เงินติดล้อ ปรับเป้า “กลุ่มธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ” สินเชื่อใหม่ปีนี้เติบโต 10-15% ประกาศปรับโครงสร้างบริษัทสู่ “ติดล้อ โฮลดิ้งส์” ปลดล็อกศักยภาพ “กลุ่มธุรกิจนายหน้าประกัน” สร้างการแบ่งแยกเพื่อบริหารและจำกัดความเสี่ยงของสองกลุ่มที่มีลักษณะต่างกันให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

คุณปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) (“TIDLOR” หรือ “บริษัทฯ”) กล่าวว่า การดำเนินงานของบริษัท “ธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ” ซึ่งเป็นคอร์บิสิเนสมีการเติบโตต่อเนื่อง ปัจจุบันมียอดสินเชื่อคงค้างมากกว่า 100,000 ล้านบาท และถือเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถแล้ว

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับเป้าการขยายสินเชื่อใหม่ในปี 2567 อยู่ที่ 10-15% ต่ำกว่าเป้าเดิมที่ 10-20% เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังผันผวน หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง บริษัทจะเน้นรักษาหนี้ที่มิก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปีนี้ ไม่เกิน 2% โดยไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 1.8%

ช่วงที่ตลาดสินเชื่อทะเบียนรถ ชะลอตัว บริษัทยังมีที่มารายได้จาก “ธุรกิจนายหน้าประกัน” ทำให้ยังสามารถสร้างความมั่นคงให้กับบริษัทได้ต่อเนื่อง ปัจจุบันสัดส่วนรายได้กลุ่มธุรกิจดังกล่าว อยู่ที่ 10% บริษัทตั้งเป้าให้ขยายตัวสู่ 20% ภายใน 3 ปี

การดำเนินธุรกิจนายหน้าประกัน บริษัทได้บุกเบิกธุรกิจในรูปแบบบริการผ่อนเบี้ยประกันรถยนต์ด้วยเงินสด 0% ซึ่งในเวลาต่อมากลายเป็นหนึ่งในมาตรฐานและบริการที่ธุรกิจนายหน้าประกันทั่วไป หันมานำเสนอบริการในรูปแบบดังกล่าวให้กับลูกค้าของตัวเองในวงกว้าง

บริษัทมีสัดส่วนธุรกรรมจากลูกค้าที่ซื้อประกันสูงกว่าการขอสินเชื่อราว 3 เท่า และ 9 ใน 10 ของกรมธรรม์ที่ขาย เป็นการขายให้แก่ลูกค้าที่เจาะจงเข้ามาซื้อประกันโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นลูกค้าคนละกลุ่มกับลูกค้าสินเชื่อ

ช่วง 6 ปี ที่ผ่านมา ธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยของบริษัท มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 47.3% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมธุรกิจประกันวินาศภัยที่เติบโตเฉลี่ยเพียง 4.5% ต่อปี

ช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค. – มิ.ย.) ปี 2567 บริษัทมียอดเบี้ยประกันวินาศภัยรวมมูลค่า 4,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตั้งเป้าทั้งปี เติบโตประมาณ 20%

บริษัทได้สร้าง พัฒนา และใช้เทคโนโลยีด้านประกัน มามากกว่า 10 ปี เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและเข้าถึงได้ง่าย รวมถึงมีช่องทางการขายและให้บริการที่ครอบคลุม ทั้งในรูปแบบ Face to Face ผ่านช่องทางสาขาเงินติดล้อทั่วประเทศ ผสมผสานเข้ากับการใช้เทคโนโลยีด้านนายหน้าประกันภัย (InsurTech Platform)

บริษัทมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผ่านการนำเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันได้ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้า ภายใต้แบรนด์ต่าง ๆ ดังนี้

1. แบรนด์ “ประกันติดโล่” (ชื่อเดิม ประกันติดล้อ) ธุรกิจนายหน้าประกันในรูปแบบ Face to Face รองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้ารายย่อย ที่ต้องการคำแนะนำอย่างใกล้ชิดจากนายหน้ามืออาชีพได้เป็นอย่างดี ผ่านนายหน้าผู้เชี่ยวชาญกว่า 5,000 คน จากช่องทางสาขามากกว่า 1,700 แห่งทั่วประเทศ นำเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันที่ครอบคลุมทั้ง รถยนต์ คน และบ้าน จากบริษัทประกันพันธมิตรชั้นนำมากกว่า 15 แห่ง พร้อมทางเลือกการผ่อนค่าเบี้ยประกันด้วยเงินสด 0%

