WPP Media บริษัทโฆษณาอันดับต้นๆ ของโลกประกาศผลกำไรครึ่งแรกปี 2025 ออกมาแล้ว โดยปรากฏอยู่ที่ 98 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,400 ล้านบาท) หรือลดลงไปถึง 71%
ขาลงอย่างรุนแรงดังกล่าว เป็นผลมาจากแบรนด์ใหญ่ๆ ที่เป็นลูกค้ามานาน อย่าง Coca-Cola, Paramount และ Mars ลดงบซื้อสื่อและโฆษณาลงอย่างมาก เพราะต่างก็กลัวผลกระทบของกำแพงภาษีที่สหรัฐฯ ที่อาจนำมาสู่กระแสต่อต้านสินค้าสหรัฐฯ ในหลายประเทศทั่วโลก และการใช้จ่ายอย่างประหยัด อันจะทำให้ยอดขายสินค้าลดลง
นอกจากนี้ ก็ยังอยู่ท่ามกลางการยกเครื่ององค์กรครั้งใหญ่ โดยได้มีการปลดพนักงานไปแล้ว 7,000 คน โดยแม้ส่วนหนึ่งเป็นไปเพื่อลดค่าใช้จ่าย แต่อีกเหตุผลสำคัญมาจากการเตรียมพร้อมให้เอไอ เข้ามาทำงานแทนคนในอนาคต
ผลกระทบของเอไอต่อตัวเลขทางธุรกิจของ WPP Media ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะการที่เอไอถูกนำมาใช้ในบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ ต่อเนื่องไปถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทำให้การซื้อโฆษณาลดลง
หนึ่งในบริษัทที่กำลังปฏิวัติวงการโฆษณา และอาจกลายมาเป็นคู่แข่งของ WPP Media ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งคือ Meta บริษัทแม่ของ Facebook ที่พัฒนาเครื่องมือ AI ให้นักการตลาดสร้างและยิงแคมเปญโฆษณาบนโซเชียลมีเดียได้เองโดยตรง ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวเต็มรูปแบบภายในสิ้นปีหน้า
ประกอบกับแม้ WPP Media ได้เพิ่มการลงทุนด้านเอไอเป็น 300 ล้านปอนด์ (ประมาณ 13,000 ล้านบาท) ต่อปี แต่ก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ต้องติดตามต่อไปว่าจะผลิดอกออกผลทางธุรกิจได้มากน้อยแค่ไหน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลต่อเนื่องให้ WPP Media ต้องลดเงินปันผลลงครึ่งหนึ่ง และฉุดให้ราคาหุ้นร่วงลงอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้หุ้นเคยร่วงไปแล้ว 19% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ และล่าสุดในการซื้อขายเมื่อ 7 สิงหาคมก็ลดลงอีก ส่งผลให้มูลค่ารวมลดลงกว่าครึ่งหนึ่งนับตั้งแต่ต้นปี 2025 มา
ขาลงดังกล่าวยังมีขึ้นท่ามกลางการปรับเปลี่ยนผู้บริหาร โดย มาร์ค รีด ซีอีโอคนปัจจุบัน จะทำงานถึง 31 สิงหาคมนี้ แล้วเปิดทางให้ซินดี้ โรส ที่ย้ายมาจาก Microsoft ได้ขึ้นมาบริหารแทน
ดังนั้นหน้าที่ในการนำ WPP Media ฝ่าความท้าทายต่างๆ และโอกาสในการพิสูจน์ฝีมือ จะอยู่ที่ ซินดี้ โรส ซึ่งก็มีแนวโน้มในทางบวก เพราะเธอเป็นผู้บริหารระดับสูงของ Microsoft ที่ดูแลเรื่องการเปลี่ยนไปใช้เอไอขององค์กร และยังเป็นบอร์ดบริหารของ WPP Media ตั้งแต่ปี 2019 อีกด้วย / theguardian