แสนสิริ สร้างมิติใหม่ตลาดอสังหาฯ สู่ไวรัล 40 ล้านวิว พลิก After-Sales Service ให้กลายเป็น ละครคุณธรรม
สร้างมิติใหม่ให้กับวงการอีกครั้งเมื่อ “แสนสิริ” แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดครั้งใหม่ จับเทรนด์ MICRO DRAMA สื่อสารเรื่องบริการหลังการขายในรูปแบบ “ละครคุณธรรม”
จากกลยุทธ์สื่อสารเรื่อง “บริการหลังการขาย” ที่เล่าได้ยาก บวกความครีเอทีฟ ไปสู่ผลลัพธ์ที่สร้างเอนเกจเมนต์มหาศาลบนสื่อโซเชียล โดยแบรนด์ได้หยิบ 4 จุดแกร่ง “Quality-Security-Caring-Community” จากแนวคิด LIFE-LONG PROMISE มาเล่าในแบบที่ไม่มีใครคาดคิด และท้าทายความเป็นผู้นำด้านดีไซน์ในวงการอสังหาฯ ของแสนสิริเป็นอย่างมาก มาเล่าผ่านเรื่องราวสุดป่วนในบ้านหลังใหม่ได้อย่างแนบเนียน แฝงอินไซต์การอยู่อาศัยในยุคใหม่ จนกลายเป็นปรากฏการณ์กวาดยอดวิวทะลุ 40 ล้านวิว ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ และที่สำคัญกว่ายอดเอนเกจ ก็คือการที่ผู้บริโภค รู้สึกอิน รู้สึกเอ็นดู และรู้สึกว่าเข้าใจในแบรนด์โดยไม่รู้ตัว
Marketeer พาไปเจาะลึกรายละเอียดแนวคิดหลากหลายแง่มุมที่น่าสนใจ สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจในการดีไซน์บริการหลังการขาย ที่ครอบคลุมและตอบโจทย์การใช้ชีวิตจริงในทุกมิติ

“LIFE-LONG PROMISE” มากกว่าการขาย คือการดูแลลูกบ้านไม่สิ้นสุด
หัวใจสำคัญคือการตอกย้ำว่าแสนสิริไม่ได้มองบ้านเป็นแค่สินค้า หรือฟังก์ชันสวยงามเท่านั้น แต่คือการดูแลลูกบ้าน และสร้างความสัมพันธ์ตั้งแต่วันแรกไปตลอดการอยู่อาศัย ผ่านแนวคิด “LIFE-LONG PROMISE” ซึ่งประกอบด้วย 4 จุดแกร่งหลักที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึง “บ้านที่แท้จริง” ได้แก่
- QUALITY : ที่อยู่อาศัยที่คุณภาพมาตรฐานการก่อสร้าง การรับประกัน ตรวจเช็กและบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง
- SECURITY : ระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจรสำหรับการอยู่อาศัย ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ LIV-24 ที่ monitor ตลอด 24 ชั่วโมง
- CARING : ดูแลจากนิติบุคคลมืออาชีพอย่างใกล้ชิด โดยทีม พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่ผ่านการอบรมการบริการมาตรฐานระดับสากล
- COMMUNITY : สังคมดีที่หาซื้อไม่ได้ ด้วยเพื่อนบ้านคุณภาพ เติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัย
นั่นเป็นวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของแสนสิริที่มองว่า การซื้อบ้านคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ เพราะบ้านคือ “ความหมายของชีวิต” เพื่อพัฒนาให้บ้านของแสนสิริเสมือนเป็น “พื้นที่ชีวิต” ให้ประสบการณ์การใช้ชีวิตที่น่าประทับใจในระยะยาว สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญ “บริการหลังการขาย” ที่เปรียบเสมือนการส่งมอบ “คุณค่าและประสบการณ์” มากกว่าแค่ตัวสินค้า เป็นเหตุผลที่ทำให้แสนสิริสามารถครองใจลูกค้าทุกเซ็กเมนต์ มากกว่า 130,000 ครอบครัวทั่วประเทศ
“ละครคุณธรรม” ในแบบแสนสิริ
เข้าใจคนดูก่อนจะขายของ และกล้าแตกต่าง
เบื้องหลังความสำเร็จคือการเล่าจุดขายในแบบที่คนดูอยากแชร์ และแสนสิริพิสูจน์ให้เห็นว่า การตลาดยุคใหม่ไม่ใช่แค่การพูดสิ่งที่แบรนด์อยากพูด แต่คือการเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค ด้วยการสร้างคอนเทนต์ในแบบที่คนอยากดูและต้องสนุก โดยเลือก “ละครคุณธรรม” คอนเทนต์ละครสั้นที่เล่าเรื่องจบในเวลาไม่เกิน 3-5 นาที ทำให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
- “ศึกลูกเขยตัวร้ายกับแม่ยายตัวตึง” ผลิตโดย “ดอยแม่สลอง สื่อสังคมออนไลน์” ครีเอเตอร์สายละครคุณธรรมที่มีฐานแฟนเหนียวแน่นกว่า 12 ล้านคน

โดย Blend สาระของบริการหลังการขาย ด้วยละคร 4 ตอน เชื่อมโยง 4 จุดแกร่งเรื่องบริการหลังการขาย “QUALITY – SECURITY – CARING – COMMUNITY” เข้าไปกับความบันเทิงอย่างแนบเนียน จนกลายเป็นการโฆษณาของแบรนด์ที่ ดูเพลิน แชร์ง่าย และเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่ม ทุก Gen ได้ง่ายขึ้น โดยยังคงคาแรกเตอร์ของเพจและแบรนด์ได้อย่างลงตัว
หากมองในมุมเปรียบเปรยแล้ว “แม่ยาย” เป็นเสมือนตัวแทนของความห่วงใย “ลูกเขย” คือความเปลี่ยนแปลง “ลูกสาว” คือความรักที่ล้ำค่า และ “บ้านใหม่” คือจุดเริ่มต้นของการอยู่ร่วมกัน ซึ่งทั้งหมดเชื่อมโยงกลับมาที่แก่นของแบรนด์คือ “ดูแลคุณไม่สิ้นสุด”
จึงพูดได้ว่านี่ไม่ใช่การโฆษณา แต่คือ “Storytelling ที่มีชีวิต” และเป็นหนึ่งในแคมเปญที่สะท้อนวิธีคิดแบบ Cultural Marketing ได้ชัดเจนที่สุดของแสนสิริ
ครีเอทเรื่องบริการหลังการขายเข้าใจง่าย ดูเพลิน ไม่ขายของ แต่แบรนด์ฝังใจได้ยาวนาน พายอดวิวทะลุ 40 ล้าน!
แสนสิริ เข้าใจพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่หลีกเลี่ยงการเสพสื่อแบบ Hard Sell จึงเลือกใช้ “ละครคุณธรรม” มาเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมแบบรวดเร็ว เข้าถึงง่าย และกระตุ้นความสนใจในเวลาอันสั้น เหมาะกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่ “ดูไว แชร์ไว อินเร็ว” กลายเป็นเนื้อหาที่แชร์ต่อกันบนโซเชียลโดยไม่รู้สึกว่าโดนขายของ
ความสำเร็จของ “ศึกลูกเขยตัวร้ายกับแม่ยายตัวตึง” จึงไม่ได้หยุดอยู่แค่คำว่า “ไวรัล” ที่กวาดยอดชมกว่า 40 ล้านวิวในทุกแพลตฟอร์ม แต่คือการเปลี่ยนมุมมองของคนทั่วไปที่มอง After-Sales Service ว่าเป็นเรื่องไกลตัวให้กลายเป็นสิ่งที่ “เห็นภาพ เข้าใจง่าย และรู้สึกอยากมีในชีวิตจริง” เพราะแม้ละครจะเป็นเรื่องสมมติ แต่ความตั้งใจของแสนสิริในทุกฉาก ทุกประโยค คือของบริการที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด
สะท้อนให้เห็นว่าคอนเทนต์ที่เข้าใจคนดูจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องขายของตรง ๆ แต่กลับเข้าเป้าด้วยอารมณ์และอินไซต์ที่ใช่ และนั่นเองที่ทำให้แสนสิริไม่เพียงประสบความสำเร็จในแง่ของการสร้าง Awareness แต่ยังปลุก Engagement สร้างการรับรู้ที่คนดู “รู้สึก” มากกว่าจำ
และนี่คือจุดต่างที่ทำให้คอนเทนต์ชุดนี้ไม่ใช่แค่แคมเปญโฆษณา แต่คือปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนแบรนด์ให้กลายเป็นบทสนทนาในชีวิตประจำวัน และทำให้คนเข้าใจบริการหลังการขายในแบบฉบับแสนสิริได้อย่างลึกซึ้ง และยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บนทุกแพลตฟอร์มของเพจดอยแม่สลอง สื่อสังคมออนไลน์

สรุป
ในวันที่ตลาดอสังหาฯ เน้นการขายและโปรโมชัน แสนสิริเลือกสร้างความแตกต่างผ่าน “การเล่าเรื่อง” ที่ทำให้คนเชื่อว่าแบรนด์ “เข้าใจชีวิตจริง” จึงไม่ใช่แค่ขายบ้าน แต่ให้ความสำคัญกับการบริการหลังกายขาย (After Sales Service) ที่ดูแลตลอดการอยู่อาศัยในทุกมิติ ผ่านกลยุทธ์ LIFE-LONG PROMISE ด้วย 4 จุดแกร่ง “Quality-Security-Caring-Community” มุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและดูแลกันในระยะยาว
รับชม “ศึกลูกเขยตัวร้ายกับแม่ยายตัวตึง” ทั้ง 4 ตอนได้ที่ : https://siri.ly/trEUB14
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /






