โรยัลคานิน ถึงเวลาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย Gen Z ด้วยสกายและนานิ (วิเคราะห์)

ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง 30,000 ล้านบาท ถือเป็นตลาดที่เติบโตอย่างน่าสนใจ จากการเติบโตมากกว่า GDP เฉลี่ย 1.5%-2% ในทุกๆ ปี

การเติบโตของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงส่วนหนึ่งมาจาก

1. การเพิ่มขึ้นของประชากรสัตว์เลี้ยงในทุก ๆ ปี จนมีจำนวนมากถึง 21 ล้านตัว แบ่งเป็นหมา 14 ล้านตัว และแมว 7 ล้านตัว และส่วนหนึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มจากผู้เลี้ยงรายใหม่ที่ให้ความสนใจเลี้ยงสัตว์มากขึ้น โดยเฉพาะในปัจจุบันที่สังคมไทยเข้าสู่ยุคประชากรสูงวัย และเทรนด์ SINK ( Single Income No Kids : คนโสดที่มีรายได้และไม่มีลูก) และ DINK (Double Income No Kids : คู่แต่งงานมีรายได้และไม่มีลูก) ที่นำสัตว์เลี้ยงเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัว

2. อาหารกลุ่ม Premium/Super Premium ที่มีสัดส่วนรวมกัน 30% มีการเติบโตมากกว่าตลาดรวม และคาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีการเติบโตมากถึง 7.5% เป็นการเติบโตที่มาจากพฤติกรรมของเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพผ่านอาหารเพิ่มขึ้น เพราะมองว่าเมื่อสัตว์เลี้ยงสุขภาพดีจะสามารถยืดอายุขัยให้อยู่ยาวนานขึ้น และลดค่าใช้จ่ายจากการพาไปรักษา

3. สัตว์เลี้ยงทั้งหมาและแมวส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ย 8-10 ปี ซึ่งเป็นความผูกพันระยะยาวที่ผู้เลี้ยงใช้จ่ายเพื่อซื้ออาหารสัตว์อย่างต่อเนื่องในทุก ๆ เดือนจนสิ้นอายุขัย

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ยังช่วยผลักดันให้ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง เป็นตลาดขนาดใหญ่จนเกิดผู้แข่งขันในธุรกิจเพิ่มขึ้นจำนวนมาก โดยเฉพาะการเปิดตัวของผู้เล่นแบรนด์ไทยหน้าใหม่ ๆ ที่เปิดบริษัทอาหารสัตว์เลี้ยงเข้ามาแข่งขัน และผู้เล่นที่อยู่ในธุรกิจอื่น ๆ ขยายการลงทุนสู่ธุรกิจอาการสัตว์เลี้ยง ในกลุ่ม Mainstream,  Premium ​Mass และ Premium จากขนาดตลาดและโอกาสในการเติบโต

บนการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นของคู่แข่งจำนวนมาก แบรนด์ โรยัลคานิน อาหารสัตว์เลี้ยงในระดับ Super Premium ได้วางเป้าหมายการเติบโตที่เพิ่มขึ้น 8% ในปี 2568 บนเป้าหมายการเติบโตนี้ ส่วนหนึ่งมาจากกลยุทธ์ขยายตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมาย Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีพลังขับเคลื่อนตลาดในปัจจุบันและอนาคต

เนื่องจากกลุ่ม Gen Z เป็นกลุ่มที่มีประชากรมากถึง 15 ล้านคนในประเทศไทย และมีมากถึง 6 ล้านคนที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง บนการเติบโตที่เพิ่มขึ้นทุกปี

และมีพฤติกรรมที่แตกต่างจาก Gen ก่อนหน้านั้น เพราะ Gen Z มีความเป็นโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง นิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในสายพันธ์ุที่ Type ตอบโจทย์ความเป็นตัวตน และอยู่ในโซเชียลมีเดียตามกลุ่มเฉพาะเจาะจง มีบทบาทในคอมมูนิตี้ตัวเอง

นอกเหนือจากนี้ Gen Z ยังมีการใช้จ่ายกับอาหารสัตว์เลี้ยงมากถึง 3,000 บาทต่อเดือน ผ่านการมองหาอาหารที่ดีมีคุณภาพ ยินดีเปิดรับแบรนด์ใหม่ ๆ มีการตัดสินใจซื้อที่รวดเร็วกว่า Gen ก่อนหน้า ถ้ามีข้อมูลที่เพียงพอ มี Brand Loyalty ถ้ามั่นใจ และพร้อมที่จะบอกต่อไปยังผู้อื่น นิยมซื้อผ่านช่องทางออนไลน์จากความสะดวก รวดเร็ว

ซึ่งที่ผ่านโรยัลคานิน มี Brand Awareness ไม่มากนักในกลุ่ม Gen Z เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลักยังคงอยู่ในกลุ่ม Gen X และ Gen Y ผ่านการสื่อสาร การให้ความรู้ด้านโภชนาการ คุณประโยชน์ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับสัตว์เลี้ยง ผ่านสัตว์แพทย์ ผู้เพาะพันธ์ุสัตว์เลี้ยงมาอย่างยาวนาน

 

การสร้าง Brand Awareness และ Engagement จึงเป็นเป้าหมายแรกที่โรยัลคานินต้องการพาตัวเองไปถึงกลุ่ม Gen Z ผ่านกลวิธีการ 2 ประการ ได้แก่

1. แต่งตั้งสกาย วงศ์รวี – นานิ หิรัญกฤษฎิ์ สองหนุ่มที่ได้รับความนิยมในกลุ่ม Gen Z ขึ้นเป็น Friend of Royal Canin เพื่อเป็นตัวกลางเชื่อมแบรนด์สร้างการรับรู้และการเข้าถึง ผ่านวิดีโอโฆษณา กิจกรรมการตลาด และอื่น ๆ

2. ให้ความสำคัญกับช่องทางโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะ TikTok, IG และ X (Twitter) ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียหลักของ Gen Z ในการสื่อสาร ผ่านภาษาเข้าใจง่ายไม่อ้อมค้อม ไม่ซับซ้อน เน้น Two Way Communication ข้อสงสัย เนื่องจาก Gen Z เป็น Gen ที่นิยมหาความรู้ผ่านสื่อต่าง ๆ มากกว่าการเข้าถามสัตวแพทย์ทางโรงพยาบาลและคลินิก ถึงแม้สัตวแพทย์จะเป็นแหล่งความรู้ที่เชื่อมั่นอันดับหนึ่งก็ตาม

อย่างไรก็ดี สำหรับการสร้าง Brand Awareness ในกลุ่ม Gen Z ถือเป็นการวางพื้นฐานแบรนด์ก่อนที่จะต่อยอดไปยังยอดขายในอนาคต โดยเฉพาะตลาดอาหารสัตว์กลุ่ม Super Premium ราคาสูงที่ โรยัลคานิน อยู่

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer