บ้านทองหยอด ไม่ได้เก่งแค่สร้างนักแบดฯ ระดับโลก วันนี้ยอดขายขนมสูงกว่า 200 ล้านบาทแล้ว
นึกถึงนักแบดมินตันระดับโลกต้อง “โรงเรียนบ้านทองหยอด”
หิวขนมไทยก็ต้องแบรนด์ “ขนมไทยบ้านทองหยอด” ที่วันนี้ยอดขายสูงกว่า 200 ล้านบาท
ทั้งทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง และเม็ดขนุน ที่หาซื้อได้ง่าย ๆ ในเซเว่น อีเลฟเว่น คือรายได้ส่วนหนึ่งที่ทำให้เราได้มีนักกีฬาแบดมินตันระดับแชมป์โลก เช่น “เมย์” รัชนก อินทนนท์ และ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์
ปี 2566 ขนมไทยบ้านทองหยอด ทำรายได้สูงถึง 204 ล้านบาท เป็นรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2562 ที่มีตัวเลขยอดขายที่ 112 ล้านบาท
จากโรงงานผลิตขนม กลายเป็นโรงเรียนผลิตนักแบดระดับโลก
ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2520 แบรนด์นี้เริ่มต้นจากธุรกิจในครอบครัวเล็ก ๆ ของ “แม่ปุก” กมลา ทองกร ที่ได้สูตรจากผู้เป็นแม่มาทำขายในตลาด ก่อนขยายกิจการใหญ่ขึ้นจนสามารถสร้างโรงงานผลิตขนมได้
เพราะความชื่นชอบในกีฬาแบดมินตัน แม่ปุกก็เลยสร้างสนามแบดมินตันให้ลูก ๆ และคนงานได้เล่นในพื้นที่โรงงานทำขนมที่บ้าน
รัชนก ก็คือหนึ่งในลูกสาวคนงานที่ได้ใช้สนามนี้มาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ
ปี 2534 ได้ตั้งชมรมแบดมินตันบ้านทองหยอด ปี 2546 ตั้ง “โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด” เพราะความตั้งใจจริงของแม่ปุกทำให้ได้ผลิตนักแบดมินตันฝีมือดีให้เกิดขึ้นในวงการอย่างต่อเนื่อง
ภัททพล เงินศรีสุข “โค้ชเป้” คือลูกชายคนโตของเธอที่ติดทีมชาติตั้งแต่อายุ 14 ปี
ในขณะที่แม่ซึ่งเคยมีหน้าที่รับผิดชอบด้านการขายขนมหวานกลับลงไปทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับกีฬาแบดมินตันอย่างสุดตัว ส่วนพี่ชายคนโตก็กำลังไปได้ดีในเส้นทางของนักแบดมินตันอาชีพ
ภาณุวัฒก์ เงินศรีสุข น้องชายของโค้ชเป้ จึงต้องยอมวางไม้แบดมินตันเพื่อเข้ามารับช่วงบริหารกิจการของขนมบ้านทองหยอดต่อไป
ในช่วงแรก ๆ ของการเข้ามาทำหน้าที่นั้นยอดขายกำลังลดลงอย่างหนัก การตั้งราคาที่สูงกว่าคู่แข่งด้วยความคิดที่ว่า ของดี ราคาสูงหน่อย ลูกค้าก็ซื้อเอง อย่างที่ทำมาตลอดใช้ไม่ได้อีกต่อไป เพราะในตลาดแบบนี้ของไม่ต้องมีคุณภาพสูงมากและราคาลงมาหน่อยต่างหากถึงจะอยู่ได้
การปรับตัวโดยคุมเรื่องต้นทุน ตั้งราคาใหม่เพื่อให้ยอดขายกลับมา พร้อม ๆ การมองหาช่องทางการตลาดใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายก็เลยเกิดขึ้น
ในปี 2560 บ้านทองหยอดได้รับโอกาสให้นำขนมไทยบรรจุกล่อง ประกอบด้วยขนม 3 ชนิด ได้แก่ ทองหยอด ฝอยทอง และเม็ดขนุน มาจำหน่ายที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในพื้นที่ภาคใต้เป็นครั้งแรก และขยายไปเกือบทั่วประเทศในเวลาต่อมา
นอกจากเซเว่น อีเลฟเว่น วันนี้ขนมบ้านทองหยอดยังมีช่องทางขายใหม่ ๆ เช่น ขายแบบ B2B กับขนมฝอยทอง ที่ผู้ประกอบการเบเกอรี่ต่าง ๆ สามารถเอาไปทำไส้ขนมปัง หน้าเค้ก หรือไส้ขนมเปี๊ยะ
และขายผ่านช่องทางออนไลน์อื่น ๆ เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ ไลฟ์สดผ่าน TikTok รวมถึงออนไลน์มาร์เก็ตเพลส ช้อปปี้ ลาซาด้า พร้อม ๆ กับปรับสูตรใหม่ ๆ เช่น ขนมไทยสูตรไม่มีน้ำตาล เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์รักษาสุขภาพของลูกค้า
หรือไปทางสายมู เช่น แคมเปญ ทานขนมไทย เสริมสิริมงคล
สำหรับรายได้ของ บริษัท บีทีวาย ฟู้ด จำกัด เจ้าของแบรนด์ขนมหวานบ้านทองหยอดนั้นรายได้แตะหลักร้อยล้านมานานหลายปี
รายได้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2564-2566) คือ 143 ล้าน 173 ล้าน และ 204 ล้านบาท ตามลำดับ กำไร 4.6 ล้าน 4.7 ล้าน และ 5.2 ล้าน ตามลำดับ (ตัวเลขจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์)
แบรนด์อื่นอาจจะต้องจ้าง “เมย์” หรือ “วิว” ไปเป็นพรีเซนเตอร์ แต่แบรนด์ ขนมไทย บ้านทองหยอด คงได้นักกีฬาดังระดับโลก 2 คนนี้เป็นพรีเซนเตอร์ฟรี ๆ แน่นอน
ก็เขาเป็นคนบ้านเดียวกัน “บ้านทองหยอด”
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
