ไปรษณีย์ไทย ประกาศผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรก 2568 มีกำไรสุทธิ 631.56 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 362.34% รายได้รวม 11,544 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.88%
รายได้และกำไร บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
ปี 2563 รายได้ 23,712 ล้านบาท กำไร 238 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 21,226 ล้านบาท ขาดทุน 1,730 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 19,546 ล้านบาท ขาดทุน 3,018 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 20,934 ล้านบาท กำไร 78 ล้านบาท
ปี 2567 รายได้ 20,993 ล้านบาท ขาดทุน 186 ล้านบาท

ดร. ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า การกลับมาขาดทุนอีกครั้งในปีที่ผ่านมาของไปรษณีย์ไทย เนื่องจากเกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้อยู่ในแผน อาทิ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ค่าวิชาชีพ และเงินเยียวยา
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งแรก (ม.ค. – มิ.ย.) ปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 11,544 ล้านบาท เติบโต 8.88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกลับมามีกำไรอีกครั้งที่ 631.56 ล้านบาท เติบโต 362.34% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน การเติบโตมาจากปัจจัยหลัก ๆ อย่าง การขยายเครือข่ายโลจิสติกส์ การพัฒนาบริการค้าปลีก โดยเฉพาะการนำสินค้าชุมชนมาวางขายในช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ของไปรษณีย์ไทย ซึ่งยังสร้างปริมาณชิ้นงานส่งพัสดุเพิ่มขึ้นไปได้ในตัว ตลอดจนการนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งได้ราว 100 ล้านบาท
หากแบ่งสัดส่วนรายได้ของบริษัท ครึ่งแรก ปี 2568 ตามกลุ่มธุรกิจ กลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ 47%, กลุ่มบริการไปรษณียภัณฑ์ 37%, กลุ่มบริการระหว่างประเทศ 10%, กลุ่มบริการค้าปลีกและการเงิน 5% และกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ เพื่อสร้างรายได้และตอบสนองความต้องการใหม่ ๆ ของตลาด 1%
โดยการเปิดตัว แอปไปรษณีย์ไทย ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ ที่มาพร้อมบริการอย่างระบบจ่าหน้าแบบดิจิทัล, บริการตู้ไปรษณีย์ดิจิทัล ตลอดจนระบบติดตามไปรษณียภัณฑ์และพัสดุ ที่สร้างความสะดวกสบายจากการรวมทุกบริการไว้ในแอปเดียว บริษัทประเมินว่าจะดึงดูดผู้ใช้งานแอปแตะ 1 ล้านบัญชีในปีนี้
แอปไปรษณีย์ไทยจะมาเป็นกลยุทธ์สำคัญในการต่อยอดข้อมูลขนาดใหญ่สู่ “Data as a Service” ที่จะสร้างรายได้เชิงพาณิชย์ให้บริษัทได้อย่างจริงจังในปี 2569 ช่วยลดการพึ่งพิงงบประมาณรัฐ โดยใช้การวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อพัฒนาบริการที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลและภาคธุรกิจได้อย่างแม่นยำ
บริษัทยังได้วางแผนขยายความร่วมมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่น เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าและการเข้าถึงบริการดิจิทัลอย่างทั่วถึงพร้อมทั้งผลักดันโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยและวิสาหกิจชุมชนให้สามารถใช้แพลตฟอร์มไปรษณีย์ไทยเป็นช่องทางสร้างรายได้ และเข้าถึงตลาดใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมกันนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และยึดหลักธรรมาภิบาลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนและภาคธุรกิจ โดยมุ่งให้ไปรษณีย์ไทยไม่เพียงเป็นผู้ให้บริการขนส่ง แต่เป็นกลไกสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล และสร้างคุณค่าทางสังคมในระยะยาว
อ่านข่าวเพิ่มเติม: แอปไปรษณีย์ไทยเปิดให้ใช้งาน 1 ก.ย.นี้