2. แบรนด์ “อารีเกเตอร์” (Areegator) แพลตฟอร์มเสนอขายประกันออนไลน์ ผ่านสมาชิกตัวแทนนายหน้าประกัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “จริงใจ เข้าใจ เติบโตไปพร้อมกัน” ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้เทคโนโลยีประกันภัย (Insurtech) เข้ามาช่วยสนับสนุนสมาชิก ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 9,000 คน และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ให้สามารถเข้าถึงระบบบริหารจัดการงานขายประกันที่สะดวก และผลิตภัณฑ์ประกันที่หลากหลาย นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันครอบคลุมทั้ง รถยนต์ คน และบ้าน จากบริษัทประกันพันธมิตรชั้นนำมากกว่า 15 แห่ง โดยไม่ต้องมีเงินทุนตั้งต้น รวมถึงยังสามารถนำเสนอบริการผ่อนเบี้ยประกันด้วยเงินสด 0% ให้กับลูกค้าได้ โดยไม่ต้องสำรองเงินของตัวเอง

นอกจากนี้ ยังมีจุดแข็งจากการเปิดโอกาสให้สมาชิกสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการแนะนำสินเชื่อทะเบียนรถให้กับลูกค้าที่อยู่ในละแวกชุมชนของตัวเองได้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นการผสมผสานทั้งธุรกิจสินเชื่อและนายหน้าประกันเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

ทั้งนี้ “อารีเกเตอร์” ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Software-as-a-Service (SaaS) ถือเป็นแพลตฟอร์มเสนอขายประกันออนไลน์ ที่ให้บริการผ่านสมาชิกนายหน้าประกันภัย หรือนักขายอิสระ เพื่อขยายตลาดลงลึกเข้าไปในระดับชุมชนขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

3. แบรนด์ “เฮ้กู๊ดดี้” (heygoody) คือแพลตฟอร์มนายหน้าประกันดิจิทัลโดยเฉพาะ ที่สร้างขึ้นเพื่อกลุ่มลูกค้าประกันรายย่อยที่ไม่ชอบการถูกรบกวนทางโทรศัพท์ และต้องการเลือกซื้อประกันด้วยตัวเองผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรับความคุ้มครองทันที โดยลูกค้าสามารถเปรียบเทียบเบี้ยและเงื่อนไขการรับประกันได้ด้วยตัวเองจากบริษัทประกันพันธมิตรชั้นนำมากกว่า 15 แห่ง พร้อมทางเลือกในการชำระค่าเบี้ยด้วยการผ่อนเงินสดพร้อมดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 10 เดือน มีทั้งแบบผ่อนเท่ากันทุกเดือน หรือผ่อนสดงวดแรกเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท

นอกจากนี้ ยังสามารถผ่อนค่าเบี้ยประกันด้วยบัตรเครดิตได้อีกด้วย เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองที่ตรงใจ ราคาเหมาะสม และสะดวกสบาย รวมถึงมีการออกแบบ Platform ที่ใช้งานง่าย (User Friendly) เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจเงื่อนไขความคุ้มครองต่าง ๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น

ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นจากความเข้าใจกลุ่มลูกค้า รวมถึงการสร้างและพัฒนาเทคโนโลยีด้านนายหน้าที่มีอยู่ก่อนหน้าแล้ว จึงทำให้บริษัทสามารถนำมาต่อยอดพัฒนาขึ้นเป็น heygoody ได้ในระยะเวลาอันสั้น ถือเป็นแพลตฟอร์มนายหน้าประกันดิจิทัลที่ไม่จำเป็นต้องใช้พนักงานขายทางโทรศัพท์ (Telesales)

คุณปิยะศักดิ์ กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจนายหน้าประกันในประเทศไทยมีสัดส่วนการซื้อประกันผ่านช่องทางนายหน้าสูงถึง 73% เมื่อเทียบกับช่องทางอื่น ๆ และยังมีจำนวนนายหน้าประกันอิสระในประเทศไทยมากกว่า 80,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนายหน้ารูปแบบดั้งเดิมที่อาจมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี

ขณะที่ภาพรวมธุรกิจประกันวินาศภัยมียอดเบี้ยประกันรวมในตลาดมูลค่ากว่า 285,000 ล้านบาท แต่บริษัทนายหน้าประกันเจ้าหลัก 10 อันดับแรก มีส่วนแบ่งการตลาดรวมกันเพียง 29% เท่านั้น แสดงให้เห็นว่าธุรกิจนายหน้าประกันยังไม่มีผู้ครอบครองหลัก

