ในทุกธุรกิจล้วนมีแบรนด์ที่ประวัติน่าสนใจและคนทั่วโลกต่างรู้จัก แต่พัฒนาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาดบุคคลสำคัญที่ช่วยผลักดัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจที่พ่อแม่สร้างขึ้น ทายาทรุ่นต่อมามักเป็นผู้สานต่อ เช่นเดียวกับ Estée Lauder ที่ ลีโอนาร์ด ลอเดอร์ ลูกชายคนโตของผู้ก่อตั้ง คือหนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันแบรนด์ให้ก้าวไปข้างหน้า

ในยุคของลีโอนาร์ด ลอเดอร์ Estée Lauder เดินหน้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่องและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ แม้หลังจากนั้นเขาจะลงจากตำแหน่งซีอีโอ แต่ก็ยังเป็นกำลังสำคัญในการพาแบรนด์เจริญก้าวหน้าอีกหลายปี และยังมีส่วนทำให้เครื่องสำอางเป็นที่รู้จักในฐานะดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจอีกด้วย

ลีโอนาร์ด ลอเดอร์ เกิดเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 1933 ในครอบครัวชาวอเมริกันเชื้อสายยิวที่นครนิวยอร์ก เพียง 15 ปีต่อมา พ่อและแม่ของเขาก็ก่อตั้งแบรนด์ Estée Lauder ขึ้น ซึ่งชื่อแบรนด์ก็มาจากชื่อคุณแม่รวมกับนามสกุลนั่นเอง นี่ทำให้เขามีโอกาสได้เริ่มสัมผัสกับธุรกิจของครอบครัวตั้งแต่วัยเด็ก ในฐานะฟันเฟืองตัวน้อยที่ช่วยแม่แพ็กเครื่องสำอางส่งให้ลูกค้า

ต่อมาในปี 1958 หลังสำเร็จการศึกษา ลีโอนาร์ด ลอเดอร์ ก็เข้ามาร่วมงานกับ Estée Lauder อย่างเป็นทางการในวัย 25 ปี ซึ่งขณะนั้นบริษัทมีพนักงานเพียงไม่กี่คนและมียอดขายไม่ถึง 1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 32 ล้านบาท ตามค่าเงินปัจจุบัน) จากนั้นแบรนด์ที่พ่อและแม่ของเขาร่วมกันก่อตั้งก็เริ่มขยับขยาย โดยที่ลีโอนาร์ด ลอเดอร์ ก็ได้เรียนรู้งานและเพิ่มบทบาทในองค์กรอย่างต่อเนื่อง

ในปี 1982 ลีโอนาร์ด ลอเดอร์ ได้ขึ้นเป็นซีอีโอของ Estée Lauder เต็มตัว ซึ่งเขาก็ได้พาแบรนด์สู่หมุดหมายสำคัญทางธุรกิจมากมาย เช่น การขยายธุรกิจด้วยการซื้อแบรนด์ดังอย่าง Clinique, La Mer, The Ordinary, MAC Cosmetics และ Bobbi Brown มาอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน ต่อเนื่องด้วยการทำไอพีโอในปี 1995

ลีโอนาร์ด ลอเดอร์ ลงจากตำแหน่งซีอีโอในปี 1999 แต่ยังคงดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดบริหารต่ออีกหลายปี และในปี 2001 เขาทำให้ “ดัชนีลิปสติก” ที่นักวิชาการคิดค้นขึ้นช่วงปลายยุค 80 เป็นที่รู้จักมากขึ้น หลังจากที่เขาสังเกตเห็นว่าช่วงเกิดวินาศกรรม 11 กันยายน ซึ่งฉุดให้เศรษฐกิจตกต่ำ แต่ยอดขายลิปสติกกลับเพิ่มขึ้น

นี่เป็นการชี้ให้เห็นว่า หากสภาพสังคมไม่ปกติหรือเศรษฐกิจตกต่ำ ผู้หญิงจะซื้อลิปสติกคนละเล็กคนละน้อยเพื่อแต่งหน้าแต่งตาทาปากและทำให้ตัวเองสดใสขึ้น แม้ต้องจ่ายแพงกว่าปกติเล็กน้อย จนเป็นการสะท้อนเศรษฐกิจอย่างหนึ่ง

จากนั้นแม้ลีโอนาร์ด ลอเดอร์ จะลงจากตำแหน่งประธานบอร์ดบริหารแล้ว แต่ก็ยังถือเป็นบุคคลสำคัญของ Estée Lauder และวงการเครื่องสำอาง โดยที่ Estée Lauder เป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องสำอางดังที่คนทั่วโลกรู้จัก และมีมูลค่าแบรนด์เพิ่มเป็น 24,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 779,000 ล้านบาท)

ในปี 2021 ลีโอนาร์ด ลอเดอร์ เผยเคล็ดลับความสำเร็จของ Estée Lauder ในช่วงแรก ๆ ว่าไม่เคยซื้อโฆษณาเลย เพราะแจกสินค้าตัวอย่างเป็นจำนวนมาก และเชื่อว่าเมื่อมันมีมากพอ ย่อมต้องมีสินค้าที่ลูกค้าชอบอยู่ด้วย จนที่สุดพวกเขากลับมาซื้อซ้ำ

ที่สุดเส้นทางชีวิตของลีโอนาร์ด ลอเดอร์ ก็สิ้นสุดลง โดยเขาจากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2025 ด้วยวัย 92 ปี แต่เขาจะได้รับการจดจำตลอดไปในฐานะซีอีโอคนสำคัญของวงการเครื่องสำอาง

วิลเลียม ลอเดอร์ ลูกชายคนโตของลีโอนาร์ด ลอเดอร์ และประธานบอร์ดบริหาร Estée Lauder คนปัจจุบันกล่าวถึงพ่อไว้ว่า “ทำงานหนักมาตลอดชีวิต เพื่อสร้างและเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมความงาม โดยเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรม แนวโน้ม และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดหลายอย่างที่กลายเป็นรากฐานของอุตสาหกรรมในปัจจุบัน” / cnn, wikipedia

 

.

 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer