ทิศทางเศรษฐกิจที่ยังคงดูแย่ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ทำให้หลายคนชะลอการซื้อหรือการลงทุนในช่วงนี้ โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องพิจารณาลึกและกว้างมากขึ้น อาจไม่ได้มองแค่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น พื้นที่ท่องเที่ยวต่างจังหวัดที่มีศักยภาพสูงก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยง ซึ่งหลังจากที่เราเคยวิเคราะห์ทำเลในกทม.มาเยอะ วันนี้จะเป็นทำเลที่น่าสนใจในพื้นที่ต่างจังหวัดบ้าง

หากพูดถึงจังหวัดเศรษฐกิจท่องเที่ยวประเทศไทย ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องมีชื่อจังหวัด “ภูเก็ต” ติดทำเนียบทุกครั้งแน่นอน ด้วยโครงสร้างภูมิศาตร์โอบล้อมความงดงามด้วยท้องทะเล บวกกับวัฒนธรรมที่ผสมผสานชาติพันธุ์ต่างๆ ทั้งคนพื้นเมือง จีน อินเดีย มลายูจนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตลอดจนความมีน้ำใจและอัธยาศัยดีของคนพื้นที่ หลอมรวมให้เกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยกลายเป็นสถานที่ประทับใจของนักท่องเที่ยวเสมอมา

ในด้านการลงทุน จริงๆ แล้วภูเก็ตถือเป็นจังหวัดที่มีการพัฒนาลงทุนอสังหาริมทรัพย์มานาน จนราคาทำเลในบางจุดทะลุเพดานไปแล้ว อย่างไรก็ตามมาดูว่าทำไมถึงต้องเป็นภูเก็ตที่น่าลงทุนไม่แพ้ใครในช่วงนี้

 

1. พื้นที่จำกัด มูลค่าเติบโตก้าวกระโดด

อย่างที่บอกข้างต้น ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่ถูกพัฒนาเพื่อการท่องเที่ยวมายาวนาน ราคามีมูลค่าสูงมาก ยิ่งทำเลหัวหาดทั้งหลายยิ่งมีราคาสูงจนแทบทะลุเพดาน อย่างไรก็ตามท่ามกลางเศรษฐกิจแบบนี้ คงมีแต่อสังหาฯ ที่มีมูลค่าสูงเท่านั้นที่จะขับเคลื่อนขยายตัวต่อไปได้

ผลวิจัยตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต 2558 จากพลัส พร็อพเพอร์ตี้ พบว่า คอนโดระดับบน 100,000 บาท/ตร.ม.ขึ้นไปยังมีความต้องการสูงทั้งจากอุปสงค์และอุปทาน เนื่องจากลูกค้าได้รับผลทางเศรษฐกิจค่อนข้างน้อย ด้านแนวราบบ้านเดี่ยวยังคงทรงตัว เติบโตช้า ส่วนทาวเฮาส์ยังคงขยายตัวได้ในราคาระดับกลางไม่เกิน 3 ล้านบาท

ในช่วงที่ผ่านมาราคาที่ดินภูเก็ตดีดตัวขึ้นสูงต่อเนื่อง ตั้งแต่ระดับราคาไร่ละต่ำกว่า 5 ล้านบาท จนถึงราคา 100 ล้านบาทในย่านใจกลางเมือง ที่สำคัญด้วยความที่ภูเก็ตมีภูมิศาสตร์เป็นเกาะ พื้นที่การขยายตัวในการปลูกสร้างย่อมมีอยู่จำกัด ดังนั้นเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวเมื่อไหร่ ก็อาจจะเกิดภาวะขาดแคลนที่ดินอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะมีผลต่อราคาที่จะดีดตัวอย่างรวดเร็วเช่นกัน ตรงนี้เป็นเหตุผลแรกที่ภูเก็ตแตกต่างและนักลงทุนไม่ควรมองข้าม

 

2. มีการลงทุนพัฒนาโครงสร้างสูง

ปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตมีประชากรท้องถิ่นที่มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนราษฎรประมาณสามแสนกว่าคน และประชากรแฝงที่มีอีกจำนวนเท่าตัว ถือเป็นอีกเมืองที่มีการเจริญเติบโตทางประชากรอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี โดยสถิติตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกันยายนปี 2558 พบว่ามีผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เดินทางไปยังจังหวัดภูเก็ตมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยตัวเลข 5.13 ล้านคน คิดเป็น 8.98% (ข้อมูลจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด)

 

ถึงแม้ตัวเลขการเติบโตจะลดลง แต่ถ้าเทียบกับสี่จังหวัดท่องเที่ยวในภาคใต้ มูลค่าของภูเก็ตก็ยังสูงกว่าหลายเท่า