นอกจากนี้ ข้อมูลรถยนต์จดทะเบียนในประเทศไทยมีจำนวน 19.8 ล้านคัน แต่มากกว่า 46% ยังไม่ได้ทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโอกาสในการขยายตัวของตลาดได้อีกมาก ผนวกเข้ากับความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันของบริษัท จากการใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนสำคัญในการขยายและสร้างการเติบโต รวมถึงโอกาสทางธุรกิจที่ยังมีอยู่อีกมากในอนาคต

โดยการดำเนินงานของธุรกิจใหม่จากแบรนด์ “อารีเกเตอร์” (Areegator) และแบรนด์ “เฮ้กู๊ดดี้” (heygoody) ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น บริษัทวางแผนจะปรับโครงสร้างพร้อมจัดตั้งบริษัทใหม่ เพื่อปลดล็อกศักยภาพทางธุรกิจนายหน้าประกัน มุ่งสู่ผู้นำด้าน InsurTech Platform ที่จะเข้ามาเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการเติมเต็ม TIDLOR Ecosystem เพื่อสร้างระบบนิเวศด้านการเงินและประกันภัยที่แข็งแกร่งให้กับภาพรวมการดำเนินธุรกิจของบริษัท ด้วยเป้าหมายสูงสุดในการเป็นที่พึ่งทางด้านการเงินและส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงความคุ้มครองด้านประกันภัยได้ทั่วถึง ควบคู่ไปกับการสร้างความแข็งแกร่งให้ภาพรวมธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน

เดือนมิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัทได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM) บริษัทได้มีการสื่อสารเรื่องแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการ โดยได้มีการจัดตั้งบริษัทมหาชนจำกัดแห่งใหม่ คือ บริษัท ติดล้อ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (“ติดล้อ โฮลดิ้งส์”) ซึ่งเป็นบริษัทลงทุน (Holding Company) เพื่อเป็นบริษัทใหญ่ของกลุ่มบริษัท

โดยภายหลังการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการ จะสามารถลดความสับสนของนักลงทุนจากการจ่ายหุ้นปันผล โดยจะเพิ่มความยืดหยุ่นในการจ่ายเงินปันผลในรูปแบบเงินสด รวมถึงการลดความสับสนของนักลงทุนเกี่ยวกับราคาหุ้น (Dilution) และกำไรต่อหุ้น (EPS) ซึ่งถือเป็นการสร้างความมั่นใจในศักยภาพของบริษัทให้กับนักลงทุนได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

ทั้งจะช่วยสร้างการเติบโตในระยะยาว เนื่องจากจะเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจทั้งด้านสินเชื่อและนายหน้าประกัน เพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยเพิ่มโอกาสขยายธุรกิจไปยังธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเพิ่มโอกาสในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจผ่านการควบรวมกิจการหรือการร่วมลงทุนอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการให้มีการจัดตั้งบริษัทใหม่ เพื่อดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยในรูปแบบ InsurTech Platform ในอนาคต โดยบริษัทจะทำการโอนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยในรูปแบบ InsurTech Platform ได้แก่ แบรนด์ “อารีเกเตอร์” (Areegator) และ แบรนด์ “เฮ้กู๊ดดี้” (heygoody) รวมทั้ง ทรัพย์สินอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้แก่บริษัทใหม่ ภายหลังจากที่หุ้นสามัญของ ติดล้อ โฮลดิ้งส์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งหลังจากการโอนธุรกิจที่เกี่ยวข้องดังกล่าวแล้วเสร็จ ติดล้อ โฮลดิ้งส์ จะเข้าซื้อหุ้นของบริษัทใหม่ ในสัดส่วนร้อยละ 99.99

โดยการจัดตั้งบริษัทใหม่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัท ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของโครงสร้างการจัดการองค์กรให้เหมาะสมกับการประกอบธุรกิจของแต่ละธุรกิจ และเพื่อให้มีการแบ่งแยกการกำกับดูแลและการบริหารและจำกัดความเสี่ยงของแต่ละธุรกิจที่มีลักษณะต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

สถานะของการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทเป็น Holding Company ขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการยื่นขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นไปตามกำหนดการที่วางไว้ โดยคาดว่า ติดล้อ โฮลดิ้งส์ จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทฯ (Tender Offer) จากผู้ถือหุ้นเดิมโดยวิธีการแลกหุ้นที่อัตรา 1:1 ในช่วงไตรมาส 4/2567


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer