Trends / Netflix ยังคงสามารถรั้งตำแหน่งเบอร์ต้น ๆ ในวงการวิดีโอสตรีมมิ่งไว้ได้ ด้วยจำนวนสมาชิกที่เพิ่มมากสุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จคือการรุกคอนเทนต์กีฬา
ไตรมาสสุดท้ายปี 2024 ยอดสมาชิกทั่วโลกของ Netflix เพิ่มเป็น 302 ล้านบัญชีผู้ใช้ ถือเป็นการเพิ่มขึ้นมากสุดนับจากทำวิดีโอสตรีมมิ่งเต็มตัว โดยตลาดที่เพิ่มขึ้นมากสุดคือ สหรัฐฯ กับแคนาดา ที่กรอบเวลาดังกล่าวเพิ่มมาถึง 19 ล้านบัญชีผู้ใช้
Netflix เผยว่า 3 คอนเทนต์สำคัญที่ทำให้ยอดสมาชิกเพิ่มขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ และยังช่วยดันให้ผลประกอบการในไตรมาสเดียวเพิ่มมาถึง 16% เป็นครั้งแรก คือการถ่ายทอดสดคู่มวยระหว่าง ไมค์ ไทสัน กับเจก พอล เมื่อ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งมีการชมพร้อมกัน 108 ล้านบัญชีผู้ใช้
และการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลช่วงคริสต์มาส 2 คู่พร้อมกัน ที่มียอดการรับชมเฉลี่ยคู่ละ 30 ล้านบัญชีผู้ใช้
นี่ถือเป็นการย้ำว่า การทุ่มเงินซื้อไปกับการถ่ายทอดสดคู่มวยหยุดโลกกับการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลที่มีการโชว์พักครึ่งของสองนักร้องดังไปรวม 220 ล้านดอลลาร์ (ราว 7,500 ล้านบาท) นั้นผลิดอกออกผลทางธุรกิจ และแผนเดินหน้ามัดใจคอกีฬาต่อด้วยการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดมวยปล้ำของ WWE ต่อเนื่องยาว 10 ปีที่เริ่มเมื่อต้นปี 2025 ก็น่าจะไปได้สวย
ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า นี่อาจเป็นการปูทางของ Netflix ไปสู่การซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬารายการใหญ่ ๆ อย่าง ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต่อไปในอนาคต เพิ่มจากฟุตบอลโลกหญิงปี 2027 และ 2031 เฉพาะในสหรัฐฯ ที่ดีลกับ FIFA เรียบร้อย
ทว่าข่าวดีของ Netflix ครั้งนี้มาพร้อมข่าวร้ายของสมาชิก โดยได้ประกาศขึ้นค่าสมาชิกรายเดือนเริ่มที่สหรัฐฯ ก่อน โดยแบบมีโฆษณาเพิ่มเป็น 7.99 ดอลลาร์ (ราว 271 บาท) แบบไม่มี โฆษณาเพิ่มเป็น 17.99 ดอลลาร์ (ราว 611 บาท) และแบบพรีเมียม ภาพชัดระดับ 4K เพิ่มเป็น 24.99 ดอลลาร์ (ราว 849 บาท)
นี่เป็นการส่งสัญญาณว่า ต่อไปการแข่งขันในตลาดวิดีโอสตรีมมิ่งจะยิ่งทวีความดุเดือด และแต่ละแพลตฟอร์มอาจหันไปแย่งซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬาหรือทำคอนเทนต์ออกมา เพื่อเพิ่มความหลากหลาย เพราะลำพังแค่หนังกับซีรีส์คงไม่พอที่จะรั้งสมาชิกให้อยู่ในแพลตฟอร์มได้อีกต่อไป
ซึ่งแน่นอนว่าต้องเพิ่มงบการสร้างและเงินลงทุน จนทุกค่ายต่างก็ต้องขึ้นค่าสมาชิกรายเดือน/cnn
–