เป้าหมายใหญ่ของ ‘Llama’ AI ของ Meta คือการทำให้ “ปัญญาประดิษฐ์เข้าถึงได้ทุกคน” ด้วยแนวทางการพัฒนาแบบ “โอเพนซอร์ส” เพื่อให้เป็นมิตรต่อนักพัฒนา สามารถนำไปใช้งานต่อ หรือต่อยอดธุรกิจได้
เเล้วมีอะไรใหม่ใน Llama 3.1 ที่อัปเดตมาล่าสุด
- เพิ่มประสิทธิภาพ: ‘Llama’ โอเพนซอร์ส AI แบบ Large Language Mode ที่มีประสิทธิภาพทำงานได้ไม่เเพ้ AI ระบบปิดชั้นนำทั้งหมด
- เพิ่มภาษาที่รองรับ: เพิ่มภาษาที่ให้บริการ 8 ภาษา อังกฤษ, เยอรมัน, ฝรั่งเศส, อิตาลี, โปรตุเกส, ฮินดี, สเปน รวมถึง “ภาษาไทย”
- ปรับปรุงความสามารถในการสนทนา: ขยายการรองรับความยาวเนื้อหามากถึง 128k ช่วยให้การโต้ตอบมีความหลากหลายมากขึ้น
- ให้เหตุผลได้น่าเชื่อถือมากขึ้น: จัดการกับงานที่ซับซ้อนด้วยความสามารถในการใช้เหตุผล (Reasoning) ที่ดีขึ้น
- การปรับปรุงระบบการทำงาน: รองรับการสร้างข้อมูลสังเคราะห์และการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างโมเดล (Model distillation)
- AI ที่มีความรับผิดชอบ: องค์ประกอบด้านความปลอดภัยในระบบแบบใหม่ ช่วยให้เกิดการใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบ
- อีโคซิสเต็มที่เติบโต: พันธมิตรมากกว่า 30 รายมุ่งมั่นสนับสนุนการพัฒนา Llama 3.1 ตั้งแต่เริ่มต้น
“หลังจาก Meta ได้เปิดตัวโมเดล Llama รุ่นแรกเมื่อปีที่แล้ว มียอดดาวน์โหลดรวมกว่า 300 ล้านครั้ง และมีการพัฒนาโมเดลต่อยอดกว่า 20,000 โมเดลสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย”

เหตุผลที่ทำไมถึงมี “ภาษาไทย” อยู่ใน 9 ภาษาแรก ๆ ที่ Llama มุ่งพัฒนา
ราฟาเอล แฟรงเคิล ผู้อำนวยการฝ่
ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นร้านขายสินค้าแฟชั่นเล็ก ๆ บนออนไลน์ก็สามารถนำเอา AI โอเพนซอร์ส แบบ Large Language Model ไปพัฒนาแชตบอต เพื่อคอยตอบลูกค้า หรือตอบข้อมูลต่าง ๆ ให้กับคนที่สนใจเข้ามาสั่งซื้อสินค้าได้แบบอัตโนมัติ
เเละ “ประเทศไทย” ยังเป็นประเทศที่มีธุรกิจขนาดเล็ก SME จำนวนมาก มีธุรกิจที่น่าสนใจเต็มไปหมด ทั้งในภาพท่องเที่ยว ธุรกิจอาหาร แฟชั่น รวมถึงในประเทศไทยก็มีนักพัฒนาที่ Meta เชื่อมั่นว่าจะสามารถนำ Llama และ AI โอเพนซอร์ส แบบ Large Language Model นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้

- ความคิดสร้างสรรค์: ฟีเจอร์ “Imagine Yourself” จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ใช้ได้ปลดปล่อยจินตนาการของตนเอง ด้วยการสร้างรูปภาพตนเองขึ้นมาใหม่ได้ในทุกสถานการณ์ เครื่องมือแก้ไข AI ใหม่เหล่านี้ จะช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งรูปภาพที่ Meta AI สร้างขึ้นได้อย่างละเอียด ทำให้ผู้ใช้สามารถเพิ่ม ลบ หรือเปลี่ยนองค์ประกอบในรูปได้ตามที่ต้องการ
- ความชาญฉลาดในการประมวลผล: Meta AI ช่วยให้ผู้ใช้รับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย โดยจะได้รับผลลัพธ์หรือคำตอบที่แม่นยำขึ้นสำหรับปัญหาที่มีความซับซ้อน โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ หรือการเขียนโค้ด รวมถึงจะได้รับประสบการณ์ AI ที่ดีขึ้น โดยมีการอัปเดตอย่างต่อเนื่องจากความคิดเห็นของผู้ใช้งาน
- การเข้าถึง: ขณะนี้ Meta กำลังนำ Meta AI เข้าไปใช้ในผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของ Meta เช่น WhatsApp, Facebook และอีกมากมาย การเพิ่มภาษาที่ให้บริการนั้นยังช่วยให้ Meta AI เข้าถึงผู้ใช้ได้มากขึ้น โดยโมเดลแบบโอเพนซอร์สของ Llama จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถปรับแต่งและฝึกฝนโมเดลของตนเอง รวมถึงรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และช่วยพัฒนาระบบให้แข็งแกร่งได้ ทั้งนี้ ทีม Meta กำลังเร่งการทำงานขยายฟีเจอร์ให้ใช้ในหลากหลายภูมิภาคต่อไป
นักพัฒนาสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์นี้เพื่อเข้าถึงการใช้งาน Llama ได้ที่ https://llama.meta.com/
ปลดล็อกโอกาสด้าน AI สำหรับธุรกิจและชุมชนนักพัฒนาในประเทศไทย
นอกจาก Llama AI จะเพิ่มการรองรับภาษาไทยแล้ว Meta ยังจะจัดการอบรมและโครงการต่าง ๆ เพิ่มเติมและให้ทุนสนับสนุนมูลค่ารวม 2 พันล้านดอลลาร์ สำหรับนักพัฒนาและองค์กรทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย
1. ทุนสนับสนุน Llama 3.1 Impact Grants จาก Meta
ทุนสนับสนุน Llama Impact Grants ของ Meta เป็นโปรแกรมระดับโลกที่เปิดรับข้อเสนอโครงการ ที่ใช้ Llama AI และฟีเจอร์อื่นๆ ในโมเดล เพื่อเสริมสร้างผลกระทบทางสังคมและเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาความท้าทายต่าง ๆ ทั่วโลก โดยมุ่งเน้นด้านการศึกษา สิ่งแวดล้อม และนวัตกรรมแบบเปิด (Open Innovation)
Meta เปิดรับสมัครสำหรับทุนสนับสนุน Llama 3.1 Impact Grants ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป องค์กรที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์สามารถส่งข้อเสนอโครงการที่เล่าถึงการใช้ Llama 3.1 ในการแก้ไขปัญหาสังคมในชุมชนของตน โดยผู้ชนะที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับเงินทุนสนับสนุนโครงการสูงสุดถึง 500,000 ดอลลาร์ การประกาศผู้ชนะคาดว่าจะมีขึ้นในช่วงต้นปี พ.ศ. 2568
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมทุนสนับสนุน Llama 3.1 Impact Grants ได้ที่นี่ และสมัครเข้าร่วมได้แล้ววันนี้
2. โครงการ AI Accelerator Program สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
Meta จะจัดโครงการในระดับภูมิภาคเพื่อให้ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ และโอกาสในการสร้างเครือข่ายสำหรับนักพัฒนา AI ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
หนึ่งในกิจกรรมอีกมากมายที่จะจัดขึ้นคือโครงการ AI Accelerator Program สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับภูมิภาคที่นักพัฒนา Llama จะส่งข้อเสนอโครงการที่แสดงให้เห็นว่า Llama AI สามารถใช้แก้ไขปัญหาสังคมในประเทศของตนได้อย่างไร ผู้ชนะจะได้เป็นตัวแทนประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน Hackathon ออนไลน์ในสิงคโปร์ เพื่อชิงทุนพิเศษสูงสุด 100,000 ดอลลาร์เพื่อสนับสนุนโครงการ โดยโครงการที่มีศักยภาพสูงสุดจะได้รับการพิจารณาให้ได้รับรางวัลพิเศษมูลค่าถึง 500,000 ดอลลาร์
ในประเทศไทย Meta ได้ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) AI Governance Clinic และสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AIAT) เพื่อจัดการแข่งขันและคัดเลือกผู้ชนะระดับประเทศจำนวนหนึ่งรายเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันระดับภูมิภาคในสิงคโปร์
3. หลักสูตร AI สำหรับ SMEs ในประเทศไทย
Meta ยังได้ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อเปิดหลักสูตรการตลาดด้วย AI สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย เพื่อเสริมสร้างทักษะและความรู้ในการใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อการเติบโตทางธุรกิจ
นอกจากนี้ Meta จะจัดงานสัมมนาด้านการตลาด Meta Marketing Summit ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม โดยจะเชิญผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมกว่า 800 รายเข้าร่วมงานเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือและบริการด้าน AI ของ Meta
–
