ลัคกี้ สุกี้ ทำอย่างไรเพียงแค่ 3 ปี แต่มีรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท ท่ามกลางตลาดสุกี้ที่กำลังแข่งเดือด

27 มกราคม 2568 นี้ลัคกี้ สุกี้  มีอายุครบ 3 ปี มีจำนวนทั้งหมด 20 สาขา

จำนวนสาขาของลัคกี้ สุกี้ อาจไม่เร้าใจเท่าผลประกอบการของปี 2567 ที่ผู้บริหารยืนยันกับ Marketeer ว่าทะลุ 1,000 ล้านบาทไปแล้ว

27 มกราคม 2565  ลัคกี้ สุกี้ เปิดตัวสาขาแรกที่อ่อนนุชพลาซ่า ปีแรกจบการขายที่ 79 ล้านบาท กำไร 2.6 ล้านบาท

ปี 2566 รายได้ก้าวกระโดดไปที่ 409 ล้านบาท กำไร 46 ล้านบาท สูงกว่า 1,600%

ย้ำอีกทีปีที่ 3 สร้างรายได้ 1,000 ล้านบาท ส่วนกำไรนั้นเธอบอกว่าวันนี้ตัวเลขยังไม่นิ่งแต่น่าพอใจมาก

ฟังดูเหมือนง่ายมากเลย ตาม Marketeer ไปนั่งคุยกับ รสรินทร์ ติยะวราพรรณ กรรมการบริหาร บริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด 1 ในผู้ก่อตั้งแบรนด์ ลัคกี้ สุกี้ หรือ “พี่แอน” ของพนักงานทุกคนด้วยกัน

เธอบอกว่า  “วันนี้เราเป็นผู้ตามค่ะ  แต่สักวันหนึ่งในอนาคตเราอาจจะเป็นผู้นำก็ได้”

Marketeer นัด รสรินทร์ ติยะวราพรรณ ไว้ที่ ลัคกี้ สุกี้ สาขาแม็คโคร จรัญสนิทวงศ์ พื้นที่ตรงนี้เดิมเป็นที่ตั้งของเอ็มเค สุกี้ แบรนด์สุกี้ยักษ์ใหญ่ของประเทศ ที่ได้ขยับออกไป และลัคกี้ สุกี้เข้ามาแทน

“ตามมาคุยเพราะสงสัยว่า คุณทำได้อย่างไร ตัวเลขยอดขายถึงได้ก้าวกระโดดทุกปี ทั้ง ๆ ที่ธุรกิจหม้อร้อนนี้กำลังแข่งกันเดือด”

และนี่คือคำตอบและเรื่องราวของแบรนด์สุกี้น้องใหม่ที่กำลังมาแรง เชื่อว่าไม่ใช่เฉพาะผู้บริโภคทั่วไปสนใจ แต่กำลังเป็นที่จับตามองของผู้ประกอบการด้วยกัน

เริ่มจากจากแพชชั่นล้วน ๆ กับผองเพื่อน

เพื่อนกลุ่มนี้คือรสรินทร์ ติยะวราพรรณ วิรัตน์ โรจยารุณ รุ่งทิวา วิพัฒนานันทกุล และ อิทธิพล ติยะวราพรรณ ทั้ง 4 คนล้วนมีธุรกิจของตัวเอง หรือทำธุรกิจกับครอบครัวอยู่แล้ว แต่คลิกกันตรงที่สนใจอยากลองหาอาชีพเสริม

ความลงตัวอย่างหนึ่งคือทั้ง 4 คนชอบรับประทานอาหาร รสรินทร์ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนใหญ่ก็เลยเสนอธุรกิจสุกี้ บุฟเฟต์  ซึ่งแม้ว่าจะมีคู่แข่งขันหลายราย แต่กลุ่มตลาดแมสรายได้ปานกลางที่น่าสนใจนั้นมีเจ้าตลาดชัดเจนเพียงรายเดียว

รสรินทร์ อาจจะเป็นน้องใหม่ในวงการของสุกี้ก็จริง แต่ในวงการกาแฟ รู้จักกันดีว่าเธอเป็นเจ้าของ  Rolling Roasters ร้านกาแฟชื่อดังที่มีโรงคั่วอยู่ภายในบนเนื้อที่สองไร่ครึ่งย่านพรานนก ปัจจุบันมีอยู่ 4 สาขา ที่ตอนนี้ให้พี่ชายเป็นผู้บริหาร ส่วนเธอลงมาทุ่มสุดตัวให้กับธุรกิจใหม่

เมื่อตกลงจะทำเรื่องสุกี้ สิ่งแรกคือการหาข้อมูลที่ได้มาจากการนัดเจอกันทุกเย็นแล้วตระเวนกันไปกินสุกี้

“เรา กิน กิน และกินกันเกือบทุกวันตลอดระยะเวลาเป็นเดือน ๆ เลยค่ะ เรียกว่าเกือบทุกแบรนด์ที่มี แบรนด์ไหนมีรสชาติอย่างไร ข้อดีข้อเสียต่าง ๆ ถูกนำมาถกเถียงพูดคุยกันผสมกับอารมณ์ความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบ เทรนด์อาหารควรเป็นแบบไหน ถ้าทำต้องมีอะไรใหม่ ๆ เข้ามาอย่างไร คือสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงต้น”

หน้าที่ของพาร์ตเนอร์แบ่งออกเป็น 3  ส่วนหลัก รสรินทร์ดูเรื่อง Marketing โปรโมชั่นและออนไลน์ วิรัตน์ดูในเรื่องโอเปอเรชันหลังบ้านและ HR ส่วนรุ่งทิวา รับผิดชอบหลักในเรื่องการพัฒนาน้ำจิ้ม ครัวกลาง รวมทั้งเรื่องโลจิสติกส์

มีการพูดคุยกับเพื่อน ๆ ตั้งแต่ในช่วงเริ่มต้นว่าถ้าทำแล้วไม่ดี ไม่ทำ ทำแล้วคนว่า คนวิจารณ์ ไม่เอา ทำแล้วสาขาแรกไม่เวิร์กก็ปิดแยกย้ายกลับไปทำงานหลักเหมือนเดิม เพราะทุกคนไม่ได้มาจากศูนย์ การใช้เงินก้อนใหญ่ประมาณ 25 ล้านบาท มาลงทุนทั้งสาขาและออฟฟิศ เป็นตัวเลขที่สูงก็จริง แต่ทุกคนยังมีงานประจำอื่นรองรับ

แต่ปรากฏว่าสาขาแรกมันเวิร์ก ปีนั้นเลยได้ขยายไป 2 สาขา

การเปิดร้าน “ลัคกี้ สุกี้” ในช่วงปลายวิกฤตโควิด-19 ถือเป็นการตัดสินใจที่มีความกล้าหาญและถูกจังหวะ เมื่อร้านอาหารหลายแห่งต้องปิดตัวลงเนื่องจากขาดทุนอย่างหนักในช่วงเวลานั้น

สาขาแรกที่เปิดในเดือนมกราคม ปี 2565 ที่ People Park คอมมิวนิตี้มอลล์ ย่านอ่อนนุช โดยมีราคาบุฟเฟต์เพียง 219 บาทต่อหัว ซึ่งเป็นราคาที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับลูกค้าทั่วไป และเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนเริ่มกลับมารับประทานอาหารนอกบ้านอีกครั้ง ทำให้วันแรกของการเปิดร้านมีคิวลูกค้าอย่างหนาแน่น

แต่เบื้องหลังทุกอย่างไม่ง่าย

“อุปสรรคแรกคือการหาพื้นที่ค่ะ สุกี้ ลัคกี้ แบรนด์ โนเนมมาจากไหน  จะไว้ใจให้พื้นที่ข้างหน้าได้อย่างไร หาพื้นที่เปิดร้านสาขาแรกยากมาก (เธอลากเสียงยาว)”

โชคดีที่อ่อนนุชสาขาแรก จากพิษโควิดทำให้มีพื้นที่ว่าง ลูกค้าเก่ายังไม่กลับมาเธอเลยได้โอกาส

ในช่วงเดือนแรก ๆ นั้น ทุกคนต้องลงมาลุยงานกันเต็มที่ เรียนรู้และทำความเข้าใจกับขั้นตอนต่าง ๆ ของการทำธุรกิจอาหารตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน รวมทั้งรับมือกับทุกปัญหาที่เกิดขึ้น

“คือในช่วงเวลานั้นไม่รู้ว่าสรรหาคำไหนมาอธิบายความเหนื่อย แม้แต่งานเล็ก ๆ ล้างจาน ทำความสะอาด แคชเชียร์ เป็นงานที่ลงมือทำด้วยตัวเองหมดแล้ว เรียกได้ว่าทำงานวันละเกือบ 24 ชั่วโมง”

การเป็นแบรนด์ที่ไม่มีใครรู้จัก ทำอย่างไรที่จะทำให้คนมาเปิดใจกับแบรนด์เล็ก  ๆ ของเรา ทำอย่างไรที่จะทำให้ลูกค้าที่เข้ามาแล้วพึงพอใจบอกต่อ และกลับมาใช้บริการซ้ำ เป็นความท้าทายที่ค่อย ๆ เรียนรู้และค่อย ๆ แก้กันไป

ไม่ได้ง่ายเลย

ถ้าจะแทรกต้องคิดต่าง

เมื่อมาทีหลังในตลาดแมสที่มีเจ้าตลาดที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ทำอย่างไรที่จะแทรกตลาดขึ้นมาได้ จากสโลแกนเปิดประสบการณ์ที่มากกว่าคำว่า สุกี้ เลยมีการนำของทอดเข้ามาเสริม มีเมนูที่หลากหลายต่างจากเจ้าตลาด  เน้นการลงทุนกับการตกแต่งสาขา  และพยายามหาโปรโมชั่น ที่ไม่เหมือนใคร

การเป็นน้องใหม่ โนเนมมาก ๆ ทำให้ลัคกี้ สุกี้ ไม่สามารถเปิดร้านแบบสแตนด์อะโลนได้ต้องอาศัยแทรฟฟิกเดิมที่มีอยู่แล้วในคอมมูนิตี้มอลล์ บิ๊กซี โลตัส แม็คโคร ตอนหลังขยับเข้าเซ็นทรัล โรบินสัน เลยกลายเป็นอีกหนึ่งจุดต่างจากคู่แข่งที่เน้นสแตนด์อะโลนเป็นหลัก

ช้าแต่ชัวร์ จากนี้ไปจะเร่งสปีดมากขึ้น

ปีแรก 2 สาขา ปีที่ 2  จบที่ 6  สาขา ปีนี้ ครบ 3 ปี ในเดือนมกราคม 2568  สุกี้ ลัคกี้มี 15 สาขา และมีแบรนด์ใหม่ลัคกี้ บาร์บีคิว อีก 5 สาขา รวมเป็น 20 สาขา

แผนปี 2568 ต้องเปิดทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 16 -20 สาขา โดยจะเริ่มไปในต่างจังหวัดที่สระบุรี ในเดือนมีนาคมนี้เป็นสาขาแรก ต่อจากนั้นวางแผนไว้ที่โคราช และขอนแก่น จะเป็นการต่อยอดตามเส้นทางโลจิสติกส์ไปเรื่อย ๆ จะไม่ใช้วิธีอยู่ ๆ ก็ไปโผล่ตามเมืองใหญ่ต่าง ๆ เพราะต้องการคุมคุณภาพของวัตถุดิบให้ดีที่สุด

ส่วนทางตะวันออกจะเริ่มสาขาที่บางนา ต่อด้วย อมตะซิตี้ ชลบุรี ระยอง

“เมื่อก่อนจะคุยกันในทีมว่า ไปแบบช้า ๆ แต่ชัวร์ วันนี้เราชัวร์แล้ว ไม่ช้าแล้ว พร้อมวิ่งแล้วค่ะ”

เธอบอกว่ามาจากความมั่นใจที่หุ้นส่วนทุกคนทำงานจริง ลงมาดูหน้างานเอง  เรียนรู้ และพร้อมแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่จนไม่กลัวที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง

เมื่อสามารถบริหารจัดการหลังบ้านได้ ชื่อแบรนด์เองเป็นที่รู้จักมากขึ้น คุมคอร์สได้ดี ยิ่งสเกลใหญ่ต้นทุนในการซื้อวัตถุดิบยิ่งถูกลง ดังนั้น ไม่มีเหตุผลเลยที่จะไม่ลุย

ปัญหาและความท้าทายที่ต้องเตรียมรับมือ

1. ในธุรกิจนี้จะมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเสมอ เราต้องไม่หยุดนิ่ง ต้องพัฒนาตัวเอง พยายามมอนิเตอร์ในเรื่องคุณภาพของแต่ละด้านเพื่อคงไว้ซึ่งความพึงพอใจสูงสุด รวมทั้งเร่งการเปิดสาขาเพื่อรองรับลูกค้าให้ได้มากขึ้น สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

2. ปัญหาของความผันผวนของเศรษฐกิจ ที่มีผลต่อกำลังซื้อ ต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรง ซึ่งเรื่องนี้วิธีการก็คือต้องพยายามปรับตัวเอง

“รู้สึกได้เลยว่าตั้งแต่หลังปีใหม่มาลูกค้าใช้เงินน้อยลง เราก็ต้องพยายามหาโปรโมชั่นใหม่ ๆ หาของใหม่ ๆ เข้ามาในไลน์ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าครั้งนี้มีอะไรมากกว่าเดิม รวมทั้งพยายามหาทางลดค่าใช้จ่ายของออฟฟิศ จะประมาทไม่ได้ คิดอยู่เสมอว่าไม่ใช่ได้พันล้านปีนี้ ปีหน้าจะได้อีกแน่นอน”

3. Promotion wall สงครามการแข่งขันด้านโปรโมชั่นที่ค่อนข้างสูง ต้องระวังการตอบโต้อย่างรวดเร็วจากคู่แข่ง

4. ต้องวางโครงสร้างการบริหารงานอย่างรัดกุม เพื่อให้แข่งขันได้และควบคุมต้นทุนได้ดีที่สุด

5. ต้องขยายสาขาให้ได้ตามเป้าที่วางไว้เพื่อเร่งสร้างการรับรู้ของแบรนด์

น่าจะเป็น 5 เรื่องหลัก ที่จะเป็นความท้าทายของสุกี้ ลัคกี้

ลัคกี้ สุกี้ ยิ่งโตยิ่งน่าอร่อย

จากสาขาแรกไปขอเช่าพื้นที่ที่ไหนมีแต่คนไม่สนใจ แต่วันนี้ มีแต่คนเสนอที่เข้ามาให้ ปัญหาเรื่องการหาพื้นที่ลดน้อยลง

ในขณะเดียวกันคนขอร่วมทุนก็เริ่มเข้ามา

“มีใครเข้ามาขอซื้อ ขอร่วมทุนบ้าง” Marketeer ถามแทบไม่ทันจบประโยคก็ถูกเธอขัดพร้อมเสียงหัวเราะว่ามีค่า (ลากเสียง) เยอะมาก  แม้เธอไม่ยอมบอกว่ามีใครบ้าง แต่แน่นอนรายใหญ่ ๆ ในธุรกิจอาหารไม่น่าพลาด

เธอย้ำว่า

พวกเราทำธุรกิจด้วยเงินสดตัวเองไม่ได้กู้เงินแบงก์มา ดังนั้น ปัญหาการเงินไม่มี แต่พาร์ตเนอร์ที่สามารถเข้ามาเติมเต็มเราให้โตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เติมเต็มในเรื่องที่เราขาดก็เป็นเรื่องที่จำเป็น  แต่การวิ่งไปข้างหน้าเราก็ต้องระวังหลังไม่ให้สะดุดด้วยการเลือกพาร์ตเนอร์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ

ปีที่แล้ว ลัคกี้ บาร์บีคิว บุฟเฟต์ ก็เกิดขึ้นตามมา เป็นแบรนด์น้องใหม่ที่เปิดตัวเร็วกว่าสุกี้ แค่ปีเดียวมีประมาณ 5 สาขาแล้ว เป็นตลาดที่อาจจะเล็กกว่าคู่แข่งน้อยกว่าแต่น่าสนใจ

“เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่อยากทำและคิดว่าทำได้ในขณะที่พี่ ๆ หุ้นส่วนบอกว่าพอแล้วเหนื่อย เลยต้องบอกว่าตอนทำสุกี้ พี่ยังเชื่อใจหนูเลยว่าเราต้องทำได้ เชื่อใจหนูอีกครั้งแล้วจะไม่ชวนทำอย่างอื่นแล้ว (หัวเราะ)”

เธอบอกว่า

“ทุกวันนี้ยังลงไปดูทุกสาขา ด้วยตัวเอง ยังทำงานแบบเกือบ 24 ชั่วโมงเหมือนเดิม  เพราะการพูดคุยทำความเข้าใจกันกับน้อง ๆ บ่อย ๆ  มันเหมือนได้ถ่ายทอดดีเอ็นเอจากเราด้วย เจอปัญหาแบบนี้ต้องแก้อย่างไร”

ถึงจะมีภาระมากมาย เป็นทั้งพี่แอนของน้อง ๆ พนักงาน ที่วันนี้เพิ่มเป็น 1,500 คน เป็นคุณแม่ลูก 2  ที่กำลังย่างสู่วัยรุ่น แต่ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้ยังคงยิ้มแย้มแจ่มใส และพร้อมชนกับทุกปัญหา

เธอพูดทิ้งท้ายน่าคิดว่า

“วันนี้เราเป็นผู้ตาม แต่สักวันหนึ่งในอนาคตเราอาจจะเป็นผู้นำก็ได้”

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer