19 มิถุนายน 2569 คนไทยจะได้ใช้งาน Virtual Bank เป็นครั้งแรก หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยคัดเลือกให้ไลเซนส์ประกอบกิจการ Virtual Bank กับ 3 กลุ่มบริษัท จากผู้ยื่นคำขออนุญาต 5 ราย

การเปิดให้บริการ Virtual Bank ในประเทศไทย นับเป็นการให้ผู้รับเลือกเตรียมความพร้อมในการประกอบกิจการ 1 ปีเต็ม เนื่องจาก Virtual Bank ในครั้งนี้ ผู้ได้รับเลือกจะต้องจัดตั้งเป็นบริษัทมหาชน พร้อมทุนจดทะเบียน และ การสนับสนุนทางการเงินจากผู้ถือหุ้น ก่อนที่จะเตรียมความพร้อมในการประกอบธุรกิจตามแผน ทั้งด้าน People/ Process/ System และ การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ก่อนเปิดให้บริการจริงอย่างเป็นทางการ

ซึ่ง 3 กลุ่มบริษัทที่ได้รับไลเซนส์ในครั้งนี้ ถือว่ามีจุดเด่นที่แข็งแกร่งแตกต่างกัน ประกอบด้วย

1.กลุ่มธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ที่มีจุดเด่นด้าน Data Base ของฐานลูกค้าที่มาจาก 3 กลุ่มองค์กรธุรกิจ ที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันเพื่อให้บริการ Virtual Bank ไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ที่ธนาคารไม่สามารถให้บริการได้ในปัจจุบัน

โดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ถือเป็นธนาคารที่มีฐานลูกค้ารายบุคคลขนาดใหญ่ในกลุ่มภาครัฐ และเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเป๋าตังที่มีฐานผู้ใช้บริการ 40 ล้านราย ที่มีกลุ่มผู้บริการหลากหลาย และถุงเงิน 1.8 ล้านราย ในกลุ่มร้านค้า

ตลอดจน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือOR มีฐานลูกค้ากลุ่ม B2C (Business to Consumer) และ B2B (Business to Business) ผ่านเครือข่ายสถานีบริการ PTT Station กว่า 2,500 แห่ง และร้านคาเฟ่อเมซอนกว่า 4,000 แห่ง ที่ต่างเป็น Touch Point กับผู้บริโภค

ส่วนบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS เป็นบริษัทดิจิทัลและโทรคมนาคม ที่มีฐานลูกค้าผู้ใช้บริการเครือข่ายมือถือและอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์มาถึง 50 ล้านราย

 

2.กลุ่ม บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน), WeTechnology Limited และ KakaoBank Corp. ถือเป็นกลุ่มที่ผนึกกำลังของ 3 กลุ่มธนาคาร ที่สามารถนำประโยชน์จากประสบการณ์ และเทคโนโลยีของพาร์ทเนอร์ผู้คร่ำหวอดในวงการธนาคารดิจิทัล และ Virtual Bank ที่ประสบความสำเร็จในจีน และเกาหลีใต้ ที่มีจุดเด่นแตกต่างกันเพื่อสร้างประสบการณ์ในการให้บริการ Virtual Bank ในประเทศไทย

ซึ่ง WeTechnology คือผู้ก่อตั้ง We Bank ผู้ให้บริการ We Bank ธนาคารดิจิทัลแห่งแรกของจีนให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งหมด การให้บริการของ We Bank ในประเทศจีน มีจุดเด่นด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีที่สามารถรองรับการใช้งานได้ถึง 400 ล้านคนอย่างไม่มีปัญหาและโมเดลธุรกิจ Inclusive Finance ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงการเงินได้อย่างน่าสนใจ

ส่วน Kakao Bank Corp. ถือเป็นธนาคาร Virtual Bank ที่ประสบความสำเร็จในเกาหลี พร้อมกับความโดดเด่นด้านการออกแบบ UX/UI (User Experience / User Interface) ที่ใช้งานง่าย

 

3.บริษัท เอซีเอ็ม โฮลดิ้ง จำกัด บริษัทที่มีจุดแข็งจากการมีผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ ซึ่งเป็นบริษัทลูกในเครือซีพี และไม่มี Ant International เครือ Alibaba มาเกี่ยวข้อง

โดยแอสเซนด์ มันนี่ เป็นผู้พัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์ม True Money ที่มีประสบการณ์ให้บริการอีวอลเลตมาอย่างยาวนานและฐานลูกค้ากลุ่มหนึ่งของ True Money ไม่สามารถเข้าถึงธุรกรรมทางการเงินในธนาคารพาณิชย์ได้

นอกจากนี้ แอสเซนด์ มันนี่ ยังประกอบด้วย Ecosystem ให้บริการทางการเงินอื่นๆ เช่นสินเชื่อที่มีลูกค้ามากกว่า 50% ที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อครั้งแรก ที่จะกลายเป็นโอกาสที่สำคัญในการขยายฐานลูกค้าให้กับ Virtual Bank ของตัวเอง

สำหรับเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย ในการอนุญาตประกอบกิจการ Virtual Bank ในไทย เพื่อเข้าถึงผู้มีเงินออมน้อย, ผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กที่ประกอบกิจการต่างๆ ที่ไม่สามารถเข้าถึงเงินกู้จากสถานบันการเงินได้ เพราะไม่มีเอกสารหลักฐานแสดงรายได้ และได้กรณีกู้ได้อาจถูกคิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูง เพราะไม่มีหลักประกันความเสี่ยง

สำหรับ Virtual Bank แม้จะใหม่ในประเทศไทย แต่สำหรับโลกแล้ว Virtual Bank ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เกิดขึ้น โดย Virtual Bank มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปในหลากหลายประเทศ เช่น Internet Only Bank, Digital Bank หรือ Neobanks โดยมี Rakuten Bank จากประเทศญี่ปุ่นที่วางตัวเองเป็น Internet Only Bank มาตั้งแต่ปี 2543 ก่อนที่ประเทศอื่นๆ จะพัฒนา Virtual Bank ให้บริการตามมา เช่น We Bank หนึ่งพาร์ทเนอร์ Virtual Bank ในประเทศไทย ให้บริการในปี 2556-2557

จากข้อมูล Horizon Grand View Research พบว่า มูลค่า Virtual Bank โลกมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ปี 2566 มูลค่า 96,140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.15 ล้านบาท)

ปี 2567 มูลค่า 140,040 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.59 ล้านบาท)

ปี 2568 มูลค่า 211,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6.93 ล้านบาท)

ปี 2569 มูลค่า 322,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 10.57 ล้านล้านบาท)

ปี 2570 มูลค่า 502,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 16.47 ล้านล้านบาท)

ปี 2571 มูลค่า 794,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 26.04 ล้านล้านบาท)

ปี 2572 มูลค่า 1,271,160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 41.72 ล้านล้านบาท)

ปี 2573 มูลค่า 2,048,520 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 67.18 ล้านล้านบาท)

 

Marketeer FYI 

Virtual Bank ไม่ใช่ Digital Banking เนื่องจาก Virtual Bank เป็นธนาคารที่ไม่มีสาขา และให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลทั้งหมด สามารถออกแบบบริการใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วตามความต้องการผู้บริโภค สามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการที่ธนาคารธนาคารพาณิชย์รูปแบบเดิมเข้าถึงไม่ได้ บนต้นทุนในการให้บริการที่ต่ำกว่า

ส่วน Digital Banking เป็นหนึ่งในบริการของธนาคารพาณิชย์แบบดั้งเดิม ที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาให้บริการลูกค้าในรูปแบบต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer