CRG เร่งเครื่องนวัตกรรมอาหารผ่าน Delicious Lab เปิดเกมรุกธุรกิจร้านอาหารไทยสู่อนาคต
Where Innovation Meets Taste ผสานนวัตกรรม สู่รสชาติที่เหนือกว่า
สโลแกนนี้ไม่ใช่แค่คอนเซ็ปต์ของ CRG (Central Restaurants Group) แต่คือภาพจำของผู้นำธุรกิจร้านอาหารไทยที่อยู่ในทุกจังหวะชีวิตผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นโดนัทจาก Mister Donut, เพรทเซลจาก Auntie Anne’s หรือทงคัตสึจาก Katsuya ชื่อเหล่านี้ทำให้ผู้บริโภคหลายล้านคนเชื่อมโยงกับCRGได้ทันทีว่า “นี่คือแบรนด์ที่เข้าใจการกินของคนไทย”
และในวันที่ตลาดอาหารแข่งขันดุเดือด CRGกำลังเดินเกมใหม่ ด้วยการเปิด “Delicious Lab” ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมอาหาร ที่จะเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและสร้างเทรนด์อาหารแห่งอนาคต

Delicious Lab จากครัวทดลอง สู่ “อาวุธลับ” ทางกลยุทธ์
สำหรับหลายคน Delicious Lab อาจฟังดูเหมือนห้องทดลองสูตรอาหารใหม่ แต่สำหรับCRGแล้ว มันคือ “อาวุธลับ” เชิงกลยุทธ์ ที่ทำให้แบรนด์ในเครือCRGเติบโตอย่างก้าวกระโดด ผ่านการคิดค้น พัฒนา และต่อยอดเมนูใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งสู่ 3 เป้าหมายหลัก คือ สร้างการเติบโตทางธุรกิจ ผ่านเมนูใหม่ที่กระตุ้นยอดขาย เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยรสชาติที่แตกต่างและสร้างสรรค์ และสร้างความยั่งยืน ผ่านวัตถุดิบที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ลดของเสีย และดีต่อสุขภาพ
ทั้งหมดนี้ขับเคลื่อนด้วย 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
- Quality = Delicious ยกระดับคุณภาพวัตถุดิบ เช่น หมูสดไม่แช่แข็ง และเบเกอรี่นุ่มสดใหม่
- Premium Affordable เสิร์ฟเมนูระดับพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงได้
- Innovation สร้าง Taste Profile ใหม่ ๆ ที่สอดรับกับเทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภค และสามารถแข่งขันได้จริงในตลาด
เจาะกลุ่มเป้าหมาย คนเมือง คนรุ่นใหม่ ที่มองหา “อาหารมากกว่าความอร่อย”
อินไซต์ที่CRGมองเห็นคือ ผู้บริโภคยุคนี้ไม่กินอาหารแค่เพราะอิ่ม แต่ต้องการประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพ รสชาติ ไลฟ์สไตล์ และความคุ้มค่า โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และคนทำงานในเมือง ที่ชอบลองอะไรใหม่ ๆ พร้อมแชร์ต่อบนโซเชียล
- พวกเขาอินกับเมนูที่สะท้อนเทรนด์โลก เช่น Plant-based, High Protein หรือ Low-carb
- สนใจอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลดโซเดียม น้ำตาล และใช้วัตถุดิบใส่ใจสิ่งแวดล้อม
- และยังโหยหาประสบการณ์ที่ “พิเศษและเล่าได้” มากกว่ามื้อธรรมดา
นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมCRGต้องเร่งเครื่องนวัตกรรม ผ่านเมนูใหม่กว่า 600 รายการในปี 2568
ตัวอย่างล่าสุดที่เห็นภาพชัดคือ Mister Donut กับเมนู โดนัทมัทฉะ ที่ใช้ชาเขียวอุจิเข้มข้น ทั้งแบบท็อปปิ้ง สอดไส้ และผสมลงในแป้งไวท์พอนเดอริง หรือ Auntie Anne’s ที่เปิดตัว แซนวิชแฮมชีสเพสโต้ และ ชิโอะเพรทเซล ที่กำลังเป็นไวรัลในโซเชียล และ Katsuya กับการปรับโฉมร้าน และอัปเกรดประสบการณ์ทงคัตสึให้น่าจดจำ ด้วยเมนู นาเบะสุกี้ยากี้ และ แบล็คทรัฟเฟิลชีส ที่ให้ฟีลพรีเมียม แต่ราคายังคงเข้าถึงได้
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่าCRGไม่ได้ขาย “อาหาร” เพียงอย่างเดียว แต่กำลังขาย Story + Experience ที่ผู้บริโภคอยากแชร์
Engagement ที่สร้างสายสัมพันธ์
สิ่งที่ทำให้ Delicious Lab น่าสนใจกว่าการเป็นแค่ R&D Kitchen คือ บทบาทในการเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค ผ่านการใช้ Big Data และ AI วิเคราะห์เทรนด์ พฤติกรรม เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้แม่นยำ การสร้างเมนูเฉพาะทาง เช่น สำหรับคนที่มีข้อจำกัดด้านสุขภาพ หรือเมนู Plant-based และพัฒนา Collaboration กับแบรนด์และพาร์ตเนอร์ต่าง ๆ เพื่อต่อยอดเป็นแคมเปญใหม่ ๆ ที่สร้าง Buzz และ Engagement นั่นทำให้เราเห็นว่า CRG ไม่ได้หยุดแค่ “การขายเมนูใหม่” แต่กำลังสร้าง ระบบนิเวศอาหารที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของลูกค้า

CRG กับบทบาทผู้นำเทรนด์อาหารแห่งอนาคต
ในอีก 3–5 ปีข้างหน้า CRGตั้งเป้าให้ Delicious Lab เป็น ศูนย์กลางนวัตกรรมอาหาร ที่ไม่ใช่แค่ทดลองเมนู แต่คือกลไกขับเคลื่อนธุรกิจ เชื่อมโยงผู้คน และผลักดันให้แบรนด์ในเครือก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดได้จริง
เพราะสุดท้ายแล้ว สิ่งที่ผู้บริโภคจะจดจำไม่ใช่แค่เมนูใหม่ที่ลอง แต่คือความรู้สึกที่ว่า “CRG คือแบรนด์ที่เข้าใจการกินในแบบที่คนรุ่นใหม่อยากได้”
เหมือนกับแนวคิดที่ว่า Where Innovation Meets Taste ผสานนวัตกรรม สู่รสชาติที่เหนือกว่า
#CRG #DeliciousLab #FoodInnovation
Website : Marketeeronline.co /