นอกจากนี้ปัจจัยสำคัญ คือ เรื่องInfrastructure ในปีที่ผ่านมา ด้วยการเจริญเติบโตด้านประชากร เป็นผลให้เกิดการพัฒนาโครงการพื้นฐานต่างๆ ทั้งเรื่องของระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ ระบบอุปโภคบริโภค และสถานที่พักอาศัย เพื่อรองรับกับความเติบโตของเมืองได้อย่างเต็มที่

 

จากการเติบโตที่ต่อเนื่อง ทำให้คาดการณ์ได้ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า การพัฒนาด้านโครงสร้างยังคงเดินหน้าต่อไป เพื่อรองรับปริมาณผู้คนที่จะไหลเข้ามาโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เพิ่มในแต่ละปีค่อนข้างเยอะมาก เมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ ของไทย

 

3.ยุทธศาสตร์ 3 M แห่งภูเก็ต

ภูเก็ตในปัจจุบันจึงไม่ใช่แค่จังหวัดที่มีฐานทรัพยากรการท่องเที่ยวที่หลากหลายและมีศักยภาพสูงเท่านั้น แต่ด้วย ความได้เปรียบทางที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของจังหวัดภูเก็ต สามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันทั้งหมด เรียกว่าเป็น Hub หรือศูนย์กลางของการท่องเที่ยวของภูมิภาค และนานาชาติไปแล้ว เราสามารถสรุปได้เป็นยุทธศาสตร์ 3 M แห่งภูเก็ต อันประกอบไปด้วย

 

MICE : การเดินทางที่สะดวกสบาย มีสนามบินนานาชาติเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศภูเก็ตยังมีสถานที่จัดงาน กิจกรรม สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สำหรับการจัดนิทรรศการ การประชุม ทั้งระดับประเทศ และระดับนานาชาติ บรรยากาศการต้อนรับอย่างอบอุ่นของคนไทย และวัฒนธรรมของชาวภูเก็ต กลายเป็น“เมืองไมซ์แห่งอันดามันของโลก”

Medical Hub : การพัฒนาให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพอนามัย มีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ เนื่องจากตลาดด้านสุขภาพมีความต้องการมากขึ้นทุกปี และเทรนด์ที่กำลังเป็นที่จับตามองคือ สังคมผู้สูงอายุของประชากรโลกกำลังเพิ่มขึ้นทุกปี

Maritime & Yacht : นอกจากท่าเรือน้ำลึก ท่าเทียบเรือต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ยังมีท่าจอดเรือของเอกชน (Marina) จำนวน 4 แห่ง ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะ ซึ่งเป็นทำเลที่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวเกาะต่างๆ ในอ่าวพังงา และเกาะต่างๆ ในจังหวัดกระบี่ได้อย่างสะดวก ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จึงทำให้จังหวัดภูเก็ตสามารถส่งเสริมธุรกิจประเภทรีสอร์ทสำหรับเรือยอท์ช แห่งภูมิภาคอันดามัน นอกจากนี้ ภูเก็ตยังเป็นศูนย์กลางการกีฬาทางทะเลระดับนานาชาติ โดยถูกใช้เป็นเป็นสนามแข่งขันกีฬาทางทะเลระดับนานาชาติหลายรายการอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี

และด้วยปัจจัยเหล่านี้ที่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับเหล่านักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเพื่อเข้ามาปักเสาเข็มหาที่มั่นและลงทุนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทั้งชาวตะวันตกและชาวจีน โดยเฉพาะนักลงทุนชาวจีน ที่มีการเข้ามาพักอาศัยมากขึ้นหลังจากเส้นทางการท่องเที่ยวระหว่างไทยและจีนเชื่อมโยงและได้รับการพัฒนามากขึ้น ปัจจุบันทั้งสองประเทศได้เปิดเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต กับเมืองปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางเจา เซินเจิ้น เฉิงตู ฉงชิ่ง ซีอาน คุนหมิง และกุ้ยหลิน ซึ่งแต่ละเมืองยังเป็นหัวเมืองทางเศรษฐกิจของประเทศจีนอีกด้วย

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พบว่าโดยเฉลี่ยชาวต่างชาติที่มาอยู่อาศัยที่ภูเก็ต มีอัตราค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับขนาดและทำเลของห้อง ยิ่งเป็นทำเลที่หาดสวย วิวทะเล หรือใกล้แหล่งสรรพสินค้า ตลอดจนใกล้สนามบินยิ่งราคาสูงเกิน50,000บาทต่อเดือน ซึ่งถ้าสามารถบริหารจัดการดีๆ ก็ได้ผลลงทุนพอๆ กับย่าน CBD ในสีลมหรือสาทรทีเดียว

ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอนแบบนี้ ภูเก็ตจึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการลงทุนอสังหาฯที่น่าสนใจ อยู่ที่ใครจะมองเห็นโอกาสได้ก่อนกัน



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online