โตโยต้า ถึงเวลาหลอมรวมความหลากหลาย มุ่งสร้างความสุขให้กับทุกคน ด้วยนโยบาย DE&I
“ทรัพยากรบุคคล” ถือเป็นทรัพยากรสำคัญของโตโยต้าในการขับเคลื่อนองค์กรและนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ถูกส่งมอบความสุขให้กับผู้บริโภคและสังคมมาโดยตลอด
การบริหารองค์กรในแบบฉบับโตโยต้ามีรากฐานที่ยึดถือกันมาอย่างยาวนาน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการพัฒนาและปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ล่าสุด ได้มีการดำเนินการส่งเสริม “นโยบายความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่าง (DE&I)” ที่หลอมรวมความหลากหลาย เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้พร้อมต่อการเติบโตที่ยั่งยืน
ในโอกาสนี้ Marketeer ได้รับเกียรติจาก คุณสุรภูมิ อุดมวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ มาร่วมพูดคุยให้ข้อมูลถึงรายละเอียด กลยุทธ์ และแผนการดำเนินการในแง่มุมต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นในการสร้างความสุขให้กับพนักงานและผู้คนอย่างยั่งยืน

สานต่อวิสัยทัศน์ “Creating Mobility For All”
และพันธกิจ “Producing Happiness for All”
คุณสุรภูมิเริ่มต้นการสนทนาโดยกล่าวถึงจุดประสงค์ในการริเริ่มนโยบาย DE&I ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจหลักของโตโยต้า ที่มุ่งหวังที่จะเป็นผู้ขับเคลื่อนความสุขให้กับทุกคนในสังคมในระดับมหภาค ตลอดทั้งห่วงโซ่ธุรกิจของโตโยต้า (Value Chain)
“บริษัท โตโยต้า ทั้งในส่วนของบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น ภูมิภาคเอเชีย และประเทศไทย ได้ดำเนินนโยบาย DE&I เพื่อสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ขององค์การสหประชาชาติ และเป็นไปตามวิสัยทัศน์ ‘Creating Mobility For All’ ที่กล่าวว่า เราจะ ‘ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง’ และมอบทางเลือก ‘การขับเคลื่อนสำหรับทุกคน’ ที่เหมาะสม และตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า อีกทั้งยังมีพันธกิจ ‘Producing Happiness for All’ ที่ต้องการจะเป็นผู้สร้างความสุขให้กับทุกคน
จากวิสัยทัศน์นี้แสดงให้เห็นว่าโตโยต้า ตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมความหลากหลายและการให้โอกาสที่เท่าเทียมกัน โดยมุ่งมั่นในการไม่เลือกปฏิบัติ รวมถึงต่อต้านการคุกคามต่อกันในทุกระดับ ด้วยเจตนารมณ์ส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างบุคคล และสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้มีสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ดี มีความปลอดภัย เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่ปราศจากการล่วงละเมิด โดยให้เกียรติซึ่งกันและกัน พร้อมมุ่งมั่นที่จะป้องกันและแก้ไขเพื่อสร้างสังคมที่ปลอดการคุกคามในภาพใหญ่
เพื่อให้การขับเคลื่อนในเรื่องนี้มีรากฐานที่มั่นคง โตโยต้า จึงได้ประกาศนโยบายความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่างเพื่อกำกับดูแลการดำเนินงานขององค์กร รวมถึงเป็นแนวปฏิบัติของพนักงาน โดยเชื่อว่าการส่งเสริมนโยบาย DE&I ในองค์กร จะเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ทุกคนเคารพในความแตกต่าง มีโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน และสามารถแสดงศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่ อันจะนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รวมถึงการช่วยให้เกิดแนวคิดใหม่ ๆ และการสร้างสรรค์ ตลอดจนความผูกพันกับองค์กร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญ และจำเป็นอย่างมากต่อการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตต่อไปได้ในอนาคต”
“พนักงาน” ทรัพยากรที่มีคุณค่าของโตโยต้า
สำหรับโตโยต้า “พนักงาน” ถือเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า และมีบทบาทอย่างมากในการขับเคลื่อนธุรกิจ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด ล้วนมีส่วนสำคัญในการช่วยให้องค์กรสามารถเติบโตและแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างต่อเนื่อง
“โตโยต้าให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคน และเชื่อมั่นว่าทุกคนมีความสามารถที่จะสร้างสรรค์และพัฒนาองค์กรได้ โดยสะท้อนผ่านวิสัยทัศน์และพันธกิจของโตโยต้าที่ได้กล่าวไป
โดยพนักงานเปรียบเสมือนหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร ให้สามารถพัฒนาและเป็นองค์กรที่จะส่งมอบความสุขให้กับผู้คนและสังคม เพราะหากพนักงานมีความสุข ก็ย่อมจะสร้างสรรค์ผลงานที่ดีมากขึ้น นำเสนอความคิดและนวัตกรรมใหม่ ๆ อันจะนำไปสู่การขับเคลื่อนองค์กรให้พัฒนาต่อไปได้อย่างไม่สิ้นสุด”
คุณสุรภูมิ อธิบายต่อว่า กลยุทธ์ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลในแบบโตโยต้าคือ “การดูแลพนักงานให้มีความสุข พร้อมกับการสร้างองค์กรที่ยั่งยืน” ซึ่งการนำนโยบาย DE&I มาปรับใช้กับการบริหารบุคคลตลอดวงจรชีวิตการทำงานของพนักงาน (Employee Journey) เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของโตโยต้าได้เป็นอย่างดี
“เรานำนโยบาย DE&I มาใช้ตั้งแต่การจ้างงานที่เปิดรับทุกความหลากหลาย การพัฒนาบุคลากรในทุกระดับ รวมถึงมีรูปแบบการเรียนรู้มากมาย เพื่อพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ที่แตกต่างกัน
และในเส้นทางอาชีพ โตโยต้ามีการพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง โดยคำนึงถึงความสามารถจากผลการประเมินขีดความสามารถแบบ Performance-based Driven โดยไม่มีอคติเรื่องอื่น ๆ หรือในด้านของการสร้างความผูกพันต่อองค์กร เรามีกิจกรรมตอบโจทย์ทุกความต้องการ และมีการเปิดรับความคิดเห็นพนักงานและตัวแทนพนักงานเพื่อปรับปรุงอยู่เสมอ รวมถึงมีสวัสดิการเพื่อรองรับสำหรับทุกคน ตลอดจนการดูแลพนักงานไปจนเกษียณอายุ”
ดำเนินการส่งเสริมนโยบาย DE&I
ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งภายในและนอกองค์กร
จุดที่น่าสนใจในการดำเนินการนโยบาย DE&I ของโตโยต้าในครั้งนี้ คือ การมีแผนดำเนินการ ในระยะกลางและระยะยาวของบริษัท ซึ่งครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งภายในและภายนอกองค์กร ดังนี้
1. นโยบาย : ประกาศใช้นโยบายความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่าง
2. การตระหนักรู้ : สร้างความรู้ความเข้าใจกับพนักงาน ผ่านการจัดอบรม E-learning “เรื่องนโยบายความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่าง” และเรื่อง Unconscious Bias เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับอคติที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว รวมถึงเกิดการตระหนักรู้เรื่องความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการยอมรับความแตกต่าง
3. การบริหารบุคลากรและสภาพแวดล้อม: บริหารบุคลากรให้สอดคล้องกับนโยบาย เช่น การพัฒนาพนักงาน การบริหารความก้าวหน้าในอาชีพ โดยไม่เลือกปฏิบัติ รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมให้สอดรับกับความหลากหลายของพนักงาน อาทิ ห้องน้ำที่ไม่แบ่งแยกเพศ ห้องน้ำสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว ทางลาดและแผงควบคุมลิฟต์รองรับผู้ใช้เก้าอี้รถเข็น ห้องละหมาด ที่จอดรถและเก้าอี้สำหรับคนท้อง ห้องให้นมบุตร รวมถึง co-working space ที่ตอบโจทย์ทุกสไตล์การทำงาน เป็นต้น
4. การแสดงเจตจำนงต่อสาธารณะ: สื่อสารนโยบายต่อสาธารณะเพื่อแสดงเจตจำนงขององค์กร ในการให้ความสำคัญต่อความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่าง
5. การกำกับดูแลห่วงโซ่ธุรกิจ: กำหนดแนวปฏิบัติและกำกับดูแลห่วงโซ่ธุรกิจ (Value Chain) ให้ดำเนินการบนพื้นฐานของความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการยอมรับความแตกต่าง
และในโอกาสที่ “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ โตโยต้าได้ร่วมเฉลิมฉลองก้าวสำคัญของประเทศไทยกับการเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียนที่สนับสนุนเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการปรับสวัสดิการและกฎระเบียบให้สอดคล้องกับกฎหมาย รวมถึงยังมีส่วนที่โตโยต้าดำเนินการให้กับพนักงานมากกว่าที่กฎหมายกำหนด เช่น สิทธิลาผ่าตัดแปลงเพศ การแต่งกายตามเพศวิถี และอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ยังมีการขับเคลื่อนในส่วนรายละเอียดต่าง ๆ อีกหลากหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็น
- สวัสดิการ
ปรับสวัสดิการและกฎระเบียบให้สอดคล้องกับกฎหมายสมรสเท่าเทียม ครอบคลุมทุกเพศ โดยให้สิทธิการลา สิทธิการรักษาพยาบาล และเงินช่วยเหลือในโอกาสต่าง ๆ อย่างเท่าเทียมกัน อีกทั้งยังมีสิทธิการลาประเภทพิเศษ เช่น ลาผ่าตัดแปลงเพศ รวมถึงการปรับระเบียบในเรื่องการแต่งกาย ให้สามารถแต่งกายตามเพศวิถีได้ เพื่อส่งเสริมความแตกต่างหลากหลายในองค์กร และสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย สำหรับพนักงานทุกคน
- กิจกรรมส่งเสริม DE&I
จัดกิจกรรมรณรงค์รายเดือนตาม DE&I International Calendar ที่สำคัญ เช่น เดือน Pride Month เพื่อแสดงความเปิดกว้างและยอมรับ โตโยต้ามีการส่งตัวแทนผู้บริหารหญิงไปร่วมการประชุมในระดับภูมิภาค เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้กับพนักงานหญิง และแบ่งปันประสบการณ์ความรู้ ตลอดจนส่งเสริมความหลากหลายในองค์กร
- การสนับสนุนภายนอกองค์กร
โตโยต้าได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความเสมอภาคและความเท่าเทียมในหลากหลายกิจกรรมสาธารณะอย่างต่อเนื่อง อาทิ การสนับสนุนมูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย
เพื่อแสดงความขอบคุณและให้กำลังใจกับคณะนักกีฬาพาราลิมปิกทีมชาติไทย ซึ่งสอดคล้องกับโครงการ “START YOUR IMPOSSIBLE” ซึ่งเป็นแนวคิดของโตโยต้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากจิตวิญญาณอันท้าทายของนักกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกในการ “เริ่มต้นทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้” เป็นต้น
คุณสุรภูมิเสริมอีกว่า โตโยต้ายังมี แผนงานในการส่งเสริมนโยบาย DE&I กับห่วงโซ่ธุรกิจของโตโยต้า (Value chain) และคู่ค้าทางธุรกิจทั้งในระยะกลางและระยะยาว โดยภายในต้นปี 2025 จะเริ่มส่งเสริมนโยบาย DE&I ให้กับกลุ่มผู้แทนจำหน่ายที่เป็นกลุ่มนำร่องเป็นกลุ่มแรก เนื่องจากเป็นเสมือนตัวแทนที่ใกล้ชิดกับลูกค้าของโตโยต้ามากที่สุด และจะเป็นกระบอกเสียงสำคัญที่สะท้อนวิสัยทัศน์ในเรื่องนโยบายความหลากหลายเท่าเทียมให้กับสังคม นอกจากนี้ ภายในปี 2025 โตโยต้าจะขยายขอบเขตไปยังห่วงโซ่ธุรกิจของโตโยต้า (Value Chain) ให้ดำเนินการบนพื้นฐานของความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการยอมรับความแตกต่างเช่นกัน
มุ่งสร้างความสุขให้ทุกคน ไปพร้อมกับสร้างองค์กรที่ยั่งยืน
Marketeer ยิงคำถามว่า การดำเนินนโยบาย DE&I ในครั้งนี้ มีผลต่อการขับเคลื่อนการเติบโตธุรกิจของโตโยต้าอย่างไร ซึ่ง คุณสุรภูมิตอบได้อย่างลึกซึ้งถึงความสำคัญของนโยบาย DE&I ที่ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี แต่ยังเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กรในระยะยาว ซึ่งเป็นไปตามแกนหลักของนโยบายนี้
คือการดำเนินตามพันธกิจ “Producing Happiness for All” ที่ต้องการมุ่งสร้างความสุขให้กับทุกคน และเมื่อทุกคนมีความสุขก็อยากที่จะส่งต่อสิ่งที่ดี ๆ ให้กับผู้อื่นและสังคมต่อ ๆ ไป ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน
“ในปัจจุบันผู้คนมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นด้านเชื้อชาติ เพศสภาพ วัฒนธรรม ฯลฯ ดังนั้น การบริหารความแตกต่างหลากหลายนี้จึงมีความสำคัญต่อองค์กรเป็นอย่างมาก เพราะการสร้างประสบการณ์ให้คนมีความผูกพันกับองค์กรจะช่วยเพิ่มความสำคัญทางด้านจิตใจ ทำให้รู้สึกมีคุณค่า
และอยากที่จะทำงานเพื่อถ่ายทอดและส่งมอบประสบการณ์ที่มีคุณค่าต่อลูกค้า รวมถึงสร้างสิ่งที่ดีงามให้กับสังคม อีกทั้งยังเป็นรากฐานสำคัญที่องค์กรยุคใหม่ต้องให้ความสำคัญ”
การดำเนินนโยบาย DE&I เปรียบเสมือนกุญแจสำคัญสู่การเติบโตที่ยั่งยืนขององค์กร ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี แต่ยังเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กรในระยะยาวอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานผ่านมุมมองที่แตกต่างกัน ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างความผูกพันของพนักงานกับองค์กร ซึ่งจะทำให้องค์กรสามารถรักษาบุคลากร ซึ่งเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนองค์กรไว้ได้
นอกจากนี้ การมีนโยบาย DE&I ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร รวมถึงลดความขัดแย้งและความไม่เข้าใจระหว่างบุคลากรได้อีกด้วย
ดังนั้น การสร้างองค์กรที่หลากหลายและเท่าเทียมเป็นการลงทุนในอนาคตที่ส่งผลดีต่อทุกภาคส่วนขององค์กร เมื่อทุกคนในองค์กรรู้สึกว่ามีคุณค่าและได้รับการเคารพ องค์กรก็จะสามารถเติบโตและขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างยั่งยืน ซึ่งสุดท้ายก็จะสร้างความสุขให้กับทุกคน ตามพันธกิจ ‘Producing Happiness for All’ ของ โตโยต้า นั่นเอง”
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /


