เอไอเอส เปิดแผนงานก้าวสู่ปีที่ 36 กลุ่ม Mobile, Broadband และ Enterprise แข็งแกร่ง ลุยสร้าง Data Center เจาะศักยภาพตลาดของกลุ่มหลัง ทั้งเร่งเครื่องกลุ่มธุรกิจใหม่ หรือ Non-Mobile อย่าง Retail, Entertainment, Digital Finance วางดันสัดส่วนรายได้กลุ่มนี้ ขยับเป็น 20% ใน 3 ปี   

คุณสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจหลักขององค์กร ซึ่งประกอบด้วยกลุ่ม Mobile, Broadband, Enterprise โดยวางให้ธุรกิจเหล่านี้เป็นรากฐานที่มั่นคงและเป็นเสาหลักของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทย

ธุรกิจ Mobile, Broadband, Enterprise นับเป็นกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ 90% ของบริษัท โดยการมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่ง นับเป็นหัวใจสำคัญของกลุ่มธุรกิจ

กลุ่ม Mobile บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะให้บริการโครงสร้างเครือข่ายที่แข็งแรงที่สุดผ่านเครือข่ายไร้สาย 5G กลุ่ม Broadband บริษัทยังเน้นการขยายขอบข่ายการให้บริการอย่างต่อเนื่องผ่าน AIS Fibre 3 และ 3BB Fibre 3 และทั้งสองกลุ่มธุรกิจจะมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเพื่อให้การบริการมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น

ขณะที่กลุ่ม Enterprise บริษัทมองว่าธุรกิจยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก แม้ว่ากว่า 70% ขององค์กรขนาดใหญ่ในประเทศไทยจะเป็นลูกค้าของ AIS อยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาบริษัทยังโฟกัสในส่วน Non-Mobile น้อยมาก การขยายธุรกิจในส่วนนี้กับกลุ่มดังกล่าว จึงเป็นโอกาสในการเพิ่มรายได้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งบริษัทกำลังเร่งเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสำหรับลูกค้ากลุ่มดังกล่าว มีการลงทุนและพัฒนาในเรื่องของคลาวด์และศูนย์ข้อมูล (Data Center) อย่างจริงจัง ตอนนี้บริษัทกำลังขยาย Data Center เพิ่มอีกหนึ่งแห่ง ซึ่งจะเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้ 

บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตใหม่ผ่านกลุ่มธุรกิจที่เรียกว่า Gold Engine โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Non-Mobile ทั้งหมดให้สูงกว่า 20% ภายใน 3 ปีข้างหน้า หรือในปี 2571 จากปัจจุบันอยู่ที่ 10% ซึ่งธุรกิจใหม่ที่จะเป็นเสาหลักประกอบด้วย Retail, Entertainment, Digital Finance

ธุรกิจร้านค้าปลีก บริษัทจะพัฒนาประสบการณ์ในร้านค้าปลีกให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ดิจิทัลของลูกค้ามากขึ้น แต่ยังไม่ได้มองถึงการขยายไปสู่การขายสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป

การพัฒนาร้านค้า จะเป็นการเพิ่มความสามารถในการให้บริการ ให้คำปรึกษา และซื้อขายสินค้าที่หน้าสาขา โดยขยายหมวดหมู่สินค้า Gadget, Home Internet, Entertainment Package และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้การบริการครอบคลุมขึ้น

ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ บริษัทได้แยกธุรกิจดังกล่าวออกมาจากกลุ่ม Mobile ชัดเจน เพื่อสร้างให้เป็น Entertainment Platform ที่แข็งแกร่งของเมืองไทย โดยนำเสนอเนื้อหาและความสุขสู่ครอบครัวคนไทยกว่า 5 ล้านครัวเรือน

ธุรกิจ Digital Finance หรือ Virtual Bank บริษัทได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย (KTB) และ ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ในสัดส่วนการถือหุ้น 39%, 41%, 20% ตามลำดับ เพื่อจัดตั้ง Virtual Bank ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้กำหนดระยะเวลาให้เปิดบริการได้ภายใน 1 ปี หลังจากได้รับความเห็นชอบ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบของธปท. โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการช่วงกลางปี 2569

บริษัทมองว่าพันธมิตรทั้ง 3 รายมีฐานลูกค้าในประเทศที่ใหญ่ โดย Virtual Bank จะมุ่งเน้นการให้บริการแก่ลูกค้าในกลุ่มที่ยังเข้าถึงบริการทางการเงินได้ไม่เต็มที่ เช่น ผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำที่ชัดเจน หรือผู้ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งตลาดนี้มีศักยภาพการเติบโตสูง

รูปแบบบริการของ Virtual Bank จะเน้นให้บริการบนดิจิทัลฟอร์แมต ซึ่งลดความจำเป็นในการพึ่งพาสาขาธนาคาร

อย่างไรก็ตาม แม้บริษัทจะมุ่งเป้าในการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจ Non-Mobile ให้เกิน 20% ภายใน 3 ปีข้างหน้า แต่ธุรกิจหลัก Mobile, Broadband, Enterprise ที่ยังคงสร้างรายได้ 90% จะต้องกลายเป็น 80% ที่มีสัดส่วนรายได้สูงกว่า 90% ในปัจจุบัน ซึ่งการขยายธุรกิจ Enterprise จะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตนี้

กลยุทธ์ด้านบุคลากรและการใช้ AI บริษัทมองว่า AI จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร โดยได้นำ AI มาใช้ในงานเบื้องต้น เช่น Call Center และงานขาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และทำให้ลูกค้าได้รับบริการที่เร็วขึ้น 

บริษัทยังวาง AI เข้ามาเพื่อแทนงานสถิติ งานประมวลผล ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้พนักงานสามารถยกระดับตัวเองไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรม แต่บริษัทเชื่อมั่นว่า AI จะไม่เข้ามาแทนที่พวกเขา โดยจะให้ความสำคัญกับการที่พนักงานต้องปรับทักษะเพื่อให้สามารถใช้งาน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งเพื่อรองรับแผนงานการขยายธุรกิจ บริษัทได้ปรับโครงสร้างผู้บริหารใหม่

คุณปรัธนา ลีลพนัง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านปฏิบัติการ ดูแลธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ 90% ของบริษัท

คุณธีร์ สีอัมพรโรจน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการเงิน ดูแลด้านการเงิน การลงทุน และการสร้างธุรกิจใหม่ ๆ เช่น Virtual Bank 

คุณกานติมา เลอเลิศยุติธรรม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านธุรกิจองค์กร ดูแลงานสนับสนุนทีมหลังบ้าน

ทั้งนี้ ตลอด 35 ปี แห่งความไว้วางใจของลูกค้า บริษัทขอขอบคุณจากใจ ด้วยการยกขบวนความพิเศษครั้งยิ่งใหญ่ผ่านแคมเปญ “AIS 1 Point 12 Weeks 12 Wow” ที่ใช้เพียง 1 พอยท์ เตรียมแลกรับสิทธิพิเศษ หรือแลกสิทธิ์ลุ้นรางวัลสุดว้าวได้ทุกสัปดาห์ ต่อเนื่องตลอด 3 เดือนเต็ม ประเดิมความว้าวแรก 1 ตุลาคม 2568 1 พอยท์ แลก 1 สิทธิ์ ลุ้นรับรางวัลใหญ่ อาทิ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทอง และอีกมากมาย และยังมีอีกหลากหลายกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟในแต่ละสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นดิจิทัลแพ็กเกจสุดคุ้ม หรือคอนเทนต์บันเทิงระดับพรีเมียม ที่จะมอบประสบการณ์เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้ากว่า 51 ล้านรายทั่วประเทศ ติดตามได้บน myAIS


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer