่สำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมัลดีฟส์ ประกอบด้วยรีสอร์ต 3 แห่ง คือ
- “ทราย ลากูน มัลดีฟส์, คูริโอ คอลเลคชั่น บาย ฮิลตัน” (SAii Lagoon Maldives, Curio Collection by Hilton) ขึ้นชื่อว่าเป็นสวรรค์แห่งการพักผ่อนสำหรับคู่รัก ครอบครัว และกลุ่มเพื่อนที่มองหาความเงียบสงบ และกิจกรรมสนุก ๆ มากมาย
- “ฮาร์ดร็อค โฮเทล มัลดีฟส์” (Hard Rock Hotel Maldives) รีสอร์ตที่ได้รับแรงบันดาลใจที่มาจากวัฒนธรรมท้องถิ่น รวมไปถึงกลิ่นอายดนตรีแบบต้นตำรับ อันเป็นเอกลักษณ์ที่ยากจะลืมเลือน
- ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง “โซ/มัลดีฟส์” (SO/Maldives) รีสอร์ตระดับไฮเอนด์บนเกาะส่วนตัว เป็นสวรรค์ของนักเดินทางผู้หลงใหลในแฟชั่นและศิลปะ

ความที่รีสอร์ตทั้ง 3 สไตล์นี้เชื่อมต่อกับ “เดอะมาริน่า แอท ครอสโร้ดส์” (The Marina @ CROSSROADS) ศูนย์รวมกิจกรรมอันหลากหลายของ ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ ตั้งแต่ทางเดินบนชายหาดยาวกว่า 800 เมตร เรียงรายไปด้วยร้านอาหารนานาชาติ บาร์ บีชคลับ ร้านค้าบูติก ศูนย์สุขภาพและสปา กีฬาทางน้ำ ศูนย์ดำน้ำลึกและดำน้ำตื้น คิดส์คลับ รวมถึงท่าจอดเรือยอชต์ 30 ลำ ไปจนถึงศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรม (Maldives Discovery Centre) และศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล (Marine Discovery Centre) ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายและครบครัน ทำให้ ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ เป็น Destination ที่เปรียบได้กับสวรรค์ของนักเดินทาง

“โซ/มัลดีฟส์” จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของ ของ “ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์”

โฟกัสที่กลุ่มธุรกิจโรงแรมอีกนิด การเปิดตัว “โซ/มัลดีฟส์” (SO/Maldives) โรงแรมไลฟ์สไตล์หรูระดับ 5 ดาว ที่ถือเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่จะช่วยเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนของโครงการครอสโรดส์ มัลดีฟส์ (CROSSROADS Maldives) หนึ่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่งในเครือสิงห์ เอสเตท ด้วยการยกระดับ“โซ/มัลดีฟส์ สู่ “อัญมณีแห่งมหาสมุทรอินเดีย”
โซ/มัลดีฟส์ คือรีสอร์ตแห่งที่ 3 ของอาณาจักร “ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์” (CROSSROADS Maldives) และเป็นโครงการร่วมทุนมูลค่ากว่า 60 ล้านดอลลาร์ ของ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) และ Wai Eco World Developer (WEWD) กลุ่มธุรกิจชั้นนำ ดำเนินงานโดย เอนนิสมอร์ (Ennismore) บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการที่มีคอนเซ็ปต์สุดสร้างสรรค์ และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Accor เครือโรงแรมระดับโลก เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ด้วยความโดดเด่นของการเป็นรีสอร์ตแห่งใหม่สไตล์ “Island Couture” ที่มอบประสบการณ์โมเดิร์นไลฟ์สไตล์ ทำให้ที่นี่กลายเป็นสวรรค์ของนักเดินทางผู้หลงใหลในแฟชั่น ศิลปะ ที่สำคัญคือตอบโจทย์นักเดินทางรุ่นใหม่
รีสอร์ตแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่มีบทบาทสำคัญในการเติบโตของผลการดำเนินงานและการเงินของ SHR นั่นเพราะเพียง 4 เดือนหลังจากเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการ (soft opening) โซ/มัลดีฟส์ มีจำนวนผู้เข้าพักเพิ่มขึ้นเกือบ 60% ในเดือนกุมภาพันธ์ และคาดว่าอัตราค่าห้องพักรายวันเฉลี่ย (ADR) ในปี 2567 นี้ จะอยู่ประมาณ 750-850 ดอลลาร์ ส่งผลให้ ADR สำหรับกลุ่มโรงแรมในมัลดีฟส์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 15-20% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับปี 2566 เป็นไปตามกลยุทธ์การดำเนินงานที่กำหนดไว้ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตอกย้ำ SHR เรื่องศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดย RevPAR คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 25% ในปี 2567

สรุปได้ว่า การเปิดตัวครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ จะช่วยเพิ่มความหลากหลายของกลุ่มลูกค้าโรงแรมในเครือสิงห์ เอสเตท และเสริมแกร่งพอร์ตโฟลิโอโรงแรมที่ตั้งอยู่ในทําเลยุทธศาสตร์ตามแผนกลยุทธ์การเติบโต Hight Return Focus มุ่งเน้นไปที่สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง
นอกจากกลุ่มธุรกิจโรงแรมแล้ว มาดูกันว่า อีก 3 กลุ่มธุรกิจของ สิงห์ เอสเตท (S) มีแผนกลยุทธ์อย่างไร

กลุ่มธุรกิจที่พักอาศัย
ในปี 2567 นี้ สิงห์ เอสเตท เตรียมต่อยอดความสำเร็จโครงการบ้านแนวราบที่มีครบทุกเซกเมนต์ลักชัวรีตามแผนงาน และยังคงไว้ซึ่งการถ่ายทอด DNA ที่ยึดถือในการพัฒนาโครงการให้ได้คุณภาพระดับ “Best in Class” ด้วยอัตลักษณ์ในแบบฉบับของสิงห์ เอสเตท ซึ่งไม่เพียงมุ่งเน้นสร้างบ้านที่เป็นที่พักอาศัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเท่านั้น แต่ต้องเป็นที่พักอาศัยที่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ผู้เป็นเจ้าของอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนในที่ดินทำเลศักยภาพที่รองรับการพัฒนาสำหรับโครงการที่จะเกิดขึ้นระยะ 3-5 ปีต่อจากนี้ ที่สำคัญยังคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากยอดโอนเพิ่มขึ้นอีก 50% ในปีนี้

กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า
ยังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์โมเดลธุรกิจที่มีความยืดหยุ่นทั้งพื้นที่และรูปแบบการเช่า ควบคู่ไปกับการชูจุดเด่นด้านที่ตั้งของโครงการต่าง ๆ ในเครือ ซึ่งจะทำให้มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยของอาคารสำนักงานในเครือที่มากกว่าในช่วงปี 2562 ด้วยอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย 85% ในทุกโครงการที่ดำเนินการมาก่อนหน้านี้

และกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน
มีการตั้งเป้ายอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง อยู่ที่ 40% ของพื้นที่ขายรวม โดยใช้ทำเลยุทธศาสตร์ที่เป็นจุดศูนย์กลางระหว่างแหล่งวัตถุดิบและเส้นทางการขนส่ง ความพร้อมด้านระบบสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้ากว่า 400 MW และแหล่งน้ำสะอาด ที่เป็นที่ต้องการของเทรนด์อุตสาหกรรมสมัยใหม่เช่น เซมิคอนดักเตอร์ หรือดาต้าเซ็นเตอร์ และความร่วมมือกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เป็นแรงหนุนสำคัญในการทำให้สำเร็จตามเป้าหมาย

มุ่งสู่ Carbon Neutrality
นอกจากการสร้างรายได้และการเติบโต อีกหนึ่งมิติสำคัญที่ สิงห์ เอสเตท ทำไปพร้อม ๆ กัน นั่นคือ ความสมดุลของธุรกิจทั้งกับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม อย่างเช่นมุ่งสู่องค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Carbon Neutrality เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
รวมถึงการให้ความสำคัญของพื้นที่ความหลากหลายทางชีวภาพทั้งทางบกและทางน้ำ โดยตั้งเป้าขยายพื้นที่ความหลากหลายทางทะเลถึง 30% โดยที่ CROSSROADS Maldives ได้มีการกำหนดพื้นที่อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญ
นอกจากนี้ ยังมุ่งเป็นศูนย์กลางในการสร้างสังคมคุณภาพ ผ่านโครงการต่าง ๆ ถึงกว่า 30 โครงการ โดยมีผู้คนที่เกี่ยวข้องและได้รับประโยชน์ร่วมกันเป็นจำนวนมากกว่า 100,000 คน ครอบคลุมพื้นที่การดำเนินงาน 5 ประเทศในทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ประเทศไทย สาธารณรัฐมัลดีฟส์ สาธารณรัฐมอริเชียส สหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ
นับเป็นการก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ที่มาพร้อมกับเป้าหมายที่ท้าทายจากสถานการณ์โลกในปัจจุบัน แต่ด้วยศักยภาพของ สิงห์ เอสเตท ที่มีในมือ การปรับตัวที่มองอุปสรรคให้เป็นโอกาส
พร้อมด้วยกลยุทธ์ “Go Beyond Dreams” และการจับมือร่วมกับพาร์ตเนอร์ระดับโลก เชื่อว่าจะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนมากขึ้น เตรียมสร้างรายได้สู่ All Time High พร้อมสร้างความตื่นเต้นให้กับทุกคนได้ในปี 2567 อย่างแน่นอน และจะมีโปรเจกต์ใหม่อะไรอีกบ้าง ต้องมาติดตามกัน!
อัปเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website: Marketeeronline.co/Facebook: www.facebook.com/
–

